บริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบริษัที่อยู่ในกลุ่มของ Visionary สำหรับผลิตภัณฑ์ Network Firewalls ในรายงานวิจัยทางการตลาดของทางบริษัท Gartner ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาชั้นนำ (Gartner® Magic Quadrant ™)

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–12 มกราคม 2023

บริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี (Sangfor Technologies) (300454.SZ) ผู้จำหน่ายโซลูชั่นด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และคลาวด์คอมพิวติ้งชั้นนำระดับโลก มีความภูมิใจที่จะประกาศว่า บริษัทฯได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบริษัทที่อยู่ในกลุ่มของ Visionary สำหรับผลิตภัณฑ์ Network Firewalls ในรายงานวิจัยทางการตลาดของทางบริษัท Gartner ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาชั้นนำ (Gartner® Magic Quadrant ™) [1]  ถือเป็นปีที่ 8 ของบริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี ที่ได้อยู่ในรายงานการตลาด Magic Quadrant   และถือเป็นปีที่ 2 กับการถูกเสนอชื่อในฐานะ Visionary

Sangfor NGAF เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีไฟร์วอลล์มาอย่างต่อเนื่อง
 Sangfor เชื่อว่าการได้รับการเสนอชื่ออย่างต่อเนื่องในรายงานการตลาด Gartner Magic Quadrant สำหรับผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์ในระบบเครือข่ายขององค์กรนั้นเป็นผลมาจากจุดแข็งดังต่อไปนี้:

 การป้องกันระบบเครือข่ายด้วยเทคโนโลยี AI: Sangfor NGAF สามารถยกระดับการรักษาความปลอดภัยจากการโจมตีจากภายนอก ด้วยการใช้ AI อัจฉริยะตัวแรกของโลก ขับเคลื่อนโดยเครื่องมือตรวจจับมัลแวร์ Engine Zero อัจฉริยะของ Sangfor และแพลตฟอร์มตรวจจับภัยคุกคามอัจฉริยะอย่าง Neural-X ซึ่ง Sangfor NGAF ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถป้องกันภัยคุกคามได้ถึง 99.7%

 การผสานรวมโซลูชัััันการรักษาความปลอดภัยอย่างไร้รอยต่อ: NGAF เป็นองค์ประกอบหลักของสถาปัตยกรรม XDDR ของ Sangfor ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยอื่นๆ ของ Sangfor ได้อย่างราบรื่น เสริมสร้างการทำงานของระบบแบบองค์รวมได้ ช่วยให้สามารถป้องกันภัยคุกคามซุกซ่อนได้อย่างแท้จริง

 การทำงานร่วมกับ Web Application Firewall: Sangfor NGAF เป็น NGFW รายแรกและรายเดียวของโลกที่สามารถบูรณาการเข้ากับ Web Application Firewall (WAF) ระดับองค์กรได้อย่างเต็มรูปแบบ มอบการปกป้องเครือข่ายและเว็บแอปพลิเคชันในอุปกรณ์เดียว ทำให้ลูกค้าได้รับทั้งการดำเนินงานที่ง่ายดาย และคุ้มค่ากับการลงทุน

 การปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยที่เรียบง่าย: ด้วยพันธกิจในการทำให้เทคโนโลยีง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ทุกคน ซังฟอร์ ได้รวมศูนย์ SOC (Security Operations Center) Lite ไว้ใน Sangfor NGAF เป็นครั้งแรก เพื่อทำให้การปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย รวมถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์เป็นเรื่องง่าย ทั้งยังสะดวกและง่ายต่อผู้ใช้งานในทุกระดับ 

 เข้าชมเว็บไซต์ www.sangfor.com เพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันของ Sangfor เพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลง่ายขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ที่มา [1] Gartner Inc., Magic Quadrant for Network Firewalls, Rajpreet Kaur et al., 19 ธันวาคม 2565

 ดาวน์โหลดรายงาน Gartner Magic Quadrant สำหรับผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์ในระบบเครือข่ายขององค์กรได้ฟรี ที่นี่

Contacts

marketing@sangfor.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hajj Expo 2023 เปิดตัวภายใต้การอุปถัมภ์ของผู้ว่านครเมกกะห์

Logo

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฮัจญ์และอุมเราะห์ซาอุดีอาระเบียใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้บริการผู้แสวงบุญได้ดียิ่งขึ้น

JEDDAH, Saudi Arabia–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2023

เจ้าชายคาเลด อัล-ไฟซาล ที่ปรึกษา Custodian of the Two Holy Mosques และผู้ว่าราชการแคว้นมักกะห์ และเจ้าชายไฟซาล บิน ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ อัล ซาอูด ผู้ว่าการมณฑลมะดีนะฮ์ ทรงเปิดการประชุมและนิทรรศการเกี่ยวกับฮัจญ์และอุมเราะห์ ‘Hajj Expo’ ประจำปี 2023 งานฮัจญ์เอ็กซ์โปครั้งที่สอง ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเจดดาห์ โดยมีวิทยากรร่วมงาน 81 คนจากภาครัฐและเอกชน ตลอดจนคณะผู้แทนระดับสูงของรัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนา หัวหน้าภารกิจฮัจญ์ และหน่วยงานระดับสูงจากกว่า 57 ประเทศ

H.R.H Prince Khaled Al-Faisal, Advisor to the Custodian of the Two Holy Mosques and Governor of Makkah Region touring the exhibition with H.E. Minister of Hajj and Umrah, Dr. Tawfiq bin Fawzan Al-Rabiah (Photo: AETOSWire)

เจ้าชายคาเลด อัล-ไฟซาล ที่ปรึกษา Custodian of the Two Holy Mosques และผู้ว่าราชการแคว้นเมกกะห์ เดินชมนิทรรศการร่วมกับ Dr. Tawfiq bin Fawzan Al-Rabiah รัฐมนตรีกระทรวงฮัจญ์และอุมเราะห์ (ภาพ: AETOSWire)

Dr. Tawfiq bin Fawzan Al-Rabiah รัฐมนตรีกระทรวงฮัจญ์และอุมเราะห์ กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ โดยระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดของซาอุดีอาระเบียคือการทำให้แน่ใจว่า ผู้แสวงบุญสามารถประกอบพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์ได้อย่างปลอดภัย โดยมีการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลของบริการต่างๆ นี่คือความมุ่งมั่นทางประวัติศาสตร์และเป็นเกียรติยศที่น่าภาคภูมิใจสำหรับรัฐบาลของ Two Holy Mosques” เขากล่าว

Al-Rabiah ย้ำถึงความกระตือรือร้นของกระทรวงที่จะเพิ่มพูนประสบการณ์ฮัจญ์และอุมเราะห์ โดยการพัฒนาบริการและโซลูชัน รวมถึงแนะนำกฎระเบียบและขั้นตอนที่ได้รับการปรับปรุง พร้อมยกย่องความมุ่งมั่นในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการลงนามในข้อตกลงฮัจญ์ในช่วงต้นว่า เป็น ‘ข้อพิสูจน์ถึงความกระตือรือร้นที่ไม่หยุดยั้งเพื่อให้บริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้แสวงบุญและอุมเราะห์’

งานดังกล่าวเป็นสักขีพยานในข้อตกลงหลายฉบับและบันทึกความเข้าใจระหว่างหน่วยงานสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง General Authority for Awqaf (GAA), the Saudi Conventions and Exhibitions General Authority (SCEGA), the King Salman Global Academy for Arabic Language (KSAA), the Saudi StandardsMetrology and Quality Organization (SASO) และ the Media and Banking Awareness Committee for Saudi Banks นอกจากนี้ ยังมีการลงนามในข้อตกลงในการให้บริการพิธีฮัจญ์มากกว่า 57 ฉบับ เกี่ยวกับผู้แสวงบุญฮัจญ์ แผนการเฉพาะในการต้อนรับผู้แสวงบุญ และข้อกำหนดด้านสุขภาพและคำแนะนำขั้นตอนต่างๆ

งานฮัจญ์เอ็กซ์โปได้มีการหารือเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงคุณภาพของบริการฮัจญ์ในงานกล่าวสุนทรพจน์ 10 งาน และงานอภิปราย 13 งาน และ ‘Hajj Talks’ รวมถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการและกิจกรรมอื่นๆ อีก 36 รายการ: นิทรรศการเกี่ยวกับอิสลาม ความท้าทายเกี่ยวกับฮัจญ์และอุมเราะห์ และโซนสำหรับผู้เริ่มต้น

งานฮัจญ์เอ็กซ์โปมีเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศการบริการและโซลูชันแบบบูรณาการและยั่งยืน เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ของผู้แสวงบุญ การคาดการณ์ทิศทางในอนาคต และการสร้างโอกาสในการร่วมมือ ข้อตกลง และความคิดริเริ่มในระดับท้องถิ่นและระบบนานาชาติ พร้อมกับการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของซาอุดีอาระเบียในการยกระดับการพัฒนาบริการสำหรับผู้แสวงบุญอย่างยั่งยืน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53199476/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

*แหล่งข้อมูลAETOSWire

ติดต่อ

Hussein Nasrallah
pr@digitect.com

แหล่งข้อมูล: Minister of Hajj and Umrah


WilsonHCG ผู้นำความสามารถระดับโลกเข้าซื้อกิจการPersonify เพื่อขยายโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพและชีววิทยาศาสตร์

Logo

TAMPA, Fla.–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2023

WilsonHCG ผู้นำความสามารถระดับโลกได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการของ Personify ผู้ให้บริการเอาต์ซอร์สในกระบวนการสรรหาบุคลากร (RPO) ที่ได้รับรางวัล Personify เชี่ยวชาญในด้านชีววิทยาศาสตร์ การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ และเภสัชกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนทักษะที่สำคัญ

Personify ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดหลัก ให้บริการด้านการค้นหาผู้บริหารและการตลาดด้านการสรรหาบุคลากรควบคู่ไปกับโซลูชัน RPO มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองราลี รัฐนอร์ทแคโรไลนา องค์กรแห่งนี้นำเสนอโซลูชันความสามารถที่ยืดหยุ่นแก่ลูกค้าทั่วโลก

"Personify เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ RPO ด้านการดูแลสุขภาพและชีววิทยาศาสตร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นการขยายตัวนี้จึงช่วยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ตอกย้ำตำแหน่งของเราในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถ" กล่าวโดย John Wilson CEO ของ WilsonHCG "ความร่วมมือนี้ทำให้องค์กรทั้งสองแห่งที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจมีความสอดคล้องกันและมีความต้องการที่เกินความคาดหวังของลูกค้า Personify เป็นบริษัทที่ใส่ใจพนักงานและลูกค้ามากพอ ๆ กับที่เราสนใจ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จึงน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เราจะร่วมกันสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยการให้พื้นที่กับผู้มีความสามารถ"

Ryan Carfley ประธานและ CEO ของ Personify กล่าวเสริมว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ WilsonHCG ผมรู้จัก John มาหลายปีและชื่นชม WilsonHCG ที่เป็นผู้บุกเบิกความสำเร็จในอุตสาหกรรม RPO การทำงานร่วมกันระหว่างวัฒนธรรมของเราทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นกับผลกระทบที่จะมีต่อลูกค้าและอุตสาหกรรมของเรา ความร่วมมือดังกล่าวช่วยให้เราเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น และเราจะกลายเป็นผู้ให้บริการโซลูชันระดับโลกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และอื่น ๆ"

WilsonHCG เข้าซื้อกิจการได้สำเร็จถึงสองครั้งในปี 2022 ในเดือนตุลาคม บริษัทได้ซื้อกิจการ Tracking Talent ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชันผู้มีความสามารถในแอฟริกาใต้ และในเดือนมีนาคม บริษัทได้เข้าซื้อ Claro Analytics ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มข่าวกรองตลาดแรงงานชั้นนำ

เกี่ยวกับ WilsonHCG

WilsonHCG เป็นผู้นำระดับโลกที่ได้รับรางวัลในด้านโซลูชันผู้มีความสามารถทั้งหมด การดำเนินงานในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ช่วยให้แบรนด์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลกสร้างฟังก์ชันความสามารถที่ครอบคลุม ด้วยการดำเนินงานทั่วโลกครอบคลุมมากกว่า 65 ประเทศและ 6 ทวีป WilsonHCG ให้บริการที่ปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงการให้บริการเอาต์ซอร์สในกระบวนการสรรหาบุคลากร (RPO) การค้นหาผู้บริหาร ผู้มีสามารถพิเศษ และการให้คำปรึกษาด้านความสามารถ

TALENT. ™ เป็นมากกว่าวิธีแก้ปัญหา แต่คือตัวตนของเรา

https://www.wilsonhcg.com/

เกี่ยวกับ Personify

Personify (www.personifysearch.com) เป็นบริษัทเอาต์ซอร์สด้านกระบวนการสรรหาบุคลากรที่ได้รับรางวัลและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก แนวทางการรับสมัครหลายช่องทางของบริษัทผสมผสานความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเข้ากับการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อนำเสนอโซลูชันการสรรหาผู้มีความสามารถแห่งอนาคต Personify เปลี่ยนแนวทางการจัดหาผู้มีความสามารถแบบดั้งเดิมและเปลี่ยนเชิงรับให้เป็นระบบเชิงรุกที่ก้าวหน้าซึ่งจัดหาผู้มีความสามารถตามความต้องการ โซลูชัน RPO ที่ไม่ซ้ำใครของ Personify ปรับขนาดตามความต้องการจ้างงานของลูกค้า โดยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถจำกัด และประหยัดงบเมื่อเทียบกับหน่วยงานบุคคลที่สาม

ติดต่อ

Kirsty Hewitt
+44 7889901517
813-418-4479
kirsty.hewitt@wilsonhcg.com

แหล่งที่มา: WilsonHCG

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

MyRepublic Digital พลิกโฉมตลาดโทรคมนาคมด้วย Boomi

Logo

  • ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมที่ชนะรางวัลในเอเชียแปซิฟิกนั้นใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการผสานรวมแบบ low-code ของ Boomi เพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
  • ตั้งแต่เริ่มใช้งานครั้งแรกในปี 2019 เครื่องมือการจัดการ API ของ Boomi ได้สนับสนุนการเติบโตของแพลตฟอร์ม MyRepublic Digital โดยมีการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 3.5 ล้านรายการต่อไตรมาส

SINGAPORE และ CHESTERBROOK, Pa.–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2023

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ประกาศในวันนี้ว่า MyRepublic Digital บริษัทด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ขับเคลื่อน MyRepublic ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ชนะรางวัลในเอเชียแปซิฟิก ได้นำแพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere™ มาใช้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานในระดับที่สูงขึ้น และสุดท้ายคือประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า

MyRepublic Digital Transforms Telecommunications Market with Boomi (Graphic: Business Wire)

MyRepublic Digital พลิกโฉมตลาดโทรคมนาคมด้วย Boomi (กราฟิก: Business Wire)

MyRepublic Digital ธุรกิจเทคโนโลยีที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ ช่วยให้ผู้ประกอบการบรรลุผลสำเร็จทางธุรกิจด้วยซอฟต์แวร์ Encore ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการ (SaaS) แบบเนทีฟบนระบบคลาวด์ที่พร้อมใช้งาน

ในตลาดโทรคมนาคมที่มีการแข่งขันสูง การคงไว้ซึ่งความรวดเร็วและคล่องตัวเมื่อเป็นเรื่องของการส่งมอบบริการคือกุญแจสู่ความสำเร็จ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม Encore และความสามารถในการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ โดยไม่กระทบต่อความสามารถในการปรับขนาดหรือความปลอดภัย MyRepublic Digital ได้เลือกใช้บริการ (iPaaS) แพลตฟอร์มการผสานรวมที่ได้รับรางวัลของ Boomi

“ด้วย Boomi เราจึงสามารถขยายขอบเขตของระบบอัตโนมัติของเราและเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลคำสั่งแบบ end-to-end ของ Encore ได้ ซึ่งท้ายที่สุดช่วยให้เรามอบประสบการณ์ที่ราบรื่นที่ลูกค้าคาดหวังจากแบรนด์ดิจิทัลได้” กล่าวโดย Gary Liew กรรมการผู้จัดการแพลตฟอร์ม MyRepublic Digital “ตัวอย่างเช่น เราสังเกตว่าเวลารอโมเด็มของลูกค้าลดลงอย่างเห็นได้ชัดระหว่างหนึ่งถึงสองวันทำการ ทำให้เราสามารถให้บริการได้เร็วขึ้น”

ด้วย iPaaS แบบ low-code ของ Boomi ทำให้ MyRepublic Digital ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงระบบอัตโนมัติสำหรับแพลตฟอร์ม Encore รวมถึงเปิดใช้งานการกำหนดค่าที่ใช้ซ้ำได้สำหรับการรวมเข้ากับผู้จำหน่ายบุคคลที่สามและเกตเวย์การชำระเงินของพันธมิตร สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมลดความซับซ้อนของระบบนิเวศดิจิทัลด้วยเทคโนโลยีและตัวเชื่อมต่อแอปพลิเคชันที่มีให้เลือกมากมายของ Boomi ในฐานะที่เป็นเครื่องมือดิจิทัลที่อยู่เบื้องหลังระบบสนับสนุนธุรกิจ (BSS) และระบบสนับสนุนการดำเนินงาน (OSS) ของผู้ให้บริการโทรคมนาคม ตลอดจนประสบการณ์ของลูกค้า แพลตฟอร์ม Encore ของ MyRepublic Digital จัดการกระบวนการแบบสดจำนวนมากในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อ การเรียกเก็บเงิน การรับประกันบริการ แอปมือถือ และ แชทบอทพร้อมส่วน API ที่มีธุรกรรมมากกว่า 25 ล้านรายการ นับตั้งแต่การใช้งานครั้งแรกในปี 2019 เครื่องมือการจัดการ API ของ Boomi ได้สนับสนุนการเติบโตของแพลตฟอร์ม MyRepublic Digital โดยมีการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 3.5 ล้านรายการต่อไตรมาส ณ เดือนธันวาคม 2022

“เราชื่นชมที่แพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere ทำการปรับแต่งอินเทอร์เฟซให้น้อยที่สุด ซึ่งช่วยเร่งกระบวนการผสานรวม” Gary กล่าวเสริม “ความสามารถในการปรับขนาด ความยืดหยุ่น และการทำให้ง่ายขึ้นเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงเป็นหลักการที่ทั้งเราและ Boomi มีร่วมกัน และความสำเร็จร่วมกันของเราทำให้เราได้สำรวจแง่มุมใหม่ ๆ ของสิ่งที่เราสามารถส่งมอบได้ดียิ่งขึ้น”

HonChew Seetoh ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียของ Boomi กล่าวว่า "ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นและการมุ่งเน้นที่ประสบการณ์ของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจอย่าง MyRepublic Digital ซึ่งมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความคาดหวังที่สูงของลูกค้าและผู้บริโภคปลายทาง" "เราภูมิใจที่ได้มีบทบาทสำคัญในการทำให้แพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัทสามารถขยายไปสู่ระดับใหม่และเปลี่ยนแปลงวิธีการให้บริการโทรคมนาคม"

ในฐานะบริษัท SaaS ชั้นนำระดับโลกที่มีฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มการรวมระบบ Boomi นำเสนอชุมชนผู้ใช้ที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 คน เครือข่ายทั่วโลกของพันธมิตรประมาณ 800 ราย และหนึ่งในอาร์เรย์ที่ใหญ่ที่สุดของผู้รวมระบบทั่วโลก ( GSIs) ในพื้นที่ iPaaS เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทได้ขยายการดำเนินงานในญี่ปุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วเอเชียแปซิฟิก ขณะเดียวกันก็ได้รับการยอมรับจาก Deloitte Technology Fast 500™ และ Inc. 5000 ในฐานะหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดและมีนวัตกรรมมากที่สุดในอเมริกา

อีกทั้ง Boomi ยังได้รับรางวัล International Stevie® Awards สองรางวัล สำหรับบริษัทแห่งปีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ รางวัล Gold Globee® Award ในหมวด Platform as a Service (PaaS) รางวัล Merit Award for Technology ในหมวด Cloud Services รางวัล Stratus Award ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการประมวลผลแบบคลาวด์ประจำปี 2022 และการจัดอันดับ 5 ดาวอันทรงเกียรติในคู่มือโปรแกรมพันธมิตร CRN

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นด้วยการเชื่อมต่อทุกคนเข้ากับทุกสิ่ง ทุกที่ Boomi เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มการผสานรวมบนคลาวด์ในรูปแบบบริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เชิงบริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก Boomi นำเสนอฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มการผสานรวมและเครือข่ายทั่วโลกของพันธมิตรกว่า 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา บริหาร และจัดการข้อมูล ขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ http://www.boomi.com

© 2023 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ 'B', Boomiverse และ AtomSphere เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด ชื่อหรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53177729/en

ติดต่อ

Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายสื่อและนักวิเคราะห์สัมพันธ์ APJ ที่ Boomi
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งที่มา: Boomi

GIGABYTE ในงาน CES 2023: พลังแห่งคอมพิวเตอร์เพื่อพลิกโฉมโลก

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–6 มกราคม 2023

GIGABYTE ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นำเสนอ “พลังแห่งคอมพิวเตอร์” ที่งาน CES 2023 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประมวลผลที่ยอดเยี่ยมซึ่งขับเคลื่อนเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมไปข้างหน้า โซลูชันสำหรับองค์กรและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่หลากหลายถูกนำมาจัดแสดงเพื่อให้สอดคล้องกับธีม

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20230105005713/en/

GIGABYTE at CES 2023: Power of Computing to Reshape the World (Photo: Business Wire)

GIGABYTE ในงาน CES 2023: พลังแห่งคอมพิวเตอร์เพื่อพลิกโฉมโลก (ภาพ: Business Wire)

ศูนย์ข้อมูลเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี GIGABYTE ได้รับความไว้วางใจเสมอมาในฐานะผู้บุกเบิกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับนักพัฒนา และทำงานเกี่ยวกับการรวมซอฟต์แวร์เพื่อจัดหาโซลูชันผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับอนาคตของยุคดิจิทัล GIGABYTE นำเสนอฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์และเทคโนโลยีการประมวลผลรุ่นถัดไปที่งาน CES ซึ่งปลดปล่อยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น และพร้อมสำหรับการประมวลผลความหนาแน่นสูงด้วย CPU และ GPU ล่าสุดเพื่อเร่งปริมาณงานในทุกขนาด นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเวิร์กสเตชันระดับองค์กรที่ผสานกับสภาพแวดล้อมการพัฒนา MLOps AI ที่พร้อมใช้งานของ MyelinTek อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายของ MLOps ช่วยให้วิศวกรสามารถฝึกโมเดล AI ที่เหมาะสมกับนวัตกรรมของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว และประสิทธิภาพที่โดดเด่นของเวิร์กสเตชันช่วยให้ใช้งานได้อย่างไม่ลำบาก

ความต้องการด้านคอมพิวเตอร์กำลังเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับการเสียสละของสภาพแวดล้อม โซลูชัน Air, Liquid, และ Immersion Cooling ของ GIGABYTE ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อน เพิ่มศักยภาพให้เซิร์ฟเวอร์เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพที่สูงเป็นพิเศษในขณะที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปูทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนโดยไม่ต้องเสียสละการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่บูธ CES GIGABYTE ยังเปิดตัว TO15-Z40 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ OCP ที่เข้ากันได้กับถังแช่หลักทั้งหมด เพื่อแสดงการประมวลผลที่พิสูจน์ถึงอนาคตได้มากที่สุดแก่ผู้นำอุตสาหกรรมที่ต้องการสร้างความสมดุลในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

เทคโนโลยียานยนต์กำลังเฟื่องฟูเนื่องจากใช้ประโยชน์จากพลังของคอมพิวเตอร์เพื่อควบคุมปัญญาประดิษฐ์และการสื่อสาร ดังนั้นจึงเป็นการปูทางไปสู่การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นและการจราจรที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ด้วยประสบการณ์ที่กว้างขวางในการพัฒนา ADCU (Autonomous Driving Control Unit) และ ADAS DCU (Domain Control Unit) GIGABYTE นำเสนออุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย Zonal Integrated DCU ที่มีประสิทธิภาพสูงและโฮสต์การควบคุมการตัดสินใจ ซึ่งสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบรวมศูนย์และสามารถรวมเข้ากับข้อกำหนดและแนวคิดการออกแบบต่าง ๆ ที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตรถยนต์

GIGABYTE เปิดตัวโน้ตบุ๊ก AERO Creator และโน้ตบุ๊กเกม AORUS รุ่นใหม่ล่าสุดทันเวลาก่อนที่งาน CES จะเริ่มต้นขึ้น แล็ปท็อปทั้งสองซีรีส์สร้างขึ้นด้วยโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจน 13 และกราฟิกการ์ด NVIDIA RTX™ 40 ซีรีส์ นอกจากนี้ ยังได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อนำเสนอผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีด้วยประสิทธิภาพการประมวลผลที่เหนือความคาดหมาย ผู้ชนะรางวัล CES 2023 Innovation Award ที่เพิ่งครองตำแหน่งใหม่ชุด Stealth 500 PC DIY Kit และจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมขนาดมหึมา 48 นิ้วยังจัดแสดงให้ผู้ใช้ได้ลิ้มลองอีกด้วย

เยี่ยมชมหน้ากิจกรรม 'พลังแห่งคอมพิวเตอร์' ของ GIGABYTE

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230105005713/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

มีเดีย: Michael Pao brand@gigabyte.com

แหล่งที่มา: GIGABYTE

Proterial, Ltd.: ประกาศเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อทางการค้า

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–5 มกราคม 2023

Proterial, Ltd. ขอประกาศว่าชื่อทางการค้าของบริษัทได้เปลี่ยนไปแล้วจาก Hitachi Metals, Ltd. เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2023

1. ชื่อทางการค้าใหม่

Proterial, Ltd.

2. แนวคิดเบื้องหลังชื่อบริษัทของเรา

“Proterial” สะท้อนถึงแก่นแท้ของปรัชญาองค์กรของเรา ซึ่งประกอบด้วยสามองค์ประกอบ ได้แก่ ภารกิจ: “สร้างคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน” วิสัยทัศน์: “เป็นผู้นำความยั่งยืนด้วยผลงานระดับสูง” และค่านิยม: “ความซื่อสัตย์ที่หนักแน่น” และ “เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วยความเคารพ” โดยรวม "pro-" กับคำว่า "material"
“Pro-” หมายถึง “สามข้อดี” ของเรา ดังนี้
มืออาชีพ — งานที่เหนือความคาดหมาย
ก้าวหน้า — จิตวิญญาณที่ท้าทายอยู่เสมอ
เชิงรุก—ทัศนคติที่กล้าได้กล้าเสีย
“Material” หมายถึงวัสดุประสิทธิภาพสูงที่เทคโนโลยีดั้งเดิมของเราผลิตขึ้นและสนับสนุนโดยข้อดีทั้งสาม ด้วยความมุ่งเน้นของเราในการช่วยลูกค้าแก้ปัญหาและยกระดับคุณค่าใหม่ เราสัญญาว่าจะมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่รวบรวมปรัชญาของเราเข้าด้วยกัน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Akio Minami
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
Proterial, Ltd.
hmcc.sa@proterial.com

แหล่งที่มา: Proterial, Ltd.

การทำให้ Digital Health เป็นไปได้คือ “การทำให้ข้อมูลสุขภาพสามารถถ่ายโอนได้”

Logo

Digital Health ไม่ใช่แนวคิดใหม่ อาจเป็นเรื่องง่ายเหมือนแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับวิดีโอคอลกับแพทย์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับความกังวลทั่วโลกเกี่ยวกับโรคระบาดหรือการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล digital health ยังคงเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ฮานอย เวียดนาม–(BUSINESS WIRE)–5 มกราคม 2023

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ Digital Health ได้รับการอภิปรายในการสัมมนาผ่านเว็บเรื่อง “โซลูชันดิจิทัลที่เป็นนวัตกรรมสำหรับการดูแลสุขภาพในอนาคต” โดยการมีส่วนร่วมของผู้เชี่ยวชาญชั้นนำจาก FPT Software ผู้ซึ่งใช้เวลาหลายสิบปีในการพัฒนาโซลูชัน Digital Healthcare

Digital Health will bring about radical changes to healthcare system all over the world (Photo: Business Wire)

Digital Health จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อระบบการรักษาพยาบาลทั่วโลก (ภาพ: Business Wire)

พูดง่าย ๆ ก็คือ Digital Health หมายถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในด้านการดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ตัดสินใจได้ดีขึ้นและมีข้อมูลที่มากขึ้น ด้วยความก้าวหน้าด้าน AI, แหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ (big data), หุ่นยนต์ และการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) Digital Health ยังคงนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับระบบการรักษาพยาบาลในระดับโลก

เพื่ออธิบายสิ่งนี้ Dr. Pham Tri Cong นักวิทยาศาสตร์ AI และหัวหน้าโปรแกรมข้อมูลของ FPT Software ได้ยกตัวอย่าง akaMedic โดยให้ akaMedic เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ AI ในการเรียนรู้เชิงลึกและการมองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อวิเคราะห์สัญญาณมะเร็งอย่างต่อเนื่อง Dr. Cong กล่าวว่า akaMedic สามารถช่วยตรวจจับสัญญาณมะเร็งในระยะเริ่มต้นได้ด้วย "อัตราความแม่นยำสูงถึง 95%"

ข้อมูลสุขภาพช่วยให้เราเข้าใจมากกว่าที่เราเคยเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสุขภาพส่วนบุคคล ขณะนี้ข้อมูลด้านสุขภาพมีจำนวนมหาศาลและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมาจากแหล่งต่าง ๆ เช่น แอปและแกดเจ็ตฟิตเนส ชุดทดสอบจีโนมที่บ้าน และเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลด้านสุขภาพมักกระจายอยู่ตามโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่าง ๆ จากรายงานของ Harvard Business Review ประวัติทางการแพทย์จำนวนมากของคนส่วนใหญ่จะสูญหายไปจากจุดประสงค์ที่เป็นประโยชน์เมื่อพวกเขาย้ายหรือเปลี่ยนแพทย์ เนื่องจากการถ่ายโอนข้อมูลของพวกเขานั้นซับซ้อนเกินไป”

Mr. Tran Dinh Cung หัวหน้าหน่วยธุรกิจด้านแพลตฟอร์มข้อมูลการดูแลสุขภาพและยาของ FPT Software พิจารณาว่า "ระบบสุขภาพหลายแห่งยังคงประสบปัญหาในการแบ่งปันข้อมูลให้กันและกัน แม้ว่าจะใช้ซอฟต์แวร์เวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ชุดเดียวกัน"

ดังนั้น การทำให้ digital health เป็นไปได้คือ "การทำให้ข้อมูลด้านสุขภาพสามารถถ่ายโอนได้" Mr. Cung เน้นย้ำ มิฉะนั้นจะทำให้เกิดความไร้ประสิทธิภาพ เสียเวลา และเสียแรง ซึ่งส่งผลให้การรักษาล่าช้าในที่สุด

เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์นี้ได้ดีขึ้น ต่อไปนี้เป็นสถานการณ์ทั่วไปที่แบ่งปันโดย Mr. Nguyen Trung Hieu ผู้อำนวยการ Digital Health SME ของ FPT Software ดังนี้

ผู้ป่วยโทรหาสายด่วน แพทย์มาตรวจสอบผู้ป่วยและระบุสถานะสุขภาพของเขา แต่ทำขั้นตอนการประเมินซ้ำเมื่อผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาล Mr. Hieu กล่าวว่า “ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาที่รวดเร็วกว่านี้ หากมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานะสุขภาพและการปฐมพยาบาลโดยทีมรถพยาบาลกับโรงพยาบาลในขณะที่เขานำส่งโรงพยาบาล

John Glaser เขียนไว้ใน Harvard Business Review ว่า “ความล้มเหลวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ส่งผลใหญ่หลวงเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในระบบการดูแลสุขภาพทั่วโลก ทำให้สูญเสียชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรงไปหลายปี และค่ารักษาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หลายพันล้านดอลลาร์”

เพื่อป้องกันการสูญเสีย สิ่งที่เราต้องการคือ “คู่มือการใช้งานโดยละเอียดที่สรุปรูปแบบข้อมูลและค่าที่อนุญาตสำหรับแต่ละทรัพยากรหรือประเภทของข้อมูลที่จะแลกเปลี่ยน” Mr. Cung แย้ง เขาแนะนำให้ใช้ Health Level Seven International®, HL7® ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1987 และปัจจุบันมีสมาชิกองค์กรมากกว่า 500 ราย

ด้วยชุดคู่มือการใช้งานที่ชัดเจนและการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพที่ง่ายดายไม่ว่าจะสร้างขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่ ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงข้อมูลของตนเองเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพของพวกเขาเองและดำเนินการตามข้อมูลที่ดีขึ้น บุคลากรทางการแพทย์สามารถวิเคราะห์ชุดข้อมูลเหล่านั้นเพื่อค้นหารูปแบบในกลุ่มผู้ป่วย และนักวิจัยสามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อค้นหาและประเมินยาและการรักษาใหม่ ๆ ได้

ดูตอนเต็มได้ที่นี่: facebook.com/fptsoftware.official/videos/827777101977280

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53167315/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

มีเดีย

Mai Duong (Ms.)
FPT Software
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
อีเมล: MCP.PR@fsoft.com.vn

Dzung Duong (Ms.)
ผู้จัดการฝ่ายสร้างแบรนด์องค์กร
อีเมล: DungDTH1@fsoft.com.vn
เว็บไซต์: https://www.fpt-software.com/newsroom/

แหล่งที่มา: FPT Software

Hillstone Networks ได้รับรางวัลยกย่องว่าเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ไกลอีกครั้งใน Gartner Magic Quadrant for Network Firewall

Logo

Hillstone Networks ได้รับตำแหน่งผู้มีวิสัยทัศน์ไกลโดยพิจารณาจากความสมบูรณ์ของวิสัยทัศน์และความสามารถในการดำเนินการ

SANTA CLARA, Calif.–(BUSINESS WIRE)–23 ธันวาคม 2022

Hillstone Networks ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ก้าวล้ำและเข้าถึงได้ ประกาศว่า Hillstone Networks ได้รับรางวัลยกย่องอีกครั้งใน Gartner® Magic Quadrant™ for Network Firewalls ประจำปี 2022 เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน และได้ชื่อว่าเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ไกลเป็นครั้งที่สอง

โซลูชันของ Hillstone Networks พัฒนามาจากแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย ให้เป็นพอร์ตโฟลิโอความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่งซึ่งมอบความสามารถในการเตรียมรับมือทางไซเบอร์ ตั้งแต่ระบบเครือข่ายเอดจ์ไปจนถึงคลาวด์ และทุกสิ่งที่อยู่ระหว่างนั้น ตั้งแต่ SMB ไปจนถึงความต้องการด้านเครือข่ายระดับผู้ให้บริการของทุกระบบแบบแนวตั้งที่สำคัญทั่วโลก ปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอใช้ประโยชน์จาก Next Generation Firewall (NGFW) พื้นฐานเพื่อรวมโซลูชันต่อไปนี้

  • Hillstone Secure SD-WAN โซลูชันสำหรับองค์กรแบบกระจาย
  • Hillstone ZTNA โซลูชันที่ช่วยให้เข้าถึงแบบ Zero Trust จากอุปกรณ์ใดก็ได้ทุกที่
  • Hillstone CloudArmour ให้การปกป้องปริมาณโหลดบนคลาวด์
  • Hillstone CloudHive โซลูชันการแบ่งส่วนแบบไมโครสำหรับศูนย์ข้อมูลเสมือนจริง
  • Hillstone sBDS การป้องกันเซิร์ฟเวอร์ที่รวมเข้ากับโซลูชันการตรวจจับและตอบสนองเครือข่าย (NDR) เพื่อต่อต้านภัยคุกคามแบบหลายชั้นหลายขั้นตอนที่พุ่งเป้าหมายไปยังเซิร์ฟเวอร์และโฮสต์ที่สำคัญ
  • Hillstone iSource แพลตฟอร์มการตรวจจับและการตอบสนองที่ขยายกว้าง (XDR) ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI โดยมีฟีเจอร์ NDR และข้อมูลป้อนเข้าจากแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม

“เราสุขใจที่ได้กลับมารับรางวัลยกย่องด้านความสมบูรณ์ของวิสัยทัศน์และความสามารถในการดำเนินการเป็นปีที่ 9” Tim Liu, CTO และผู้ร่วมก่อตั้ง Hillstone Networks แถลงการณ์ “ในโลกของมัลติคลาวด์แบบไฮบริดทุกวันนี้นั้น กลยุทธ์ที่ใช้ระบบคลาวด์เป็นอันดับแรกของเรามีความหมายกับลูกค้าและพันธมิตรเหมือนกัน เรายังคงใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม NGFW ที่ได้รับรางวัลและเป็นผู้นำในแวดวง และใส่คุณสมบัติขั้นสูงเพื่อปลดล็อกความสามารถของ SD-WAN และ ZTNA ตลอดจนนำเสนอโซลูชันอื่นๆ เสริมที่ตอบสนองโอกาสในตลาด และตอบสนองต่อความต้องการของฐานลูกค้าเราที่กำลังเติบโต”

แนวทางแบบใช้ระบบคลาวด์เป็นอันดับแรกคือข้อบังคับ เพื่อนำเสนอโซลูชันที่มีความสามารถในการเตรียมรับมือทางไซเบอร์อันมีประสิทธิภาพ ซึ่งปกป้องสินทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญขององค์กร นอกเหนือจากสภาพแวดล้อมแบบในสถานที่ แบบส่วนตัวและไฮบริดคลาวด์แล้ว กลุ่มโซลูชันของ Hillstone Networks ยังมีการรักษาความปลอดภัย IoT ที่ช่วยให้ภาคส่วน IoT ตรวจจับ ป้องกัน และจัดการความเสี่ยงในอุปกรณ์ IoT เชิงรุกได้อีกด้วย

ดาวน์โหลดสำเนาของ Gartner Magic Quadrant por Network Firewalls ได้ที่นี่

Gartner, Gartner Magic Quadrant for Network Firewalls, Rajpreet Kaur, Adam Hils, Thomas Lintemuth, 19 ธันวาคม 2022

Gartner ไม่ได้รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ที่ปรากฎในเอกสารเผยแพร่งานวิจัยของบริษัท และไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้จำหน่ายที่มีคะแนนสูงสุดหรือตำแหน่งอื่น ๆ สิ่งพิมพ์วิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นจากองค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรนำไปตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ปฏิเสธการรับประกันทั้งหมดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยนี้ ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย รวมถึงการรับประกันใด ๆ ในเรื่องความสามารถในการขายหรือความสมบูรณ์เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ

GARTNER เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐฯ และในต่างประเทศ และมีการนำมาใช้โดยได้รับอนุญาตในที่นี้ สงวนลิขสิทธิ์

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

โซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ก้าวล้ำและเข้าถึงได้ของ Hillstone Networks ช่วยปรับโฉมการรักษาความปลอดภัยขององค์กร ให้มีความสามารถในการเตรียมรับมือทางไซเบอร์พร้อมกับลด TCO ด้วยการให้ทัศนวิสัยที่ครอบคลุม ความชาญฉลาดเหนือชั้น และการป้องกันอย่างว่องไวเพื่อการมองเห็น ทำความเข้าใจ และจัดการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์หลายชั้นหลายขั้นตอน ทำให้ Hillstone ได้คะแนนดีจากนักวิเคราะห์ชั้นนำ และได้รับความไว้วางใจจากบริษัทระดับโลก หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ติดต่อฝ่ายสื่อประชาสัมพันธ์ 
Zeyao Hu 
+1 4085086750 
inquiry@hillstonenet.com

แหล่งที่มา: Hillstone Networks

Hytera เตรียมครบรอบ 30 ปีด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในรอบแรกในปี 2023

Logo

เซินเจิ้น, จีน–(BUSINESS WIRE)–22 ธันวาคม 2022

Hytera Communications (SZSE: 002583) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารมืออาชีพชั้นนำระดับโลก วันนี้ได้ประกาศการครบรอบ 30 ปีด้วยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวรอบแรกในปี 2023 รุ่นใหม่สองรุ่นจากสายผลิตภัณฑ์ วิทยุดิจิทัลเคลื่อนที่ (DMR) และ กล้องติดตัว จะเปิดตัวในการสัมมนาผ่านเว็บ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 10 มกราคม: HP5 Professional DMR วิทยุสองทางแบบพกพาและกล้องขนาดมินิ GC550 2K

Hytera to Expand DMR Radio and Body Camera Portfolio (Graphic: Business Wire)

Hytera เตรียมขยายผลงานสำหรับวิทยุ DMR และกล้องติดตัว (ภาพประกอบ: Business Wire)

ในตอนท้ายของปี 2021 Hytera เริ่มแนะนำวิทยุสองทาง DMR รุ่นถัดไปในชื่อ H Series สู่ตลาดโลก H Series ออกแบบและพัฒนาบนแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่ เป็นรุ่นที่สมบูรณ์กว่าที่ตลาดนำเสนอ นอกจากวิทยุพกพาและเครื่องทวนสัญญาณแล้ว วิทยุพกพารุ่น HP7 (HP78X, HP70X) และรุ่น HP6 (HP68X/HP60X) ยังเปิดตัวตลอดทั้งปีและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จในตลาด รุ่น HP5 (HP56X, HP50X) ได้เข้าร่วมและเสริมความแข็งแกร่งให้กับสายผลิตภัณฑ์นี้แล้ว

รุ่น HP5 ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจ มีความสมดุลระหว่างฟังก์ชันการใช้งาน ความสามารถในการใช้งาน และราคา ด้วยความไวที่ 0.18 μV (‒122 dBm) ทำให้ HP56X และ HP50X ให้การครอบคลุมที่ยอดเยี่ยมในแง่ของช่วงการสื่อสารและคุณภาพ ผู้ใช้ในไซต์งาน เช่น โรงงาน อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และวิทยาเขต สามารถโทรออกด้วยเสียงได้อย่างเสถียรในพื้นที่ห่างไกล ความง่ายในการใช้งานเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ รุ่น HP5 จึงใช้พอร์ต Type-C ดังนั้นผู้ใช้สามารถใช้สาย USB ทั่วไปเพื่อชาร์จได้ทุกเมื่อด้วยเครื่องชาร์จหรือพาวเวอร์แบงค์ รุ่น HP5 กันน้ำและกันฝุ่นในระดับ IP67 ได้เช่นเดียวกับรุ่น HP7

กล่องติดตัวแบบมินิรุ่น GC550 2K เป็นรุ่นใหม่ของกล้องติดตัวของ Hytera ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดและน้ำหนักเบาที่สุด สวิตช์เลื่อนช่วยให้ผู้ใช้สามารถเริ่มบันทึกได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องดูเลยในกรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังแสดงสถานะการบันทึกผ่านตำแหน่งเลื่อนได้อีกด้วย กล้องมุมกว้าง 2K HD บันทึกรายละเอียดได้มากขึ้นในมุมกว้างพิเศษที่ 150° ด้วยเทคโนโลยีการมองเห็นในตอนกลางคืนแบบสตาร์ไลท์ ทำให้ GC550 ถ่ายภาพได้คมชัดเป็นพิเศษและมีสีสันภายใต้สภาวะแสงน้อยมาก

“ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของวิทยุ DMR ซีรีส์ H คือการเป็นที่ยอมรับถึงความแข็งแกร่งของ Hytera ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และตัวแบรนด์เอง ครั้งนี้เราได้เพิ่ม HP5 ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ชั้นนำของโลกเพื่อขยายการปรากฏในตลาดและนำนวัตกรรมและที่มีมูลค่ามาสู่ลูกค้ามากขึ้น” Gerald Zhang ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและโซลูชันระดับโลกของ Hytera กล่าว “เราได้ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นวันครบรอบ 30 ปีของ Hytera ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาเป็นระยะเวลานาน ยิ่งเป็นการเตือนใจเราว่าเราควรสร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้และพันธมิตรอยู่เสมอด้วยการนำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเรียนรู้จากการเติบโตมาเป็นระยะเวลา 30 ปี”

* คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียนสำหรับการสัมมนาผ่านเว็บเกี่ยวกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ โปรดทราบว่าการวางจำหน่ายของผลิตภัณฑ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53122465/en

ติดต่อ

Lele.yao@hytera.com

แหล่งที่มา: Hytera Communications

Sharp ในงาน CES 2023

Logo

ลาสเวกัสและโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–19 ธันวาคม 2022

Sharp Corporation (TOKYO:6753) เตรียมหวนคืนสู่งาน CES 2023 ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและผลิตภัณฑ์ที่รวบรวมการจัดการที่มุ่งเน้น ESG ของบริษัทภายใต้สี่ธีม ได้แก่ พลังงานใหม่ ยานยนต์ AR/VR และโทรทัศน์

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

ที่ตั้งบูธของ Sharp:

ห้องเพทรัส บอลรูม โรงแรมวินน์ ลาสเวกัส

3131 Las Vegas Blvd., Las Vegas, NV 89109, U.S.A.

วันที่และเวลาจัดแสดง:

5 มกราคม ถึง 8 มกราคม 2023 (วันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์) เวลา 10.00 – 17.00 น.

Sharp จะเปิดตัว LC-LH (Liquid and Crystal Light Harvesting) เป็นครั้งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอุปกรณ์เซลล์โฟโตวอลเทอิกในร่มที่พัฒนาขึ้นโดยการรวมเซลล์แสงอาทิตย์ที่ไวต่อสีและเทคโนโลยี LCD เข้าด้วยกัน Sharp จะจัดแสดงเซลล์แสงอาทิตย์แบบเพอรอฟสไกต์ ซึ่งดึงดูดความสนใจในฐานะเซลล์แสงอาทิตย์รุ่นต่อไป

หน้าจอแสดงข้อมูลผู้โดยสารที่ใช้การควบคุมมุมมองจะได้รับการนำเสนอเป็นอุปกรณ์ยานยนต์ขั้นสูง โมดูลเซลล์โฟโตวอลเทอิกแบบผสมที่มีประสิทธิภาพการแปลงสูงที่สุดในโลก*1 คาดว่าจะติดตั้งบนยานพาหนะอย่าง EV เช่นเดียวกับการใช้งานด้านอวกาศและการบิน

ต้นแบบจอแสดงผลแบบติดศีรษะน้ำหนักเบาพิเศษสำหรับ VR ที่ติดตั้งอุปกรณ์ล่าสุด เช่น จอแสดงผลความละเอียดสูงพิเศษ กล้องโฟกัสอัตโนมัติด้วยความเร็วสูงพิเศษ และพร็อกซิมิตีเซนเซอร์ขนาดกะทัดรัดพิเศษจะแสดงที่มุม AR/VR

ผู้เยี่ยมชมสามารถสัมผัสกับภาพยุคใหม่ที่มีความสว่างและการแสดงออกของสีที่โดดเด่นซึ่งสร้างโดยไฟแบ็คไลท์ LED ขนาดเล็กและเทคโนโลยีควอนตัมดอทสำหรับ AQUOS XLED TV รุ่นเรือธงสำหรับตลาดโลก นอกจากนี้ Sharp จะเปิดตัวต้นแบบของหนึ่งในรุ่น 120*3 นิ้วที่ใหญ่ที่สุดในโลก*2 เป็นครั้งแรก

เกี่ยวกับ Sharp

Sharp Corporation เป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและเทคโนโลยีหลักระดับโลกที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงที่เป็นแกนหลัก Sharp ได้พัฒนาฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในฐานะที่เป็นต้นกำเนิดของนวัตกรรมนับไม่ถ้วน จากการพัฒนาเหล่านี้ Sharp จะยังคงปฏิวัติโลกต่อไป Sharp Corporation มีพนักงาน 48,165 คนทั่วโลก (ณ วันที่ 30 กันยายน 2022) และมียอดขายรวมต่อปีที่ 2.5 ล้านล้านเยนสำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2022

*1 ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2022 สำหรับโมดูลเซลล์โฟโตวอลเทอิกในระดับการวิจัย (ตามผลการวิจัยของ Sharp)

*2 ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2022 สำหรับ LCD ที่ติดตั้งไฟแบ็คไลท์ LED ขนาดเล็ก (ตามผลการวิจัยของ Sharp)

*3 AQUOS XLED ขนาด 120 นิ้วไม่มีเครื่องรับสัญญาณสำหรับรับสัญญาณโทรทัศน์

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53026670/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Sharp Corporation
ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์
pr-brand@sharp.co.jp

แหล่งที่มา: Sharp Corporation





The Bangkok Reporter