PVH Corp. ประกาศการเปลี่ยนแปลงด้านผู้นำ ณ Tommy Hilfiger และ PVH Europe

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–2 มิ.ย. 2563

PVH Corp. (NYSE:PVH) เจ้าของพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ซึ่งรวมถึง TOMMY HILFIGER และ CALVIN KLEIN ประกาศในวันนี้ว่า Daniel Grieder จะก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Tommy Hilfiger Global & PVH Europe หลังจากการทำงาน 23 ปีในบทบาทการจัดการต่าง ๆ มากมายภายในองค์กร โดยเขาจะออกจากบริษัทเพื่อไปทำสิ่งอื่น ๆ ที่เขาสนใจ ทั้งนี้ Martijn Hagman จะมาดำรงตำแหน่งแทน Grieder และจะเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของ Tommy Hilfiger Global & PVH Europe ซึ่งมีผลในวันที่ 2 มิถุนายน 2563

ปัจจุบัน Hagman ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Tommy Hilfiger Global & PVH Europe และหัวหน้าฝ่ายการเงิน Tommy Hilfiger Global ดูแลการดำเนินงานการเงิน การเปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นดิจิทัล เทคโนโลยี การพัฒนาธุรกิจและโครงการความยั่งยืนระดับโลกของ Tommy Hilfiger เขาทำงานเป็นเวลา 12 ปีในทีมผู้นำของ Tommy Hilfiger และเป็นบุคคลสำคัญในการขยายตัวทั่วโลกที่น่าประทับใจของ Tommy Hilfiger ตลอดจนถึงกลยุทธ์ที่นำไปสู่การเติบโตที่มั่นคงของ PVH ยุโรป ทุก ๆ ปี ตลอดมานี้

“Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe เริ่มต้นปีนี้บนเส้นทางที่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับที่พวกเขาเป็นมาตลอดโดยมีแนวโน้มการขายที่แข็งแกร่งและมีการพัฒนาการรับรู้ของแบรนด์และการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค” Manny Chirico ประธานและซีอีโอ PVH Corp. กล่าว "Daniel เป็นบุคคลที่กระตุ้นการพัฒนาขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของบริษัทเราและขยายขอบเขตการเข้าถึง TOMMY HILFIGER ไปทั่วโลก ช่วยผลักดันมายด์เซ็ตแบบที่ให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางและมุ่งเน้นการทำงานในรูปแบบดิจิทัลที่ยั่งยืน ในขณะเดียวกันเขาก็สร้างทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่งมาก”

“มันเป็น 23 ปีที่พิเศษมาก” Grieder กล่าว “ ขณะที่เราอยู่ท่ามกลางจุดหัวเลี้ยวหัวต่อในอุตสาหกรรมของเรา เราพบว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ผมเชื่อว่าจะขับเคลื่อนเราไปสู่ยุคใหม่ของแบรนด์ มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่ได้รู้ว่าผมสามารถส่งต่อเก้าอี้ของผมให้แก่ Martijn เพราะเขาเป็นเพื่อนแท้ที่สนิทไว้ใจได้ และเป็นเพื่อนร่วมงานที่เชื่อถือได้มาตลอด 12 ปีที่ผ่านมาของการเดินทางครั้งนี้ ไม่เคยมีเวลาใดที่เหมาะสำหรับการออกจากองค์กรที่คุณรัก คุณมีทางเลือกสองอย่างคือไม่ออกช้าไปก็ออกเร็วเกินไป และผมรู้ว่าผมต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในขณะที่ยังคงมองโลกในแง่ดี ยังมีเรี่ยวแรงและแรงผลักดันที่ผมยึดถือมาตลอดในอาชีพของผม”

ภายใต้ความเป็นผู้นำของ Grieder บริษัท Tommy Hilfiger ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทไลฟ์สไตล์ชั้นนำที่มีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในสินค้าประเภทเดียวกัน มีความเป็นผู้นำในด้านความผูกพันกับผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงเป็นระบบดิจิทัลและความรับผิดชอบต่อองค์กร ตั้งแต่ Grieder กลายเป็น CEO ของ Tommy Hilfiger Global & PVH Europe ในปี 2557 ธุรกิจ Tommy Hilfiger เติบโตขึ้นจาก 6 พันล้านดอลลาร์สู่ 9 พันล้านดอลลาร์ในยอดค้าปลีกในปี 2562 และธุรกิจ Calvin Klein ในทวีปยุโรปเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทั้งในส่วนของรายได้และกำไร

Stefan Larsson ประธาน PVH กล่าวว่า“ Daniel และ Martijn ร่วมกันปลูกฝังวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการไปสู่อนาคต การทำให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางและการสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยผลิตภัณฑ์ เราขอขอบคุณสำหรับความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ Daniel ผมมีความมั่นใจอย่างมากใน Martijn ในฐานะผู้นำที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตัวขับเคลื่อน มูลค่าพื้นฐานของธุรกิจ ความคิดที่ว่าผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางของเขา และความเป็นผู้นำที่มุ่งเน้นด้านดิจิทัลจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในยุคต่อไปของการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลกำไรให้กับ Tommy Hilfiger และภูมิภาคยุโรป”

Hagman กล่าวว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความสำเร็จของแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ PVH Europe ควบคู่ไปกับทีมผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยแรงผลักดัน ผมยังต้องขอขอบคุณ Daniel สำหรับการสนับสนุนที่ไม่เสื่อมคลายและโอกาสในการพัฒนาและความเป็นผู้นำที่เขามอบให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรามีความมั่นใจในการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยการมุ่งเน้นของเราในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะอยู่ที่การฟื้นตัวและการกลับคืนตัวของธุรกิจทั่วโลกของเราหลังจากที่มีการระบาดของ COVID-19 "

Grieder จะช่วยส่งต่อความรับผิดชอบของ  Hagman ในช่วงสองสามเดือนข้างหน้านี้ เพื่อทำให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงจะราบรื่นและประสบความสำเร็จ

ทั้ง Grieder และ Hagman ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ก่อตั้งแบรนด์และหัวหน้าดีไซเนอร์ คุณ Tommy Hilfiger มาเป็นเวลาหลายปี

“ความเชื่อและความตื่นเต้นของผมสำหรับอนาคตของแบรนด์ของเรานั้นไม่เคยแข็งแกร่งไปกว่านี้” Tommy Hilfiger กล่าว “ ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Daniel สู่องค์กรของเรานั้น คือการเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับผู้บริโภคของเรามากขึ้น และสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กรที่อุทิศให้กับการอยู่บนความทันสมัยของผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และวัฒนธรรม ตัว Martijn เองก็เดินทางอยู่ในเส้นทางนี้แล้ว และเราจะร่วมกันเขียนอนาคตของแบรนด์ของเรา ควบคู่ไปกับเหล่าพันธมิตรและผู้บริโภคทั่วโลก”

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH ได้สร้างมาตรฐานของสไตล์ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราเป็นแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้ามาโดยตลอด ผลงานที่โดดเด่นของเรารวมถึงTOMMY HILFIGER, CALVIN KLEIN, Van Heusen, IZOD, ARROW, Speedo*, Warner’s, Olga และ Geoffrey Beene, ตลอดไปจนถึงแบรนด์ชุดชั้นใน True & Co. ที่มีความเป็นดิจิตอลสูง เราทำการตลาดสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เหล่านี้และเป็นที่รู้จักในระดับประเทศและต่างประเทศและเป็นแบรนด์ที่ได้รับอนุญาตลิขสิทธิ์ของตนเอง PVH มีพนักงานมากกว่า 38,000 คนในกว่า 40 ประเทศและมีรายรับต่อปีเกือบ 9,700 ล้านดอลลาร์ ทั้งหมดนี้คือพลังของ PVH

แถลงการณ์ด้านความปลอดภัยภายใต้พระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 (SAFE HARBOR STATEMENT UNDER THE PRIVATE SECURITIES LITIGATION REFORM ACT OF 1995): แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจในอนาคตของ บริษัท ของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995  นักลงทุนพึงระวังว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ด้วยความแม่นยำและบางส่วนอาจคาดการณ์ไม่ถึงซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่ (i) แผนกลยุทธ์วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจของบริษัทที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามดุลยพินิจของ บริษัท ; (ii) บริษัท อาจได้รับการพิจารณาว่าได้รับการยกระดับอย่างสูงและใช้กระแสเงินสดเป็นส่วนสำคัญในการบริหารหนี้สินอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทอาจไม่มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ บริษัทตั้งใจหรือที่เคยมีการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา; (iii) ระดับการขายของเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องของบริษัท ทั้งกับลูกค้าขายส่งและในร้านค้าปลีกระดับการขายใบอนุญาตของ บริษัท ในการค้าส่งและค้าปลีกและขอบเขตของส่วนลดและราคาโปรโมชั่น ซึ่งบริษัทและผู้รับใบอนุญาตและพันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ จะต้องมีส่วนร่วม ซึ่งทั้งหมดนี้อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน การลดลงของการเดินทาง แนวโน้มแฟชั่น การรวมกันของบริษัทและการล้มละลายในอุตสาหกรรมค้าปลีก การเปลี่ยนตำแหน่งแบรนด์โดยผู้อนุญาตของบริษัท และปัจจัยอื่น ๆ (iv) ความสามารถของบริษัทในการจัดการการเติบโตและสินค้าคงคลัง รวมไปถึงความสามารถของบริษัทในการหาประโยชน์จากการเข้าซื้อกิจการ เช่น การเข้าซื้อกิจการที่รอดำเนินการซึ่งระบุไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ (v) ข้อจำกัดด้านโควต้า การกำหนดมาตรการควบคุม ป้องกัน และการกำหนดหน้าที่หรือภาษีศุลกากรของสินค้าจากประเทศที่บริษัทหรือที่ผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ในประเทศที่ประหยัดต้นทุน หรือในประเทศที่ต้องการแรงงานและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค เช่น ภาษีศุลกากรที่ถูกกำหนดเมื่อไม่นานมานี้และที่คุกคามการเพิ่มภาษีศุลกากรของสินค้าที่นำเข้าสหรัฐฯ จากประเทศจีน ซึ่งอาจจะจำกัดความสามารถในการผลิตสินค้าในประเทศที่ประหยัดต้นทุนกว่าหรือในประเทศที่มีแรงงานและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเฉพาะ หรือที่กำหนดให้บริษัทต้องรับภาระต้นทุนหรือพยายามผลักภาระค่าใช้จ่ายไปยังผู้บริโภค ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้และกำไรของบริษัท (vi) ความพร้อมและต้นทุนของวัตถุดิบ (vii) ความสามารถของบริษัทในการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบทางการค้าและการโยกย้ายและการพัฒนาของผู้ผลิต (ซึ่งอาจส่งผลต่อที่ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถผลิตได้ดีที่สุด) ได้อย่างทันเวลา (viii) การเปลี่ยนแปลงในโรงงานและความสามารถในการขนส่ง การเพิ่มค่าจ้างและค่าขนส่ง ความขัดแย้งทางพลเรือน ทางสงคราม หรือการก่อการร้าย การคุกคามของสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น หรือความไม่แน่นอนทางการเมืองหรือแรงงานในประเทศใด ๆ หรือผลิตภัณฑ์ของคู่ค้าทางธุรกิจอื่น ๆ ที่มีการขาย มีการผลิตหรือวางแผนที่จะขายหรือผลิต (ix) การระบาดของโรคและข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น การระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันซึ่งอาจส่งผล (และในกรณีของการระบาดของ COVID-19 ส่งผลต่อไปนี้) ให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานเนื่องจากโรงงานปิด แรงงานลดลง การขาดแคลนวัตถุดิบ การตรวจสอบหรือห้ามส่งสินค้าที่ผลิตในพื้นที่ได้รับผลกระทบ การปิดร้านค้า การลดปริมาณการใช้และการซื้อของผู้บริโภคเพราะผู้บริโภคป่วยหรือมีข้อจำกัดหรือหยุดช้อปปิ้งเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือการที่รัฐบาลกำหนดให้ปิดกิจการ ข้อจำกัดการเดินทางหรือมาตรการที่คล้ายกันเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค และการเปลี่ยนแปลงของตลาดหรืออื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดการเสื่อมค่าของค่าความนิยมของบริษัทและสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่น ๆ การดำเนินงานด้านสิทธิการดำเนินงานตามสัญญาเช่า และที่ดินอาคารและอุปกรณ์ (x) การได้มาและการขายกิจการและปัญหาที่เกิดขึ้นจากการซื้อการขายกิจการและการทำธุรกรรมที่เสนอ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความสามารถในการรวมกิจการหรือธุรกิจที่ได้มาเข้ากับบริษัท โดยไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจการที่ได้มา การดำเนินงานที่มีอยู่ ความสัมพันธ์ของพนักงาน ความสัมพันธ์กับผู้ขาย ความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือผลประกอบการทางการเงินและความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องของบริษัทหลังจากการขายหรือการขายบริษัทย่อย ธุรกิจ หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ของบริษัท (xi) ความล้มเหลวของผู้ได้รับใบอนุญาตของบริษัทในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ หรือเพื่อรักษาคุณค่าของแบรนด์ของบริษัท หรือการใช้เครื่องหมายการค้าของบริษัทในทางที่ผิด (xii) ความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศซึ่งบริษัทมีการทำธุรกรรมในระดับธุรกิจที่สำคัญในค่าเงินนั้น (xiii) ค่าใช้จ่ายในการวางแผนการเกษียณอายุของบริษัท ที่บันทึกไว้ตลอดทั้งปีคำนวณโดยใช้การประเมินตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย ซึ่งรวมถึงข้อสมมติฐาน และการประมาณการเกี่ยวกับตลาดการเงิน ภาวะเศรษฐกิจและประชากร และความแตกต่างระหว่างผลลัพธ์โดยประมาณกับผลลัพธ์จริง ที่บันทึกไว้ในผลกำไรโดยทั่วไปในไตรมาสที่สี่ของปี; (xiv) ผลกระทบของกฎหมายและข้อบังคับด้านภาษีใหม่และที่ได้รับการแก้ไข; และ (xv) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ระบุเป็นครั้งคราวในเอกสารที่ บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

บริษัทไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการรับข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200602005248/en/

ติดต่อ:

Dana Perlman

เหรัญญิกและรองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนักลงทุนสัมพันธ์

ออฟฟิศ (212) 381-3502

มือถือ (917) 579-1374

investorrelations@pvh.com

Virginia Ritchie

รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กรการตลาด อินฟลูเอ็นเซอร์และประสบการณ์

+31643184870

Virginia.Ritchie@Tommy.com

The Bangkok Reporter