นมถั่วเหลืองคั้นสด “ซังซัง” โฉมใหม่แบบขวด อร่อย หอมมัน แคลอรี่ต่ำ พกพาดื่มเติมสุขภาพดีได้ทุกเวลา

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–15 มิถุนายน 2563

imgแบรนด์น้องใหม่ “ซังซัง” ขอแนะนำ "ซัง ซัง โฉมใหม่แบบขวด" นมถั่วเหลืองคั้นสด รสชาติอร่อย หอมมัน และมีน้ำตาลน้อยกว่า 2%  ผลิตจากเมล็ดถั่วเหลืองจากประเทศแคนาดา แคลอรี่ต่ำ ไม่ผสมนมผง ไม่มีวัตถุกันเสีย เป็นแหล่งโปรตีนสำหรับคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง มาในรูปแบบบรรจุขวดพร้อมดื่ม ขนาด 200 ml ดีไซน์น่ารัก สดใส สามารถพกพาไปดื่มเติมสุขภาพที่ดีได้ทุกที่ทุกเวลา สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองซังซังได้ตามร้านค้าทั่วไป และในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร. 081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

ซิตี้แบงก์ ร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกจัดเมกะโปรเจค “Restarting Together” เฟ้นหาไอเดียสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี กระตุ้นเศรษฐกิจโลกหลังวิกฤติโควิด-19

Logo

กรุงเทพฯ 15 มิถุนายน 2563 – ซิตี้กรุ๊ป ร่วมมือกับ 11 องค์กรชั้นนำระดับโลกจัดโครงการ “รีสตาร์ทติ้ง ทูเก็ตเทอร์”(Restarting Together) การประกวดนวัตกรรมระดับโลกที่ได้รับการพัฒนาโดยกลุ่มสตาร์อัพ (startups) และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่จะมาช่วยเร่งการฟื้นตัวทางระบบเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ภายหลังสถานการณ์โรคระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อปรับปรุงการจ้างงาน การฟื้นฟูระบบนิเวศของธุรกิจขนาดเล็กและสร้างเครือข่ายรวมถึงกลไกทางการเงินสำหรับสถานการณ์วิกฤติ ในขณะเดียวกันงานประกวดนี้ยังส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้นำเสนอวิธีการแก้ปัญหาที่ช่วยให้เมืองต่าง ๆ สามารถรับมือกับวิกฤติทุกประเภทได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขอนามัย เศรษฐกิจ หรือการขับเคลื่อนในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้ชนะทั้งหมด 3 อันดับจะได้เข้าร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์กับผู้นำระดับโลกจากบริษัทผู้สนับสนุน รวมถึงการเข้าถึงทรัพยากรของบริษัทผู้จัดงาน ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพและการลงทุน โดยผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงานนำเสนอได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ผ่านทาง www.restartingtogether.com

ซิตี้กรุ๊ปร่วมมือกับองค์กรชั้นนำระดับโลก อาทิ  Airbus Bizlab, BASF, Boston Consulting group, CEMEX, Endeavor, IDB Lab, IE, โรงเรียนธุรกิจ IESE, Microsoft สำหรับธุรกิจ startups, South Summit และ เตเลโฟนิกา (Telefonica) ร่วมประกาศเปิดตัวโครงการ “รีสตาร์ทติ้ง ทูเก็ตเทอร์” (Restarting Together) งานประกวดระดับโลกในการมองหาโครงการนวัตกรรมภายหลังผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมโครงการที่ได้รับการพัฒนาโดยกลุ่มสตาร์อัพ (startups) และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยมีเป้าหมายในการเร่งการฟื้นตัวทางระบบเศรษฐกิจภายหลังผลกระทบที่ได้รับจากโรคระบาดดังกล่าว และสร้างสังคมที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมด้วยขีดความสามารถที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม  ปรับปรุงการจ้างงาน การฟื้นฟูระบบนิเวศของธุรกิจขนาดเล็ก และสร้างเครือข่ายและกลไกทางการเงินสำหรับสถานการณ์วิกฤติ

โดยผู้เข้าร่วมประกวดจะต้องนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาที่ช่วยให้เมืองต่าง ๆ สามารถรับมือกับวิกฤติทุกประเภทได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขอนามัย เศรษฐกิจ หรือการขับเคลื่อนในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมพร้อมเผชิญหน้ากับวิกฤติที่คล้ายคลึงกันนี้ในอนาคต ซึ่งโครงการที่ได้รับการคัดเลือก 9 อันดับแรกจะได้เข้าร่วมวันนำเสนองานทางดิจิทัล (Pitchday) ในวันที่ 9 กันยายน 2563 และโครงการทั้งหมดจะได้นำเสนอวิธีการแก้ปัญหาให้แก่ตัวแทนบริษัทผู้จัดงานโดยตรง ซึ่งจะเป็นผู้คัดเลือกผู้ชนะเพียง 3 อันดับให้ได้ร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์กับผู้นำระดับโลกจากบริษัทผู้สนับสนุน รวมถึงการเข้าถึงทรัพยากรของบริษัทผู้จัดงาน ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพและการลงทุน โดยเปิดรับการเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการและขั้นตอนการลงทะเบียน ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ที่ www.restartingtogether.com

  โครงการ “รีสตาร์ทติ้ง ทูเก็ตเทอร์” (Restarting Together) เป็นโอกาสอันดีสำหรับซิตี้ในการช่วยทำให้เห็นถึงความท้าทายที่มีต่อเศรษฐกิจและสังคมที่ชุมชนและลูกค้าที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก ในฐานะองค์กรแห่งหนึ่ง ซิตี้มองหาโอกาสที่จะช่วยให้เห็นถึงความท้าทายที่มีต่อสังคมอันส่งผลต่อลูกค้าและสังคมของเรา รวมไปถึงความพร้อมและการสร้างงาน ตลอดจนการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าสถาบันทางการเงินของซิตี้ ยังมุ่งเน้นในการส่งต่อวิธีการแก้ไขปัญหาเชิงนวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือและสร้างมูลค้าให้แก่ธุรกิจของลูกค้า อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของซิตี้คือการร่วมมือกับบริษัทสตาร์อัพ (startup)   

โดยซิตี้กรุ๊ปในฐานะหนึ่งในบริษัทผู้สนับสนุนโครงการดังกล่าวที่พร้อมมุ่งมั่นสนับสนุนทรัพยากรและความร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ  และบทบาทธนาคารชั้นนำผู้ให้บริการด้านการเงินระดับโลกที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับบริบทการเงินและเศรษฐกิจระดับโลก รวมไปถึงความเชี่ยวชาญการบริการด้านการเงินจะช่วยเสริมกำลังให้แก่บริษัทสตาร์อัพ และเอสเอ็มอี (SMEs) ในการหาวิธีการแก้ไขปัญหาเพื่อสิ่งที่ดีกว่าเดิมต่อไป รวมถึงจะช่วยส่งเสริมผู้เข้าร่วมโครงการได้เป็นอย่างดี

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th   

###

หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ

เกี่ยวกับ “ซิตี้”

ธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citibank.co.th | เฟซบุ๊ก: Citi Thailand  | LINE: Citi Thailand

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน ติดต่อ

ธนาคารซิตี้แบงก์

วันวิสาข์ โคมินทร์

+662 079 3251

wanvisa.komindr@citi.com

เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์  JC&CO PUBLIC RELATIONS

ณภัทร กาญจนะจัย / +668 1355 9221 / napatk@jcpr.co.th

นิกรณ์กานต์ วิจักษณ์ไพศาล / +669 7230 0528 / nikornkarnw@jcpr.co.th

MEDIA HOTLINE : 02-634-4557 / 6663-641-9549 (ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์)

มูลนิธิเอสซีจี และกลุ่มบริษัทน้ำตาลไทยรุ่งเรือง ร่วมผนึกกำลัง มอบสเปรย์แอลกอฮอล์ 1 แสนขวด มูลค่า 5 ล้านบาท เพื่อให้คนไทยการ์ดไม่ตก ปกป้องตัวเองจากโควิด-19

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–12 มิถุนายน 2563

imgในวิกฤตมักมีโอกาส และเป็นโอกาสที่เราจะได้เห็นเพื่อน เห็นกลุ่มคน เห็นองค์กรที่มีความถนัดแตกต่างกัน มาร่วมมือกัน เพื่อช่วยให้ประเทศของเราผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ครั้งนี้ก็เช่นกันที่กลุ่มบริษัทน้ำตาลไทยรุ่งเรือง ผู้ผลิตน้ำตาลครบวงจร รายแรกในประเทศไทย ร่วมมือกับทางมูลนิธิเอสซีจี และ เอสซีจี เอ็กซ์เพรส         ร่วมผลิตและขนส่งสเปรย์แอลกอฮอล์ขนาด 60 มิลลิลิตร จำนวน 100,000 ขวด ให้แก่สถานีโทรทัศน์      ไทยพีบีเอสเพื่อส่งมอบสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกระทรวงแรงงานแจกจ่ายเจ้าหน้าที่ผู้เผชิญกับความเสี่ยงและผู้ใช้แรงงานที่เดินทางข้ามเขตแดนทั่วประเทศ

ดร. อุกฤษฏ์ อัษฎาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งเรืองพลังงาน จำกัด บริษัทผู้ผลิต
เอทานอลจากกากน้ำตาล ภายใต้กลุ่มบริษัทน้ำตาลไทยรุ่งเรือง กล่าวถึง จุดเริ่มต้นในการร่วมมือครั้งนี้ว่า “เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ได้ทราบข่าวถึงความขาดแคลนแอลกอฮอล์ ทางเรามองเห็นว่าโรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรที่ดูแลสถานที่กักตัวชั่วคราวเปรียบเสมือนด่านหน้าที่เสียสละเพื่อทุกคน เมื่อทางบริษัทฯ ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิตให้ผลิตแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดได้เป็นการชั่วคราว เราจึงส่งแอลกอฮอล์ไปยังโรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆที่ช่วยในการดูแลกักตัวกลุ่มเสี่ยงที่กลับมาจากต่างประเทศทันที ถึงตอนนี้ได้ส่งมอบแอลกอฮอล์ไปแล้วกว่า 70,000 ลิตร จากปริมาณที่ต้องการกว่า 100,000 ลิตร ซึ่งเรายังคงทยอยส่งมอบตามความสะดวกของผู้มารับให้ได้ครบจำนวนที่ต้องการ ส่วนหนึ่งเราต้องขอบคุณหลายๆบริษัทเช่นเดียวกันที่สนับสนุนถังบรรจุและกลีเซอรอลในช่วงแรก ซึ่งขณะนั้นหาซื้อได้ลำบาก จนเราสามารถส่งมอบแอลกอฮอล์ไปให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆได้กว่าร้อยแห่ง”

“มาถึงตอนนี้ หลังจากการขาดแคลนแอลกอฮอล์ที่โรงพยาบาลเบาบางลงแล้ว เป้าหมายต่อไปของคนไทยทุกคน คือ ป้องกันไม่ให้โควิด-19 กลับมาอีก ซึ่งเราเชื่อว่ายังมีคนไทยบางส่วนยังไม่สามารถเข้าถึงแอลกอฮอล์ จึงร่วมกับมูลนิธิเอสซีจีผลิตแอลกอฮอล์แบบสเปรย์ ขนาดพกพา เพื่อให้คนไทยร่วมกันรักษาสุขอนามัยอย่างต่อเนื่อง ไม่ประมาท และช่วยกันหยุดโควิด-19 ไม่ให้กลับมาอีก” ดร. อุกฤษฏ์ กล่าว
 

ด้านนายยุทธนา เจียมตระการ กรรมการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า “ที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการช่วยเหลือและปกป้องบุคลากรทางการแพทย์จากความเสี่ยงในการติดเชื้อ ด้วยการส่งมอบนวัตกรรมป้องกันโควิด-19 ให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศด้วยงบประมาณกว่า 60 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นห้องตรวจเชื้อแบบเคลื่อนที่ แคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย อุปกรณ์ครอบศีรษะคนไข้เพื่อลดการฟุ้งกระจายสำหรับงานทันตกรรม อีกทั้งยังได้ส่งมอบชุดอุปกรณ์ปฏิบัติหน้าที่เพื่อแทนความห่วงใยและคำขอบคุณไปยังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เหล่าฮีโร่จิตอาสา จำนวน 600 ชุดด้วย”

“สถานการณ์การแพร่ระบาดในไทยดูเหมือนว่าจะมียอดผู้ติดเชื้อลดลง แต่เราก็ยังประมาทไม่ได้ การ์ดต้องไม่ตก มูลนิธิเอสซีจีและกลุ่มบริษัทน้ำตาลไทยรุ่งเรือง จึงได้ร่วมมือผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ มอบให้กับกระทรวงแรงงานและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ และประชาชนซึ่งมีความเสี่ยงในการติดโรคระบาด เพราะต้องพบปะกับผู้ที่เดินทางข้ามเขตแดนจำนวนมากในแต่ละวัน

จึงนับเป็นอีกหนึ่งกลุ่มงานที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละนับแต่มีการระบาดของโรค พร้อมกันนี้ จะแจกจ่ายแอลกอฮอล์ให้กับกลุ่มแรงงาน โดยจะกระจายไปยัง กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ และเขตปริมณฑล  กรมการจัดหางาน ด่านตรวจคนหางาน และสำนักงานจัดหางาน ทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และช่วยให้การเข้าออกประเทศเป็นไปอย่างปลอดภัยมากขึ้น  โดยได้รับความร่วมมือจากเอสซีจี เอ็กซ์เพรส ขนส่งแอลกอฮอล์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และที่สำคัญ ขอขอบคุณสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส ที่ร่วมเป็นสื่อกลาง ให้เกิดการเชื่อมต่อและส่งมอบความปลอดภัยให้กับคนไทยในครั้งนี้” นายยุทธนา กล่าว   

นอกจากการมอบแอลกอฮอล์ดังกล่าวแล้ว  กลุ่มบริษัทน้ำตาลไทยรุ่งเรือง และมูลนิธิเอสซีจี ยังมีแผนแจกจ่ายสเปรย์แอลกอฮอล์อีก จำนวน 100,000 ขวด ให้แก่กลุ่มผู้ขาดโอกาสต่างๆ ในสังคม ได้แก่ กลุ่มผู้พิการทางสายตา โรงเรียนคนตาบอด และกลุ่มพี่น้องประชาชนในชุมชนแออัดที่เข้าถึงสเปรย์แอลกอฮอล์ยาก เพื่อสุขอนามัยที่ดี และช่วยลดการระบาดรอบที่ 2

ทั้งนี้ แม้ภาพรวม การระบาดในประเทศไทยจะน้อยลง แต่ก็ยังไม่อาจนิ่งนอนใจได้ เพราะสถานการณ์ทั่วโลกยังมีการระบาดต่อเนื่อง จึงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกันของคนไทยทุกคนที่จะช่วยกันดูแลตัวเอง เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มบริษัทน้ำตาลไทยรุ่งเรือง มูลนิธิเอสซีจี และ     เอสซีจี เอ็กซ์เพรส หวังว่าทุกคนจะปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19 แล้วเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

“เบนิฟิตต์” ชวนร้านสร้างสรรค์เมนูสุขภาพดี ลงทะเบียนรับ Gift Set ฟรี 1 ชุด พร้อมบริการส่งฟรีถึงหน้าร้าน

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–12 มิถุนายน 2563

img“เบนิฟิตต์ ซอย บาริสต้า” (Benefitt Soy Barista) จัดโปรโมชั่นพิเศษ “แจกฟรี! ส่งฟรี! ถึงร้าน! 500 ชุด” สำหรับผู้ที่มีร้านกาแฟและเครื่องดื่ม เพียงลงทะเบียนผ่านช่องทาง FB : Benefittthailand จะได้รับ "Benefitt  Soy Barista 1 Gift Set" และพิเศษสำหรับร้านที่ทำเมนูเครื่องดื่มจาก “ซอย บาริสต้า” แล้วโพสต์รูปเมนูคู่กับกล่องใต้โพสต์จะได้รับทันทีอีก 1 Gift Set (จำกัด 500 ชุด)

“เบเนฟิตต์ ซอย บาริสต้า” ผลิตจากน้ำนมถั่วเหลืองที่มีคุณภาพ ไม่ผสมนมผง มีกลิ่นหอมมันพิเศษเฉพาะตัว ให้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม มีรสสัมผัสที่นุ่มละมุน แคลลอรี่ต่ำ สามารถนำไปใช้แทนนมวัว จะตีเป็นฟองนุ่มๆ หรือทำลาเต้อาร์ตก็ได้ เพิ่มความอร่อยอีกระดับให้กับเครื่องดื่มแก้วโปรด สำหรับชงกาแฟ ชา และเครื่องดื่มทุกชนิด เหมาะสำหรับทางเลือกของผู้รักสุขภาพ สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.benefittthailand.com,
FB / IG / Twitter : benefittthai และหาซื้อได้ที่ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ทุกสาขา

สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร. 081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

การบริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรับมือกับภาวะฉุกเฉินที่กระทบต่อความปลอดภัยของชีวิต

Logo

การที่โครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสาธารณสุข

ทำให้ระบบบริหารสินทรัพย์เป็นสิ่งสำคัญในการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–12 มิถุนายน 2563

imgบทความโดย นายฟาบิโอ ทิวิติ รองประธานบริษัท อินฟอร์ อาเชียน

จะดีแค่ไหนหากองค์กรหนึ่ง ๆ รู้วิธีรับมือกับเหตุฉุกเฉินร้ายแรง พวกเขาเข้าใจดีถึงค่าใช้จ่ายของความล้มเหลวถ้าไม่มีการเตรียมตัวให้พร้อม และการเตรียมพร้อมนั้นจะเป็นทั้งการช่วยชีวิต และทำให้ธุรกิจเกิดการสูญเสียทางการเงินน้อยที่สุด และการลงระบบที่ตอบรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ให้พร้อม ก่อนที่จำเป็นจะต้องใช้ระบบเหล่านั้น จะช่วยลดเวลาในการกู้คืนระบบ

การเตรียมความพร้อมรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการติดตามดูความเป็นไป และการบริหารจัดการสินทรัพย์ทางกายภาพรวมถึงทรัพยากรบุคคลได้ทุกเวลาที่ต้องการ

ทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ 

เมื่อเริ่มเห็นเค้าลางของปัญหา องค์กรที่ได้เตรียมการไว้เป็นอย่างดีจะเริ่มดำเนินการตามชุดแผนปฏิบัติงานที่กำหนดไว้ได้ทันที เช่นการทำสัญญาจัดซื้อ การทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมา การเตรียมการเรื่องบุคลากร และอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึง และเมื่อภัยเหล่านั้นใกล้เข้ามา พวกเขาก็จะเดินหน้าโครงการและนำโครงการย่อยต่าง ๆ ที่ได้พิจารณาวางแผนไว้อย่างรอบคอบแล้ว มาบูรณาการใช้งานได้ทันที

ถ้าประเด็นอยู่ที่โครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานสูงสุดก่อนเกิดภัยพิบัติใด ๆ องค์กรเหล่านี้ก็จะมีข้อมูลการซ่อมบำรุงแบบเรียลไทม์เพื่อระบุว่าชิ้นส่วนใดจำเป็นต้องได้รับการดูแลทันที และถ้าประเด็นอยู่ที่การประเมินสถานการณ์เพื่อหาจุดเปราะบางต่าง ๆ องค์กรเหล่านี้ก็จะมีเซ็นเซอร์และการตรวจสอบทางกายภาพเพื่อจัดสรรทรัพยากรตามความเหมาะสม

ดังนั้นเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว องค์กรจะสามารถติดตามตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรในแต่ละครั้ง ชิ้นส่วนอุปกรณ์ และการใช้ทรัพยากรในการผลิตได้อย่างถี่ถ้วนด้วยระบบติดตามต่าง ๆ ที่ติดตั้งไว้

นั่นหมายถึงว่า องค์กรจะสามารถรวบรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้โดยง่าย เพื่อทำการเรียกคืนค่าชดเชย ส่งรายงานข้อมูลหลังการดำเนินงานให้ผู้เกี่ยวข้อง และทำการประเมินได้อย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใสว่าการดำเนินการแบบใดได้ผลดีที่สุด

การบูรณาการการตอบสนองของผู้ประกอบการขนส่ง

การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวอย่างของภัยพิบัติเฉียบพลันที่สุดที่ต้องได้รับการตอบสนองอย่างเป็นระบบจากผู้ประกอบการขนส่ง 

ผู้ประกอบการขนส่งที่จะสามารถรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ ได้ดีที่สุด จะต้องมีความสามารถต่อไปนี้

  • มีความแม่นยำและใช้วิธีการที่สามารถจำแนกยานพาหนะ และอุปกรณ์ที่ได้รับการตรวจสอบล่าสุดได้โดยง่าย
  • สามารถระบุช่วงเวลาที่มีการใช้ยานพาหนะน้อย เพื่อให้สามารถกำหนดเวลาซ่อมบำรุงตามปกติ หรือกำหนดการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ 
  • สามารถปรับตารางการทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อมีคำแนะนำเกี่ยวกับสุขอนามัยสาธารณะออกมาเมื่อใด ต้องสามารถปรับให้สอดคล้องเหมาะสมได้ทันที
  • สามารถปรับกระบวนการซ่อมบำรุงประจำวันต่าง ๆ ให้ตอบรับกับสิ่งที่เกิดจากประสบการณ์การระบาดของโรค และกำหนดกระบวนการให้ได้อย่างละเอียด 

ในกรณีฉุกเฉินใด ๆ ซึ่งรวมถึงการระบาดใหญ่ ล้วนมีความเสี่ยงที่ข้อมูลของระบบซัพพลายเชนที่สำคัญ ๆ อาจไม่ได้รับการจัดเก็บอย่างเหมาะสม เครื่องมือใหม่ ๆ ที่กระจายอยู่ในระบบซัพพลายเชนส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การนำไปใช้งานภาคสนามก่อน แต่หากอุปกรณ์เหล่านั้นไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในรายการสินค้าคงคลัง หน่วยงานก็จะไม่สามารถติดตามตรวจสอบการใช้งาน ประสิทธิภาพในการทำงาน สภาพการทำงาน ค่าใช้จ่าย หรือการจำหน่ายออกจากระบบได้

อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญในภาวะวิกฤตโควิด-19 ในปัจจุบัน แต่หากเป็นภัยพิบัติทางกายภาพ ลำดับความสำคัญอาจแตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าในรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ภาวะฉุกเฉินเป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า คุณจะไม่สามารถจัดการกับสิ่งที่คุณไม่สามารถตรวจวัดได้ ในกรณีนี้ หากคุณไม่ทราบว่าสิ่งที่คุณต้องการนั้นอยู่ที่ใด คุณก็จะไม่สามารถติดตามตรวจสอบสิ่งนั้นได้ไม่ว่าเพื่อจุดประสงค์ใดก็ตาม

สร้างกลับมาใหม่ให้ดีกว่าเดิม

ระบบทุกประเภท รวมถึงระบบขนส่งสามารถเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองได้ตลอดเวลา หากระบบเหล่านั้นได้รับการตั้งค่าให้ใช้หลักการที่สามารถสร้างกลับมาใหม่ให้ดีกว่าเดิม

โดยเริ่มจากการให้ความสนใจกับหน่วยงาน และโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานนั้น ๆ อย่างใกล้ชิดก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ จากนั้นทำการบันทึกการตอบสนองของระบบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตพร้อมมุมมองที่ชัดเจนของสิ่งที่เกิดขึ้น  รายละเอียดจะต้องละเอียดมากพอที่จะทราบได้ถึงความพร้อมใช้ของสินทรัพย์ที่ระบุ และความสามารถในการปฏิบัติงานของสินทรัพย์นั้นภายใต้ความกดดัน ระเบียบของแต่ละบุคคลที่ช่วยให้คนงานสามารถทำงานในโหมด "สะอาด" ความโปร่งใสของซัพพลายเชน วัสดุต่าง ๆ รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับคู่สัญญาสำคัญ ๆ

ในประเทศสหรัฐอเมริกา หน่วยงานขนส่งมวลชนเริ่มได้รับเงินกองทุนเพื่อการฟื้นฟู ภายใต้พระราชบัญญัติการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกลางสหรัฐ ผู้ประกอบการจะสามารถทำการประเมินหลังการปฏิบัติการได้ เพื่อคาดการณ์ปัญหาในอนาคต สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลง และเข้าใจอุปสรรคเพื่อจะได้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น และเราอาจจะได้เห็นว่า FTA จะรับมือด้วยการยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงาน หรือมาตรการในการชี้วัดประสิทธิภาพในการทำงานของสินทรัพย์ เพื่อถอดบทเรียนที่ได้รับจากการแพร่ระบาดใหญ่ครั้งนี้อย่างไร

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่ใดก็ตาม การมีส่วนร่วมในสถานการณ์ฉุกเฉินใด ๆ นับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะได้เห็นความสำเร็จต่าง ๆ ตามมา เป็นโอกาสในการแยกแยะช่องว่างต่าง ๆ และทำความมุ่งมั่นพื้นฐานให้ลุล่วงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการนำระบบการจัดการ และระบบไอทีมาใช้ขับเคลื่อนความสำเร็จ

บลูสโคป ประเทศไทย มอบห้องตรวจความดันลบเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ให้ทีมแพทย์ รพ.นพรัตนราชธานี

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–12 มิถุนายน 2563

imgยาน ซู (ขวา) ประธานบริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป ไลสาจท์ (ประเทศไทย) จำกัด และ อาคารเหล็กสำเร็จรูปแรนบิวด์ (RANBUILD) มอบห้องตรวจความดันลบเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ให้กับ นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร (ซ้าย) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 และโรคติดต่ออื่นๆ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยระบบปิดควบคุมเชื้อไวรัสไม่ให้ฟุ้งกระจายไปในอากาศ พร้อมทั้งใช้วัสดุโครงเหล็กคุณภาพปิดทับส่วนผนังภายนอก หลังคา และพื้นที่สะอาดปลอดภัย ในพื้นที่ 15 ตารางเมตร สำหรับ 5 ห้องตรวจ โดยสามารถรองรับจำนวนผู้ที่เข้ามาตรวจคัดกรองได้ประมาณ 100 คน ต่อวัน ซึ่งเป็นอีกความภาคภูมิใจที่ทาง เอ็นเอส บลูสโคป ประเทศไทย ได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสังคมในวิกฤตของสถานการณ์โควิด-19 นี้

###

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

Hilton CleanStay มาตรฐานการบริการทางด้านความสะอาดแบบใหม่เพื่อการท่องเที่ยวทั่วโลก

Logo

มาตรฐานการบริการใหม่จากการพัฒนาร่วมกันกับ RB ผู้ผลิต Lysol และ Dettol พร้อมกันทั่วโลก 15 มิถุนายนนี้

ประเทศไทย–(BUSINESS WIRE)–12 มิถุนายน 2563

Hilton แนะนำมาตรฐานการบริการใหม่ทางด้านความสะอาดและการฆ่าเชื้อ ภายใต้ชื่อ Hilton CleanStay ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง Hilton, RB ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ Lysol และ Dettol และ Mayo Clinic ในการพัฒนามาตรฐานการบริการและแนวทางการปฏิบัติ เพื่อการส่งมอบความมั่นใจ และประสบการณ์ในการเข้าพักที่สะอาดและปลอดภัยให้แก่แขกผู้เข้าพักในโรงแรมฮิลตันทั่วโลก โดยจะเริ่มต้นมาตรฐานการบริการแบบใหม่นี้ภายในสัปดาห์หน้า

img

Hilton CleanStay มาตรฐานการบริการทางด้านความสะอาดแบบใหม่เพื่อการท่องเที่ยวทั่วโลก)

การร่วมมือกันระหว่าง Hilton และ RB ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานการบริการเดียวกัน รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจจาก RB ในโรงแรมในเครือฮิลตันทั่วโลก

“กว่า 100 ปีที่ผ่านมา ความปลอดภัยของแขกและพนักงานเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอมา ในธุรกิจการโรงแรมที่ความคาดหวังของแขกได้เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันจากไวรัสโคโรนานี้ มาตรฐานการบริการ Hilton CleanStay จึงได้ถูกพัฒนาขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความอุ่นใจและความมั่นใจให้กับแขกตลอดการท่องเที่ยว รวมทั้งการดูแลพนักงานของเราด้วยเช่นกัน” คริส นาสเซตตา ประธานและประธานกรรมการบริหารฮิลตัน กล่าว

“แม้ว่าการต้อนรับของเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงระยะเวลาเพียงสั้น ๆ นี้ แต่เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับทุกท่านอีกครั้งที่โรงแรมฮิลตันทั่วโลก พร้อมทั้งส่งมอบประสบการณ์อันแสนประทับใจ และเป็นไปตามความคาดหวังของแขกทุกท่าน”

แขกผู้เข้าใช้บริการทุกท่าน สามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของการบริการภายในโรงแรมฮิลตันทั้งหมด 18 แบรนด์ทั่วโลก ที่จะต้อนรับทุกท่านด้วยมาตรฐานการบริการแบบใหม่ Hilton CleanStay ภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้

มาตรฐานการบริการ Hilton CleanStay เพื่อดูแลแขกทุกท่านตั้งแต่เช็คอินถึงเช็คเอาท์

  • ออนไลน์: เพื่อการวางแผนก่อนการเดินทาง รายละเอียดเกี่ยวกับ Hilton CleanStay จะปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ Hilton.com/cleanstay และบนหน้าเว็บไซต์ของแต่ละโรงแรม เพื่อให้แขกทุกท่านได้รับทราบถึงข้อมูลของมาตรฐานการบริการดังกล่าวในส่วนต่าง ๆ ตลอดการเข้าพัก

  • ล็อบบี้: แอปพลิเคชัน Hilton Honors เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับแขกที่มีความประสงค์ในการเลี่ยงการสัมผัสในขั้นตอนการเช็คอิน โดยให้บริการการเช็คอินแบบดิจิทัล บริการเลือกห้องพัก ดิจิทัลคีย์ เพื่อใช้แทนคีย์การ์ดในการเข้า-ออกห้องพัก และเช็คเอาท์ได้บนโทรศัพท์มือถือ ทางเลือกในการเช็คอินเลี่ยงการสัมผัสนี้ สามารถใช้บริการได้กว่า 4,700 โรงแรมในเครือฮิลตันทั่วโลก ในกรณีที่แขกทำการสำรองห้องพักของโรงแรมผ่านทางแอปพลิเคชัน Hilton Honors หรือบนเว็บไซต์ Hilton.com หากท่านใดมีความประสงค์เช็คอินด้วยการให้บริการจากพนักงาน จะมีมาตรการการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อการเช็คอินและเช็คเอาท์อย่างปลอดภัย

  • ห้องพัก: Hilton CleanStay Room Seal หรือ แผ่นปิดหน้าห้องพักพร้อมสัญลักษณ์ Hilton CleanStay จะถูกปิดผนึกไว้ที่หน้าประตูห้องพักแขกทุกห้อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าห้องพักได้ถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ห้องพักแขกจะได้รับการฆ่าเชื้อ โดยเฉพาะบริเวณพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อย เช่น สวิตช์ไฟ มือจับประตู รีโมตโทรทัศน์ แผงควบคุมอุณหภูมิ และอื่น

  • การบริการทำความสะอาดห้องพัก: ห้องพักจะได้รับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างละเอียดระหว่างเข้าพัก โดยการบริการทำความสะอาดห้องพักจะขึ้นอยู่กับความประสงค์ของแขกแต่ละท่าน ในกรณีที่แขกบางท่านอาจไม่ต้องการให้พนักงานเข้ามาภายในห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก เช่น ผ้าปูที่นอน และเครื่องใช้ภายในห้องน้ำ จะให้บริการเมื่อแขกมีความประสงค์ และส่งมอบให้แก่แขกในบรรจุภัณฑ์เพื่อปกป้องสิ่งของเหล่านั้น โดยวางไว้ที่หน้าประตูห้องพัก
  • พื้นที่สาธารณะ: พื้นที่สาธารณะจะได้รับการดูแลและเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด สำหรับห้องออกกำลังกายได้มีการจัดตารางเวลาทำความสะอาดบ่อยครั้ง รวมถึงการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเน้นระยะห่างระหว่างบุคคล และจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการในแต่ละครั้งด้วย เช่นเดียวกันกับสระว่ายน้ำและบริเวณโดยรอบ ที่มีการทำความสะอาดบ่อยครั้งในระหว่างวัน และมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดวางเจลแอลกอฮอล์ และแผ่นเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อไว้ให้บริการที่บริเวณทางเข้า และจุดต่าง ๆ ที่มีการสัญจรไปมาบ่อยอีกด้วย
  • อาหารและเครื่องดื่ม: ภายในห้องอาหารของโรงแรมจะมีการจัดวางโต๊ะและเก้าอี้ให้มีระยะห่างระหว่างบุคคล เลือกใช้อุปกรณ์รับประทานอาหารที่สามารถย่อยสลายได้หรือใช้ครั้งเดียว และให้บริการเมื่อแขกมีความประสงค์ นำเสนอตัวเลือกในการให้บริการอาหารเช้า ไม่ว่าจะเป็น การนำกลับไปรับประทานที่อื่น การคลุมอุปกรณ์รับประทานอาหาร การให้บริการอาหารแบบตามสั่ง หรือการให้บริการอาหารที่โต๊ะโดยพนักงาน สำหรับการสั่งอาหารมารับประทานที่ห้องพัก จะเน้นการลดการสัมผัสระหว่างบุคคลเป็นสำคัญ โดยอาหารและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียว จะถูกวางไว้ที่ด้านหน้าประตูห้องพัก
  • การจัดประชุมและการจัดอีเว้นท์: โปรแกรม Hilton EventReady with CleanStay เป็นโปรแกรมที่จัดทำขึ้นเพื่อแนะนำมาตรฐานใหม่ในการให้บริการการจัดประชุมและการจัดอีเว้นท์ภายในโรงแรมฮิลตัน โดยมุ่งเน้นถึงความสะอาด ความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และการรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์ การให้บริการเทคโนโลยีที่ทันสมัย และแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยืน พนักงานของเรามีความพร้อมในการดูแลอย่างเต็มความสามารถและทันท่วงทีในทุกขั้นตอนของการประชุมตั้งแต่การวางแผนตลอดจนการดำเนินการโดยคำนึงถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเป็นหลัก

นับตั้งแต่การประกาศความร่วมมือระหว่าง Hilton และ RB ในการพัฒนา Hilton CleanStay เพื่อเป็นมาตรฐานการบริการใหม่ทั่วโลก ในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศแคนาดา ได้มีการใช้ผลิตภัณฑ์จาก Lysol และ Dettol และดำเนินการตามมาตรฐานการบริการ Hilton CleanStay ในขณะเดียวกัน Lysol และ Dettol จะถูกนำไปใช้ในโรงแรมฮิลตันในประเทศต่าง ๆ รวมถึง Sagrotan ในประเทศเยอรมนี และ Napisan ในประเทศอิตาลีอีกด้วย

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์ของ RB มีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้บริโภคมีความปลอดภัยในการดำรงชีวิต โดยมีการอ้างอิงจากการศึกษาโดย American Journal of Infection Control ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ Dettol และ Lysol มีความสามารถในการยับยั้งเชื้อโวรัสโควิด-19 ได้

“การปกป้องผู้คนจากการเจ็บป่วยเป็นหัวใจสำคัญของ RB และแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลกของเรา” ราฮุล คาเดียน รองประธานบริหารด้านสุขอนามัยและครัวเรือนประจำอเมริกาเหนือ กล่าว “แบรนด์ของเราเกิดขึ้นจากความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ ประสิทธิภาพทางวิทยาศาสตร์ และความมุ่งมั่นในการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้บริโภคทั่วโลก เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อโรค การร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ส่งมอบมาตรฐานสูงสุดทางด้านสุขอนามัย เพื่อให้ผู้บริโภคได้มั่นใจและได้รับประสบการณ์ที่ดีที่โรงแรมฮิลตันด้วย”

ตลอดการพัฒนามาตรฐานการบริการ Hilton CleanStay นี้ Mayo Clinic ได้ให้การสนับสนุนและให้คำแนะนำทางการแพทย์ เพื่อการพัฒนาการฝึกอบรม ถึงแนวทางการปฏิบัติในการทำความสะอาด และการประกันคุณภาพ นอกจากนี้ Mayo Clinic ยังได้ให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อภายในโรงแรมฮิลตันอีกด้วย

“ความปลอดภัยส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด เมื่อธุรกิจและกิจกรรมต่าง ๆ กลับมาดำเนินการอีกครั้ง” สเตซี่ ริซซา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ Mayo Clinic กล่าว “เรามีความภาคภูมิใจที่ได้นำความเชี่ยวชาญและความรู้มารับมือกับโรคโควิด-19 ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ Hilton ในการให้คำแนะนำหลักสูตรการฝึกอบรมด้วย”

มาตรฐานการบริการ Hilton CleanStay ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้การดูแลแขกทุกท่านตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเข้ามาภายในโรงแรม และตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการ เพื่อให้มั่นใจถึงสุขอนามัยที่ดีของแขกและพนักงาน โดยยังคงให้การต้อนรับและการบริการด้วยมิตรไมตรีจิตแบบที่ฮิลตันได้ปฏิบัติตลอดมา

การฝึกอบรมเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของมาตรฐานการบริการแบบใหม่ทางด้านความสะอาดและการฆ่าเชื้อนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าพนักงานของเราได้รับทราบถึงขั้นตอนของการให้บริการ รวมถึงความปลอดภัยของพนักงานและผู้อื่น พนักงานของเราพร้อมให้การต้อนรับ ทักทาย และให้บริการอย่างมีมิตรไมตรีจิต ในขณะที่พวกเขาใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และให้ความสำคัญในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลด้วย

###

เกี่ยวกับฮิลตัน
ฮิลตัน (NYSE: HLT) บริษัทชั้นนำด้านธุรกิจโรงแรมแห่งหนึ่งของโลก ที่มีแบรนด์โรงแรมระดับโลกภายใต้การบริหารของบริษัทถึง 18 แบรนด์ มากกว่า 6,100 แห่ง และมีห้องพักเกือบ 977,000 ห้อง ใน 118 ประเทศและเขตการปกครองอื่น ๆ ฮิลตัน ทุ่มเทอย่างยิ่งเพื่อให้บรรลุพันธกิจในการเป็นบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจการบริการที่ดีที่สุดในโลก ฮิลตัน ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของโลกปี 2561 และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมระดับโลกจากกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ปี 2561 และได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 3 พันล้านคนตลอดระยะเวลา 100 ปีของการเปิดให้บริการ ตลอดจนการบริหารโปรแกรมสมาชิกฮิลตัน ออนเนอร์ส ซึ่งมีสมาชิกกว่า 106 ล้านคนสำรองห้องพักผ่านช่องทางของฮิลตันโดยตรง และได้รับสิทธิประโยชน์โดยทันที รวมไปถึงบริการเช็คอินแบบดิจิทัลและบริการเลือกห้องพัก ดิจิทัลคีย์ และคอนเนครูม ติดตามข้อมูลของฮิลตันได้ที่ newsroom.hilton.com หรือติดตามผ่าน Facebook, TwitterLinkedInInstagram และ YouTube

เกี่ยวกับ RB

RB* ขับเคลื่อนด้วยวัตถุประสงค์ในการปกป้องรักษาเพื่อสรรสร้างโลกที่สะอาดและมีสุขภาพดีอย่างไม่หยุดยั้ง เราต่อสู้เพื่อการเข้าถึงสุขอนามัยที่มีคุณภาพอย่างสูงสุด ทั้งในเรื่องของสุขภาพ และการดูแล ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิทธิพิเศษ แต่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม RB มีความภูมิใจในแบรนด์ครัวเรือนที่เชื่อถือได้และได้รับความไว้วางใจกว่า 190 ประเทศ โดยแบรนด์ครัวเรือนเหล่านี้ รวมไปถึง Enfamil, Nutramigen, Nurofen, Strepsils, Gaviscon, Mucinex, Durex, Scholl, Clearasil, Lysol, Dettol, Veet, Harpic, Cillit Bang, Mortein, Finish,  Calgon, Woolite, Air Wick และอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ของเราถูกจัดซื้อและจำหน่ายโดยผู้บริโภคทั่วโลก กว่า 20 ล้านชิ้นต่อวัน

RB คำนึงถึงผู้บริโภคและบุคคลทั่วไปก่อนเป็นหลักในการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศในทุก ๆ ด้านที่เราสรรสร้าง โดยร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นตัวกำหนดและชี้นำเราเสมอ ต่อแนวทางการทำงานของเพื่อนพนักงานกว่า 40,000 คน ที่หลากหลายและมีพรสวรรค์ทั่วทุกมุมโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ http://www.rb.com

*RB คือชื่อการค้าของกลุ่ม บริษัท Reckitt Benckiser

เกี่ยวกับ Mayo Clinic

Mayo Clinic เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร มุ่งเน้นเพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมในเวชปฏิบัติ การศึกษา และการวิจัย โดยมีผู้เชี่ยวชาญในการตอบปัญหาและชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจต่อผู้ต้องการเข้ารับการรักษา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและข่าวสาร สามารถติดตามได้ที่ Visit the Mayo Clinic News Network  และ An Inside Look at Mayo Clinic

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52234394/en

โตชิบา เปิดตัวเซ็นเซอร์รับภาพ CCD เชิงเส้นขาวดำ ชนิดลดขนาดสองเลนส์ 1,500 พิกเซล สำหรับอุปกรณ์อุตสาหกรรม

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–11 มิถุนายน 2563

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ("โตชิบา") ได้เปิดตัวเซ็นเซอร์รับภาพ CCD เชิงเส้นขาวดำ ชนิดลดขนาดสองเลนส์ 1,500 พิกเซล สำหรับอุปกรณ์อุตสาหกรรม โดยรุ่น “ TCD1105GFG” มาพร้อมฟังก์ชันชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ในตัวและ รุ่น “ TCD1106GFG” โดยจะมีการจัดส่งตัวอย่างตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563

ได้เปิดตัวเซ็นเซอร์รับภาพ CCD เชิงเส้นขาวดำ ชนิดลดขนาดสองเลนส์ https://www.businesswire.com/news/home/20200610005926/en/

Toshiba: Lens reduction type 1500-pixel monochrome CCD linear image sensors "TCD1105GFG" and "TCD1106GFG" for industrial equipment (Photo: Business Wire)

Toshiba: เปิดตัวเซ็นเซอร์รับภาพ CCD เชิงเส้นขาวดำ ชนิดลดขนาดสองเลนส์ 1,500 พิกเซล สำหรับอุปกรณ์อุตสาหกรรม รุ่น "TCD1105GFG" และรุ่น "TCD1106GFG" (ภาพ: Business Wire)

เซ็นเซอร์ใหม่รองรับความต้องการของอุตสาหกรรมที่สำคัญสองประการ ได้แก่การทำงานที่รวดเร็วของอุปกรณ์ที่ต้องใช้เซ็นเซอร์ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ตรวจสอบด้วยเซ็นเซอร์รับภาพ CCD เชิงเส้นแบบขาวดำ และอีกประการหนึ่งคือการลดการใช้พลังงานลง

เซ็นเซอร์ใหม่สามารถใช้งานได้ที่อัตราข้อมูลสูงสุด 25MHz และทั้งสองรุ่นรวมวงจรตัวสร้างจังหวะเวลาและไดรเวอร์ CCD เอาไว้แล้ว จึงทำให้สามารถทำงานแบบความเร็วสูงโดยใช้วงจรภายนอกไม่กี่ตัว วงจรตัวอย่างและวงจรรักษาสภาพในตัว (A built-in sample and hold circuit ) ช่วยขยายระยะเวลาของสัญญาณวิดีโอ ทำให้การออกแบบง่ายขึ้นสำหรับการประมวลผลสัญญาณความเร็วสูง

นอกจากประสิทธิภาพที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นแล้ว ก็ยังใช้พลังงานได้ต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ความเร็วสูงในปัจจุบันของโตชิบา  ด้วยการใช้พาวเวอร์ไดรฟ์เดี่ยวเพียง 3.3V

คุณสมบัติ

  • 1,500 พิกเซล, อัตราการส่งข้อมูล 25MHz (สูงสุด), เซ็นเซอร์รับภาพ CCD เชิงเส้นขาวดำ
  • มีวงจรสร้างจังหวะเวลาในตัว ช่วยลดการไดรฟ์วงจรจากภายนอก
  • มาพร้อมกับวงจรตัวอย่างและวงจรรักษาสภาพในตัวช่วยยืดระยะเวลาของสัญญาณวิดีโอขาออก(ขั้วสัญญาณ: บวก)
  • ฟังก์ชั่นชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ในตัว เฉพาะสำหรับรุ่น TCD1105GFG เท่านั้น
  • พาวเวอร์ไดรฟ์เดี่ยว 3.3V

การใช้งาน

อุปกรณ์ตรวจสอบด้วยแสงอัตโนมัติ อุปกรณ์ตรวจจับ เครื่องอ่านบาร์โค้ด ฯลฯ

คุณสมบัติหลัก

หมายเลขชิ้นส่วน

TCD1105GFG / TCD1106GFG

ขนาดพิกเซล

5.25μm x 50μm (ระยะพิทช์5.25μm)

จำนวนพิกเซลที่มีประสิทธิภาพจริง

1,500 พิกเซลต่อ 1 บรรทัด

ความไว

(จุดกำเนิดแสง + CM500S)

TCD1105GFG: 125V/(lx s)

TCD1106GFG: 600V/(lx s)

อัตราสำหรับข้อมูล หรือ data rate

สูงสุดที่ 25MHz

การใช้ไฟฟ้า

3.3V (typ.)

อื่น ๆ / คุณสมบัติเพิ่มเติม

วงจรเครื่องสร้างเวลา

 วงจรตัวอย่างและวงจรรักษาสภาพ

 ฟังก์ชั่นชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ (เฉพาะรุ่น TCD1105GFG เท่านั้น)

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่กรุณาเยี่ยมชม:

TCD1105GFG

https://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TCD1105GFG

TCD1106GFG

https://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TCD1106GFG

สอบถามสำหรับลูกค้า:

ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ระบบ

กลุ่มส่งเสริมการขาย

โทร: +81-3-3457-3332

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นข้อมูลล่าสุดในวันที่ประกาศ อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation รวมความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาและประสบการณ์ โดยนับตั้งแต่ได้รับการเปิดตัวจากบริษัทโตชิบาในเดือนกรกฎาคม 2560 เราได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในบริษัทอุปกรณ์ทั่วไปชั้นนำและนำเสนอโซลูชันที่โดดเด่นให้แก่ลูกค้า และหุ้นส่วนทางธุรกิจในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกตัวระบบ LSI และ HDD

พนักงานของเราจำนวน 24,000 คน ทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของเรา และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ ๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างยอดขายรายปีให้สูงกว่าในปัจจุบัน หรือ เจ็ดแสนห้าหมื่นล้านเยน (6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเอื้อให้เกิดอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนทุกที่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200610005926/en/

สอบถามสำหรับสื่อ:

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

ฝ่ายการตลาดดิจิตอล

Chiaki Nagasawa

โทร: +81-3-3457-4963

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

กสิกรไทย เปิดตัวบัตรเงินด่วน Xpress Cash ใหม่ ชูจุดเด่น “รูด กด ผ่อน ช่วยได้ในบัตรเดียว” เสริมความล้ำให้ใช้งานผ่านแอป K PLUS ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วัยทำงานยุคดิจิทัล

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–10 มิถุนายน 2563

imgธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวบัตรเงินด่วน Xpress Cash (เอ็กเพรสแคช) ใหม่ ชูจุดเด่นเป็นบัตรเงินด่วนบัตรเดียวที่ลูกค้าสามารถ “รูดซื้อ กดเงินสด รูดผ่อน” ทำได้ครบจบในบัตรเดียว สามารถรูดซื้อสินค้า กดเงินสดได้ที่ตู้เอทีเอ็มที่มีสัญลักษณ์ ATM Pool ฟรีค่าธรรมเนียม แถมด้วยสิทธิพิเศษรูดผ่อนสินค้า นานสูงสุดถึง 36 เดือน หรือรับโปร 0% ในร้านที่ร่วมรายการ เช่น AIS, True, dtac, Jaymart, Studio 7, iStudio เสริมความล้ำด้วยการใช้งานผ่านแอป K PLUS เต็มรูปแบบ เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว เช่น ใช้ QR Code ผ่าน K PLUS เพื่อถอนเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มกสิกรไทย โดยไม่ต้องใช้บัตรและฟรีค่าธรรมเนียม ตอบโจทย์คนวัยทำงานในยุคดิจิทัล ทำให้ลูกค้าสามารถบริหาร จัดการเงินสดด้วยตัวเอง ทำได้ทันใจ ได้เงินทันใช้ทุกสถานการณ์

จุดเด่น: บัตรเงินด่วน Xpress Cash กสิกรไทย “รูด กด ผ่อน ช่วยได้ในบัตรเดียว”

  • รูดซื้อ  ได้ที่ร้านค้าที่มีเครื่องหมาย Union Pay ที่ร่วมรายการ
  • กดเงินสด ได้ที่ตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ ATM Pool ฟรีค่าธรรมเนียม หรือใช้ QR Code ผ่าน K PLUS เพื่อถอนเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มกสิกรไทย
  • รูดผ่อนสินค้า นานสูงสุดถึง 36 เดือน หรือรับโปร 0% ในร้านที่ร่วมรายการ เช่น AIS, True, dtac, Jaymart, Studio 7, iStudio

บริการล้ำๆ ผ่าน K PLUS  ของบัตรเงินด่วน Xpress Cash กสิกรไทย: แค่ลูกค้าผูกบัตรเงินด่วน Xpress Cash กสิกรไทย ผ่านแอป K PLUS ก็สามารถใช้บริการต่อไปนี้ได้

  • ถอนเงินสด ไม่ต้องใช้บัตร ด้วย QR Code ผ่าน K PLUS ที่ตู้ ATM กสิกรไทย
  • เปลี่ยนยอดรูดซื้อเป็นผ่อนจ่าย แบบรายเดือน นานสูงสุด 36 เดือน
  • โอนเงินด่วน เปลี่ยนวงเงินในบัตรเป็นเงินสดเข้าบัญชีเงินฝากของตนเองผ่าน K PLUS
  • จ่าย ยอดค้างชำระผ่าน K PLUS
  • เช็ค ตรวจสอบประวัติแบ่งชำระ, ขอ Statement และเรียกดูประวัติการใช้บัตรจาก K PLUS

สนใจสมัครบัตรเงินด่วน Xpress Cash ได้ง่ายๆ ที่ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ สมัครผ่าน  K-Contact Center โทร. 02-8888888 แค่มีรายได้ประจำ 7,500 บาทต่อเดือนสำหรับพนักงานเงินเดือน หรือ 20,000 บาทสำหรับเจ้าของกิจการ ก็สามารถสมัครได้แล้ว อนุมัติไว วงเงินสูงสุด 1.5 ล้านบาท ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ฟรี! ทั้งค่าธรรมเนียมรายปี และค่าธรรมเนียมการกดเงินสด สามารถเลือกชำระคืนขั้นต่ำเพียงเดือนละ 3% หรือ 5%

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://kbank.co/2XIdN3u  

เดอะเฟสช็อป เตรียมมาตรการป้องกันโรค COVID-19 เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกค้า หลังคลายล็อกดาวน์ระยะ 3

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–10 มิถุนายน 2563

imgเดอะเฟสช็อป (THE FACE SHOP) เครื่องสำอางอันดับ 1 จากประเทศเกาหลี เตรียมมาตรการป้องกันโรค COVID-19 หลังจากมีการคลายล็อกดาวน์ ผ่อนปรนระยะ 3 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้า โดยมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการทั้ง 93 สาขา

สำหรับมาตรการป้องกันโรค COVID-19 มีข้อควรปฏิบัติ 8 ข้อ ได้แก่ 1) ตรวจวัดอุณหภูมิของพนักงานทุกวัน 2) เตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ก่อน – หลังบริการ สำหรับลูกค้า 3) จำกัดจำนวนคนภายในร้าน เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าทุกคน 4) ทำ Social Distancing เว้นระยะห่างในการเลือกซื้อสินค้าและรอคิว 5) พนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย Face Shield และ ถุงมือขณะให้บริการตลอดเวลา 6) ทำความสะอาดภายในร้านด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ 7) งดการทดลองสินค้าทุกชนิด 8) ใช้ E-Payment ชำระเงิน ลดการสัมผัสเงินสด

ทั้งนี้เดอะเฟสช็อปพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการเดินทางมาซื้อสินค้าภายในร้านเดอะเฟสช็อปได้อย่างสบายใจ Stay Safe and Keep Healthy นอกจากนี้หากลูกค้าไม่สะดวกเดินทางไปซื้อสินค้า ยังสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.thefaceshopthailand.com หรือ Line ID: @thefaceshop.th สอบถามเพิ่มเติมที่ FB: thefaceshopthailand, IG: thefaceshopthailand หรือ Line ID: @thefaceshop.th

#thefaceshop #thefaceshopthailand
#เราจะสู้ไปด้วยกันค่ะ  

###

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์ โทร. 081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

The Bangkok Reporter