Hillstone Networks ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำด้านการเติบโตและนวัตกรรมของ NGFW ในรายงาน Frost Radar™ 2023

Logo

รับตำแหน่งผู้นำใน NGFW Arena

ซานตาคลารา แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–8 กันยายน 2023 

Hillstone Networks ผู้ให้บริการโซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและการเติบโตใน รายงาน 2023 Frost Radar™ Next Generation Firewalls

ในรายงาน Frost Radar™ 2023 ซึ่งจัดทำโดย Frost & Sullivan นำเสนอการวิเคราะห์ตลาดเชิงลึกที่ประเมินผู้ใช้งานในอุตสาหกรรมผ่านมุมมองด้านกลยุทธ์ในการเติบโต นวัตกรรม ประสบการณ์ของลูกค้า และส่วนแบ่งการตลาด รายงานนี้เป็นแหล่งข้อมูลอันมีค่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจในการตัดสินใจพร้อมข้อมูลสำหรับความต้องการโซลูชันไฟร์วอลล์รุ่นต่อไป (NGFW)

เราเป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำในรายงาน Frost Radar™ 2023” กล่าวโดย Tim Liu CTO และผู้ร่วมก่อตั้ง Hillstone Networks “ในขณะที่ภูมิทัศน์เทคโนโลยีมีการขยายตัวที่กว้างขึ้น จึงมีความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของเราด้วยเช่นกัน การได้รับการยอมรับในรายงาน NGFW Frost Radar เป็นการตอกย้ำถึงความทุ่มเทของเราในด้านโซลูชันทางวิศวกรรมขั้นสูง เรามีความภูมิใจที่ได้ยืนอยู่แถวหน้าของการพัฒนาไฟร์วอลล์รุ่นต่อไป พร้อมกับความสามารถด้านเทคนิคของเราที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อรองรับความมุ่งมั่นของเราในการสร้างการป้องกันทางไซเบอร์ การได้รับการยอมรับส่งเสริมให้เราสามารถเจาะลึกนวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างไม่ลดละ ก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเครือข่ายให้ครอบคลุมได้ดียิ่งขึ้น"

จากข้อมูลของ Frost & Sullivan แนวคิดขอบเขตการรักษาความปลอดภัยมีการปรับเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง เนื่องจากการประมวลผลบนคลาวด์ การทำงานระยะไกล อุปกรณ์ระบบ edge และความคิดริเริ่มในการปรับเปลี่ยนทางดิจิทัลอื่น ๆ ปัจจุบันนี้ NGFW ยังมีภาพรวมที่ไม่ชัดเจน ความสามารถในการปรับขนาดและการกำหนดนโยบายที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดใหม่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งหมายถึง NGFW จะต้องมีการปรับเปลี่ยนด้านความสามารถในการทำงานด้วยเช่นกัน Frost มีการระบุให้มีการผสานรวมและขยายขอบเขตโซลูชันการรักษาความปลอดภัยที่เชื่อมโยงกัน รวมถึง “ซอฟต์แวร์กำหนดเครือข่ายบริเวณกว้าง (SD-WAN) สื่อกลางในการเข้าถึงระบบการรักษาความปลอดภัยในระบบคลาวด์ (CASB) เกตเวย์เว็บที่ปลอดภัย (SWG) การเข้าถึงเครือข่ายแบบ zero trust (ZTNA) และ NGFW เข้าเป็นกลุ่ม SASE”

กลุ่มผลิตภัณฑ์ NGFW ที่ได้รับรางวัลของ Hillstone Networks นำเสนอสถาปัตยกรรมระบบความปลอดภัยที่พร้อมสำหรับอนาคต เพื่อปรับให้เข้ากับการขยายโครงสร้างพื้นฐานและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ และเป็นรากฐานสำหรับสถาปัตยกรรมแบบ zero-trust เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ขั้นสูง Hillstone A-Series และ X-Series Next-Generation Firewalls ส่งมอบระบบการป้องกันเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง มีความน่าเชื่อถือ และปรับขนาดได้สำหรับองค์กรและผู้ให้บริการ พร้อมความสามารถในการตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามที่ครอบคลุมและชาญฉลาด เพื่อปกป้องทรัพย์สินดิจิทัลขององค์กร

แพลตฟอร์ม Hillstone NGFW ยังเป็นรากฐานสำหรับโซลูชัน Hillstone SD-WAN และ ZTNA ซึ่งครอบคลุม ควบคุม และผสานรวม

ด้วยความช่วยเหลือของกลไก AI ที่ซับซ้อน Hillstone ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์และตรวจจับการรับส่งข้อมูลที่เข้ารหัสโดยไม่ต้องถอดรหัส ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมและมีความแม่นยำในการตรวจจับภัยคุกคาม” กล่าวโดย Martin Naydenov นักวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมอาวุโส – ความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Frost & Sullivan “Hillstone มีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งและมีกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ พร้อมครอบคลุม Mega Trends ระดับโลก ตัวอย่างเช่น การประมวลผลบนคลาวด์ ด้วยเหตุนี้ จึงยังคงเปิดตัวโซลูชันใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น Cloud Workload Protection โดยมีการร่วมมือกับผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายใหญ่อย่าง AWS และ Azure เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมไอทีแบบไฮบริด”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hillstone Next-Generation Firewalls ได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

Hillstone Networks เป็นผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมมอบการปกป้องทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้างแก่บริษัททุกขนาด ตั้งแต่ edge ไปจนถึง cloud และรองรับปริมาณงานทุกระดับ แนวทางการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เชิงบูรณาการของ Hillstone Networks มีความครอบคลุม พร้อมการควบคุม และสามารถผสานรวมระบบสำหรับองค์กรกว่า 26,000 แห่งทั่วโลก www.hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางสอบถามสำหรับสื่อ
Zeyao Hu
+1 4085086750
inquiry@hillstonenet.com

แหล่งข้อมูล: Hillstone Networks

Technology Innovation Institute เปิดตัว Falcon 180B โมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบโอเพ่นซอร์สที่ทรงพลังที่สุดในโลก

Logo

  • โมเดลใหม่ครองอันดับ 1 ใน Hugging Face Leaderboard ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบโอเพ่นซอร์ส
  • โมเดลที่มีพารามิเตอร์ 180 พันล้านได้รับการฝึกฝนบนชุดข้อมูล 3.5 ล้านล้านโทเค็น พร้อมทรัพยากรการประมวลผลของ LLaMA 2 ของ Meta ถึง 4 เท่า
  • Falcon 180B เป็นโมเดลที่เข้าถึงได้แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับนักวิจัยและผู้ใช้เชิงพาณิชย์

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE )–6 กันยายน 2023

Technology Innovation Institute (TII) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังก้าวข้ามขีดจำกัดของ Generative AI อีกครั้งด้วยการเปิดตัว Falcon 180B ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ขั้นสูงที่เป็นรุ่นเรือธงของพวกเขา การเปิดตัวที่ล้ำสมัยนี้ช่วยเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในด้าน AI โดยนำเสนอ Falcon 180B ให้เป็นโมเดลการเข้าถึงแบบโอเพ่นซอร์สสำหรับการวิจัยและการใช้เชิงพาณิชย์

Falcon 180B Benchmarks (Photo: AETOSWire)

เกณฑ์มาตรฐาน Falcon 180B (รูปภาพ: AETOSWire)

หลังจากความสำเร็จอันน่าทึ่งของ Falcon 40B ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สที่ทะยานขึ้นสู่อันดับสูงสุดใน Hugging Face Leaderboard ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 TII ซึ่งเป็นเสาหลักการวิจัยประยุกต์ของ Advanced Technology Research Council (ATRC) ของอาบูดาบียังคงเป็นผู้นำในการพัฒนา Generative AI Falcon 40B ถือเป็นตัวอย่างแรกๆ ของโมเดลโอเพ่นซอร์สสำหรับทั้งนักวิจัยและผู้ใช้เชิงพาณิชย์ และถือเป็นการก้าวกระโดดของการบุกเบิกในสาขานี้

H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการของ Advanced Technology Research Council เน้นย้ำถึงผลกระทบเชิงบวกของ Falcon ที่มีต่อภูมิทัศน์ของ AI และกล่าวว่า "เรามองเห็นอนาคตที่พลังการเปลี่ยนแปลงของ AI อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมของทุกคน เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเข้าถึง AI ขั้นสูงให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เนื่องจากความเป็นส่วนตัวและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของ AI ต่อมนุษยชาติไม่ควรถูกควบคุมโดยคนเพียงไม่กี่คน แม้ว่าเราอาจไม่มีคำตอบทั้งหมด แต่ความมุ่งมั่นของเรายังคงแน่วแน่ นั่นคือการทำงานร่วมกันและมีส่วนร่วมในชุมชนโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้แบ่งปันประโยชน์ของ AI"

ด้วยพารามิเตอร์ที่น่าทึ่งถึง 180 พันล้านพารามิเตอร์และฝึกฝนบนชุดข้อมูล 3.5 ล้านล้านโทเค็น Falcon 180B ทะยานขึ้นสู่อันดับสูงสุดของ Hugging Face Leaderboard ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว โมเดลนี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งที่มีชื่อเสียงอย่าง LLaMA 2 ของ Meta ในเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ รวมถึงการทดสอบการใช้เหตุผล การเขียนโค้ด ความชำนาญ และการทดสอบความรู้

ในบรรดาโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบปิดที่ดีที่สุด Falcon 180B อยู่ในอันดับที่ตามหลัง GPT 4 ล่าสุดของ OpenAI และทัดเทียมกับประสิทธิภาพของ PaLM 2 Large ของ Google ซึ่งเป็นโมเดลที่ขับเคลื่อน Bard แม้ว่าจะมีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของโมเดลก็ตาม กรอบการอนุญาตใช้งานสำหรับโมเดลนี้กำหนดขึ้นโดยใช้ "Falcon 180B TII License" ซึ่งอิงตาม Apache 2.0

Dr. Ebtesam Almazrouei กรรมการบริหารและรักษาการหัวหน้านักวิจัยของ AI Cross-Center Unit ของ TII กล่าวว่า "การเปิดตัว Falcon 180B เป็นตัวอย่างของการอุทิศตนของเราในการพัฒนาขอบเขตของ AI และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้แบ่งปันศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของมันกับโลก Falcon 180B ประกาศศักราชใหม่ของ Generative AI โดยสร้างศักยภาพของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ผ่านการเข้าถึงแบบโอเพ่นซอร์สเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนนวัตกรรมแห่งอนาคต ขณะที่เราเจาะลึกขอบเขตของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิสัยทัศน์ของเราขยายไปไกลกว่านวัตกรรม นั่นคือการรักษาความสัมพันธ์อันลึกซึ้งเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลกผ่านความก้าวหน้าทางการทำงานร่วมกัน"

ด้วยนักพัฒนามากกว่า 12 ล้านคนที่ยอมรับและปรับใช้ Falcon รุ่นแรก การอัปเกรดครั้งสำคัญนี้จึงพร้อมที่จะกลายเป็นโมเดลชั้นนำสำหรับโดเมนต่างๆ ตั้งแต่แชทบอทไปจนถึงการสร้างโค้ด และอื่นๆ อีกมากมาย

Falcon 180B เข้ากันได้กับภาษาหลักต่อไปนี้: อังกฤษ เยอรมัน สเปน และฝรั่งเศส โดยมีความสามารถจำกัดในภาษาอิตาลี โปรตุเกส โปแลนด์ ดัตช์ โรมาเนีย เช็ก และสวีเดน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ FalconLLM.tii.ae

ที่มาAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรบั ชมภาพในรูปแบบมลัติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20230906583274/en

รายชื่อผู้ติดต่อ

Jennifer Dewan ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร
jennifer.dewan@tii.ae

ที่มา: The Technology Innovation Institute

ทรงพลังยิ่ง: Mary Kay Inc. ครองตำแหน่งแบรนด์ขายตรง #1 สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางระดับโลก

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–5 กันยายน 2023

เติมสีสันให้ชีวิตของเรา แบรนด์ความงามอันโดดเด่นและบริษัทผู้ประกอบการระดับโลก Mary Kay Inc. ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น แบรนด์ขายตรง #1 สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางระดับโลก* โดย Euromonitor International เราได้รับเกียรตินี้เมื่อบริษัทเฉลิมฉลอง 60 ปีในการดำเนินธุรกิจ โดยสานต่อมรดกการเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้หญิงจากก่อนหน้านี้ จนถึงปัจจุบัน และตลอดไป ของ Mary Kay Ash

The honor comes as the company celebrates its 60th anniversary in business, continuing Mary Kay Ash’s legacy of empowering women then, now, and always. (Graphic: Mary Kay Inc.)

เกียรติภูมิพร้อมเฉลิมฉลองบริษัทครบรอบ 60 ปีในการดำเนินธุรกิจ โดยสานต่อมรดกของ Mary Kay Ash ในการสร้างเสริมศักยภาพแก่กลุ่มผู้หญิงทั้งจากนี้และตลอดไป (ภาพ: Mary Kay Inc.)

Euromonitor International ยืนหยัดในฐานะผู้ให้บริการชั้นนำด้านข่าวกรองธุรกิจระดับโลก การวิเคราะห์ด้านการตลาด และข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค ด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปีในการทำวิจัยตลาดกว่า 100 ประเทศ การที่ Mary Kay ได้รับการยอมรับไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรากฎตัวบนเวทีระดับโลกอย่างกว้างขวางและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

"นี่เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่จาก Euromonitor เป็นเสมือนลูกเชอรี่ประดับบนยอดเค้กวันเกิดของเรา” Nathan Moore ประธานฝ่ายขายและการตลาดทั่วโลกของ Mary Kay กล่าว “รายงานนี้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของเราในคุณภาพและนวัตกรรม ตลอดจนถึงชุมชนที่ปรึกษาด้านความงามที่น่ายกย่องของเรา ซึ่งยังคงเป็นหัวใจหลักและแรงผลักดันของเรา ความทุ่มเทและหลงใหลเป็นตัวนำความสำเร็จก้าวผ่านอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเราด้วยความสดใส”

Mary Kay มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสุขภาพผิว วิจัยและพัฒนา และโภชนาการมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน แบรนด์ถือครองสิทธิบัตรกว่า 1,600 ฉบับสำหรับผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในผลงานทั่วโลก

เราเพิ่งเริ่มต้น” Moore กล่าวเสริม “แม้ว่านี่จะเป็นความสำเร็จทางธุรกิจที่โดดเด่นและบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งในแบรนด์ของเรา แต่ Mary Kay Ash ได้สอนให้เราไม่หยุดอยู่กับที่ นี่คือก้าวต่อไปในการส่งเสริม นวัตกรรม และความสำเร็จสำหรับในอีก 60 ปีข้างหน้า”

*”แหล่งข้อมูล Euromonitor International Limited; Beauty and Personal Care ฉบับปี 2023 มูลค่ายอดค่าที่ RSP ข้อมูลจากปี 2022”

เกี่ยวกับ Mary Kay

จากก่อนหน้านี้ จนถึงปัจจุบัน และตลอดไป Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ริเริ่มฝ่ากำแพงในใจของตัวเอง ก่อตั้งแบรนด์ผลิตภัณฑ์ด้านความงามในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ การทำให้ผู้หญิงมีชีวิตที่ดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนใน 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่ Mary Kay สร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตัวเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ได้ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยซึ่งเป็นเบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการรักษ์โลกเพื่อคนรุ่นใหม่ ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการละเมิดในครอบครัว รวมถึงสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ที่ FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53547550/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.


XEV เปิดตัวโมเดล YOYO รุ่นล่าสุดที่งาน IAA Mobility พร้อมวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 4

Logo

MUNICH, Germany–(BUSINESS WIRE)–5 กันยายน 2023

วันที่ 4 เดือนกันยายน ปี 2023 XEV บริษัทเทคโนโลยียานยนต์พลังงานแหล่งใหม่ระดับโลก เปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์เพื่อการคมนาคมในเมืองที่ได้รับการอัปเกรด YOYO ที่ IAA Mobility โดยโมเดล YOYO ใหม่นี้จะเปิดตัวพร้อมกันในประเทศต่างๆ เช่น อิตาลี เยอรมันี ฝรั่งเศส และสเปน โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในไตรมาสที่สี่ของปี 2023 ราคาตั้งต้นที่ 16,990 ยูโร (ไม่รวมอุปกรณ์เสริม) ปัจจุบัน XEV มีการติดตั้งจุดจำหน่ายมากกว่า 120 แห่งในประเทศอิตาลี เยอรมันี ฝรั่งเศส และสเปน และคาดว่า จะมีจุดจำหน่ายทั้งหมดในยุโรปกว่า 300 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ทันสมัย ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการคมนาคมภายในเมือง YOYO ผสมผสานเทคโนโลยี สุนทรียภาพ และการใช้งานได้จริง โดยมีการออกแบบที่ล้ำสมัย ซึ่งประกอบด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น หน้าต่างไร้กรอบ กลุ่มไฟ LED แบบสามมิติ และหลังคากระจกแบบพาโนรามา ด้วยหน้าจออัจฉริยะความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว (carplay& androidauto) และฟังก์ชันการควบคุมระยะไกลผ่านแอปมือถือ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบเครื่องปรับอากาศ เปิดปิดหน้าต่าง ปลดล็อครถยนต์ และตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ YOYO ถือเป็นเพื่อนคู่ใจในอุดมคติของคุณสำหรับการคมนาคมาภายในเมือง

ด้วยกำลังไฟเต็มรูปแบบที่ระยะทาง 150 กม. และความเร็วสูงสุดที่ 80 กม./ชม. YOYO มาพร้อมการควบคุมที่แม่นยำและคล่องตัว ช่วยให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจเมือง นอกจากนี้ ด้วยระบบการเปลี่ยนแบตเตอรี่น้ำหนักเบาอันเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของ XEV YOYO สามารถสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ภายใน 3 นาที ช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจในการเดินทางโดยไม่หยุดชะงัก

XEV มีการร่วมมือกับ ENI ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ในยุโรป เพื่อปรับใช้และสร้างเครือข่ายเพื่อรองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั่วยุโรป ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จไฟได้ที่ปั๊มน้ำมันของ ENI ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ ENI จึงช่วยให้ XEV สามารถสร้างสถานีได้กว่า 30 แห่งในห้าเมืองของอิตาลี รวมถึงโรม มิลาน ตูริน และโบโลญจน์ และผ่านการพิสูจน์แล้วว่า ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้ใช้งาน พร้อมการเปิดตัวของ YOYO ในประเทศอิตาลี เยอรมันี ฝรั่งเศส สเปน และประเทศอื่นๆ เครือข่ายรองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ XEV ก็มีการขยายไปทั่วด้วยเช่นกัน เอื้อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การคมนาคมภายในเมืองที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

ในงาน IAA Mobility ปีนี้ XEV ได้เปิดตัวบริการเฉพาะบุคคล Xpression อย่างเป็นทางการ โดยมีการนำเสนอการออกแบบ YOYO แบบต่างๆ ที่สามารถปรับแต่งได้เฉพาะตัว XEV ยังได้ร่วมมือกับ UAAD ที่เป็นแพลตฟอร์มศิลป์ออนไลน์ที่นิวยอร์ก เพื่อนำเสนอตัวเลือกการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมและน่าดึงดูดใจแก่ผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้การคมนาคมภายในเมืองมีความสร้างสรรค์และสนุกสนานยิ่งขึ้น

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53548984/en

ติดต่อ

XEV Global
Benjamin Lu
xev-PR@xev-global.com

แหล่งข้อมูล: XEV

LED Expo Thailand รวบรวม “ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและดิจิทัลสำหรับระบบไฟอัจฉริยะ” ไว้ด้วยกัน

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–5 กันยายน 2023

นิทรรศการโซลูชัน LED และระบบไฟอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน LED Expo Thailand เตรียมกลับมาอีกครั้งที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 20-22 กันยายน 2023 ซึ่งจัดโดย MEX Exhibitions และ IMPACT Exhibition Management งานนี้รับประกันประสบการณ์สมจริงที่ผู้เข้าร่วมสามารถสำรวจความก้าวหน้าล่าสุดในเทคโนโลยี LED และระบบไฟอัจฉริยะ พบกับผู้นำต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม และรับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับระบบไฟในอนาคต

งานนี้นำเสนอพื้นที่จัดแสดงที่ครอบคลุม โดยมีนิทรรศการของ กฝผ. เพื่อส่งเสริมระบบไฟ LED ให้เป็นโซลูชันหลักในการรับมือกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มมากขึ้น โดยนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดในเทคโนโลยีและการใช้งานระบบไฟอัจริยะที่นำเสนอโดยผู้แสดงสินค้ากว่า 400 รายในด้านระบบไฟที่หลากหลาย รวมถึงระบบไฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบไฟที่ประหยัดพลังงาน ระบบไฟสำหรับการดูแลสุขภาพและสังคม ระบบไฟสำหรับพืชสวน ระบบไฟที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์ ระบบไฟอัจฉริยะ และระบบไฟที่ยั่งยืน จากประเทศไทย จีน มาเลเซีย ฟินแลนด์ อินเดีย ไต้หวัน เป็นต้น ผู้ซื้อจากทั่วโลกสามารถสำรวจผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของแบรนด์ LED ชั้นนำ แบรนด์ชั้นนำบางส่วนที่จะเข้าร่วมงาน LED Expo Thailand ได้แก่ EXELUX (มาเลเซีย), LEDIL OY (ฟินแลนด์), TOYO LED ELECTRONICS LIMITED (ฮ่องกง), YUS UNITED ENTERPRISES INC., LEDLINK (ไต้หวัน), HORTISPECTRA, LEDESTAR (จีน), TRANS.AD SOLUTIONS COMPANY LIMITED, RAYLIGHT TECHNOLOGY CO., LTD (ประเทศไทย) และอื่น ๆ อีกมากมาย

Himani Gulati ผู้อำนวยการ MEX Exhibitions Pvt. Ltd. กล่าวว่า “ในปีนี้ เรามุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี LED มีการพัฒนาอย่างไรเพื่อตอบสนองความท้าทายของโลกยุคใหม่ โดยเน้นไปที่ความยั่งยืน ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการใช้งานอัจฉริยะ”

ไฮไลท์ของงานได้แก่ การประกวด Innovative LED Lighting Project Pitching Contest ที่ผู้ซื้อจะได้ชมการจัดแสดงโครงการระบบไฟที่ยั่งยืนโดยนักศึกษา/กลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย สัมมนา Thailand Smart Lighting Industry Seminar ที่นำเสนอความคืบหน้าจากภาครัฐและเอกชนเกี่ยวกับโครงการสำคัญ โอกาสทางการตลาด และแผนงานเมืองอัจฉริยะในประเทศไทย งานนี้ยังจัดเป็นแพลตฟอร์มพิเศษสำหรับการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางธุรกิจและความร่วมมือระหว่างผู้แสดงสินค้าและผู้เข้าร่วมงานด้วย HOSTED BUYER PROGRAMME โดยมุ่งเน้นที่การประชุมทางธุรกิจแบบตัวต่อตัว

“เราภูมิใจที่ได้ต้อนรับผู้เข้าร่วมและผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก LED Expo Thailand ทำหน้าที่เป็นสะพานสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่ซึ่งได้รวมความคิด นวัตกรรม และความร่วมมือไว้ด้วยกัน” Mr. Loy Joon How ผู้จัดการทั่วไป IMPACT Exhibition Management Co. Ltd. กล่าว

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Ms. Robby Keshan, 011-46464830

แหล่งที่มา: LED Expo Thailand

Seoul Edition 23 เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “Seoul, Make It Yours” โดย V วง BTS

Logo

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–4 กันยายน 2023

รัฐบาลกรุงโซลและองค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลประกาศเปิดตัว Seoul Edition 23: New Tradition วิดีโอแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลที่ร่วมกับ V ศิลปินวง BTS ทั่วโลกในวันที่ 1 กันยายน วิดีโอทีเซอร์ได้รับการตอบรับอย่างมีล้นหลาม โดยมียอดดูถึง 400,000 ครั้งในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์

Seoul Tourism Organization has released Seoul Edition 23: New Tradition, a Seoul tourism promotional campaign video featuring BTS member V on VisitSeoul TV, the official YouTube channel for Seoul tourism. (Graphic: Business Wire)

องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลได้เปิดตัว Seoul Edition 23: New Tradition ซึ่งเป็นวิดีโอแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลที่มี V ศิลปินวง BTS บน VisitSeoul TV ซึ่งเป็นช่อง YouTube อย่างเป็นทางการสำหรับการท่องเที่ยวกรุงโซล (กราฟิก: Business Wire)

แคมเปญภาคที่สอง Seoul Edition 23: Nature in the City มีกำหนดปล่อยวันที่ 8 กันยายน

วิดีโอส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลประจำปี 2023 ที่ร่วมกับ V ศิลปินวง BTS และทูตการท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์ของกรุงโซลเผยแพร่ทาง VisitSeoul TV (https://www.youtube.com/VisitSeoulTV) ซึ่งเป็นช่อง YouTube อย่างเป็นทางการสำหรับการท่องเที่ยวกรุงโซลที่ดำเนินการโดยองค์การการท่องเที่ยวกรุงโซล

วิดีโอชุดแรก New Tradition เป็นการแนะนำกรุงโซลและความสามารถในการรวบรวมองค์ประกอบของอดีตเข้ากับในยุคปัจจุบัน วิดีโอเริ่มต้นด้วยชื่อ Seoul Edition โดยมี V อยู่ในฉากหลังของกรุงโซล จากนั้นจะดำเนินต่อไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าเครื่องหมายและสัญลักษณ์แบบดั้งเดิมของเมืองยังคงรวมอยู่ในชีวิตประจำวันของเราในรูปแบบที่ทันสมัย เช่น แฟชั่น Y2K ที่พบในตลาดทงมโย ร้านกาแฟสมัยใหม่ในตลาดแบบดั้งเดิม และนิทรรศการสถาปัตยกรรมสื่อในจัตุรัสควางฮวามุน วิดีโอปิดท้ายด้วยข้อความว่า Seoul, Make It Yours เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมทั่วโลกอยากที่จะคว้าโอกาสเพื่อสัมผัสกับกรุงโซลในทันที

วิดีโอชุดที่สอง Nature in the City ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 8 กันยายน นำเสนอวิถีชีวิตของชาวโซลที่โอบกอดธรรมชาติในย่านใจกลางเมืองที่พลุกพล่าน

นอกจากนี้ กิจกรรม Seoul Edition Hashtag จะจัดขึ้นเป็นเวลาหนึ่งเดือนในเดือนกันยายนทางช่องทางโซเชียลมีเดียของ Visit Seoul ผู้ที่โพสต์แฮชแท็กที่กำหนดพร้อมรูปถ่ายสถานที่ที่ต้องการเยี่ยมชมหรือแนะนำ จะได้เข้าร่วมการจับรางวัลเพื่อรับสิทธิ์ลุ้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับกรุงโซล รวมถึงบัตรกำนัลการเข้าพักที่โรงแรมระดับห้าดาวเป็นเวลาสองคืน สามารถดูรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ช่องทาง Instagram อย่างเป็นทางการของ Visit Seoul (@visitseoul_official) และช่องทางโซเชียลมีเดีย Visit Seoul อื่น ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน

แคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการจัดแสดงสโลแกนใหม่ของรัฐบาลกรุงโซลอย่าง Seoul, My Soul ไปทั่วโลก ภายใต้สโลแกนใหม่นี้ เนื้อหาแคมเปญจะถูกเผยแพร่สู่ผู้คนทั่วโลกโดยใช้ช่องทางสื่อกลางแจ้งที่มีอิทธิพลในหกเมืองใหญ่ รวมถึงไทม์สแควร์ในนิวยอร์กซิตี้ โตเกียว เซี่ยงไฮ้ กรุงเทพฯ และไทเป เนื้อหาที่แสดงทั้งหมดจะสอดคล้องกับธีมของการถ่ายเซลฟี่กับ V โดยหวังว่าจะสร้างกระแสในหมู่แฟน ๆ และผู้ชมที่สนใจในชุมชนทั่วโลก

แคมเปญนี้จะถูกเผยแพร่ทั่วโลกในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และภูมิภาคอื่น ๆ ของเอเชีย ผ่านทางเครือข่ายโทรทัศน์หลัก ๆ เช่น CNN และ NBC รวมถึงสื่อ New York Times

นอกเหนือจากการส่งเสริมโซลให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลต้องการจะสื่อข้อความอันหนักแน่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการอธิบายว่ากรุงโซลที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นเป็น "สิ่งที่หาไม่ได้จากที่ไหน" แคมเปญนี้ยังให้ความสำคัญกับการกำหนดโทนภาพลักษณ์ของกรุงโซลในฐานะเมืองที่โอบรับเทรนด์ "newtro" ควบคู่ไปกับความสามารถในการกลมกลืนกับธรรมชาติทั้งในและรอบ ๆ กรุงโซล

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53547150/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Kwon Dayoung
kndy@sto.or.kr

ที่มา: องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซล


งาน Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 ถึง 21 ตุลาคม

Logo

มอบความสุขในการแสดงของขวัญแก่ผู้เข้าชมงานทุกท่าน

การมีส่วนร่วมจากบริษัท 200 แห่งและผู้ซื้อประมาณ 700 รายจากเกาหลีและต่างประเทศ โดยเน้นที่โลกาภิวัตน์ของ K-beauty –

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–4 กันยายน 2023

งาน Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2023 เข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ซึ่งจะจัดขึ้นที่ Osong Bio Valley ตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 21 ตุลาคม

2023 Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea will be held on Oct 17 to 21 (Poster: Osong Bio-Promotion Foundation)

งาน Cosmetics & Beauty Expo 2023 Osong Korea จะจัดขึ้นในวันที่ 17 ถึง 21 ตุลาคม (โปสเตอร์: มูลนิธิ Osong Bio-Promotion)

บริษัทในประเทศที่มีชื่อเสียง 200 แห่ง รวมถึง LG H&H และ Pion-Tech รวมถึงผู้ซื้อประมาณ 700 รายจากเกาหลีและต่างประเทศจะเข้าร่วม และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานแสดงสินค้ามากกว่า 100,000 ราย

Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2023 เป็นงานมหกรรมเครื่องสำอางที่ K-Beauty เกิดขึ้นใหม่ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชั้นนำของเกาหลีทั้งหมด

งานนี้จัดขึ้นภายใต้สโลแกน “K-Beauty in the World: Discover It in Osong” และได้รับการออกแบบให้เป็น “Beauty unboxing” จากบริบทที่ทำให้คนทั้งโลกได้รับของขวัญแห่งความงามใน Osong

งานแสดงสินค้าประกอบด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ล่าสุด และการให้คำปรึกษาด้านการส่งออกแบบ 1:1 การจัดแสดงและการขายเครื่องสำอาง การประชุม และกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนแผนที่จะมอบโอกาสและความสุขแก่ผู้มาเยี่ยมชมเพื่อสัมผัสเทรนด์ K-Beauty

สถานที่จัดงานได้ถูกย้ายจากสถานี Osong ซึ่งเป็นสถานที่เดิมไปยัง Osong Bio Valley (ตรงข้ามกระทรวงความปลอดภัยด้านอาหารและยา) ซึ่งมีพื้นที่กลางแจ้งขนาดใหญ่ 37,000 ตารางเมตร

ไม่เพียงแต่ Corporate Hall I, II และ Main Exhibition Hall ของ Business Hall เท่านั้น แต่ยังมีโซนถ่ายรูปที่หลากหลาย รวมถึงสวนความงามและหอคอยดอกไม้ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คุณได้ชมสิ่งต่างๆ มากมาย

บนเวทีกลางแจ้ง จะมีการจัดการประกวด Osong Beauty Senior Pageant, International Startup Function Fair ปี 2023 และการแสดงโดยองค์กรศิลปะท้องถิ่น และในหอประชุมของศูนย์ C&V ในร่ม ซึ่งเป็นการประชุมนานาชาติเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับเอฟเฟกต์ความงาม การประกวดความงามเมืองชองจู และการประกวดการทดลองชีวการแพทย์ครั้งที่ 19 จะจัดขึ้น โดยมีกิจกรรมมากมายให้เพลิดเพลิน

นอกจากนี้ รถบรรทุกอาหารต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาการ และที่จอดรถกว่า 700 คันจะพร้อมให้บริการ และจะมีรถบัสรับส่งจากสถานี Osong ไปยังสถานที่จัดงานเพื่อความสะดวกของผู้เข้าชม

นอกจากนี้ คาดว่าจะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การปรับแต่งเครื่องสำอางของคุณเอง (น้ำหอมและเอสเซ้นส์ที่มีกลิ่นหอม), การวินิจฉัย InBody และผิวหนัง, โปรแกรมประสบการณ์การดูแลความงามในการวินิจฉัยหนังศีรษะ, แบบทดสอบ OX ออนไลน์เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและการซื้อของผู้เยี่ยมชม และรูเล็ตในสถานที่พร้อมใบเสร็จการซื้อ เพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนาในความงามของผู้มาเยือน

ผู้เยี่ยมชมจะสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงใหม่ล่าสุดที่ได้รับความนิยมในราคาที่เอื้อมถึงได้ต่ำกว่าราคาตลาด และสัมผัสประสบการณ์ผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

สัมผัสโชคของการแกะกล่องของขวัญ K-Beauty ใต้ท้องฟ้าฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามของเกาหลี

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/53544275/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

คณะกรรมการจัดงาน Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea Organizing
Ji-eun Oh
+82 43-220-4452
uhee80@korea.kr

ที่มา: คณะกรรมการจัดงาน Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea

Defense Derby อัปเดตใหญ่ครั้งแรกพร้อมเปิดตัวยูนิตใหม่ ”แพะหมอผี”

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–4 กันยายน 2023

RisingWings,, สตูดิโออิสระของ KRAFTON, Inc. (KRX: 259960) ได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับการอัปเดตใหญ่ครั้งแรกของ Defense Derby ฮีโร่ผู้พิทักษ์ เกมกลยุทธ์แบบเรียลไทม์บนมือถือ

RisingWings of KRAFTON announced the first update for its upcoming real-time strategy defense mobile game, Defense Derby. The update introduces a new unit, the Plaguemancer, a magic-type unit of the beast faction. (Graphic: Business Wire)

RisingWings จาก KRAFTON ประกาศเกี่ยวกับการอัปเดตใหญ่ครั้งแรกของเกมกลยุทธ์แบบเรียลไทม์บนมือถือของเกม Defense Derby ฮีโร่ผู้พิทักษ์ พร้อมเปิดตัวยูนิตใหม่หรือแพะหมอผี ซึ่งเป็นยูนิตสายเวทย์จากเผ่าสัตว์ป่า (กราฟฟิก: Business Wire)

การอัปเดตใหญ่ในครั้งนี้จะมาพร้อมกับผู้พิทักษ์คนใหม่อย่าง แพะหมอผี ซึ่งเป็นยูนิตสายเวทย์จากเผ่าสัตว์ป่า แพะหมอผีมีความสามารถพิเศษในการใช้สกิลแพร่เชื้อ ซึ่งสามารถทำให้มอนสเตอร์ติดเชื้อและได้รับความเสียหายมากยิ่งขึ้นตามพลังโจมตีของแพะหมอผีดังนั้นเขาจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเมื่อมีเลเวลสูงขึ้น

และเพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัวยูนิตใหม่ ทางผู้พัฒนาได้มีการเพิ่มโหมดใหม่ที่เรียกว่า Derby Brawl ซึ่งเป็นโหมดคู่ขนานเข้ามาอีกด้วย ในโหมดนี้ผู้เล่นทุกคนจะเริ่มต้นเกมด้วยเด็คแบบเดียวกันโดยมีแพะหมอผีเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ ผู้เล่นสามารถร่วมสนุกกับโหมดใหม่นี้ได้ถึงวันที่ 14 กันยายน 2566

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มโหมดพิเศษอย่าง “โหมดสุ่มฮีโร่” ในโหมดนี้ผู้เล่นจะสามารถจัดวางยูนิต อาร์ติแฟกซ์ และสวมใส่สกินปราสาทได้อย่างอิสระ แต่ฮีโร่ที่ได้รับจะถูกสุ่มเลือกเมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น มอบประสบการณ์สุดท้าทายให้กับผู้เล่น ในการประมูลและจัดวางทีมให้เข้ากับฮีโร่ที่ได้รับเพื่อสร้างสรรค์กลยุทธ์สุดแปลกใหม่ โดยจะเปิดให้ผู้เล่นได้ร่วมสนุกกับโหมดสุ่มฮีโร่ในวันที่ 15 ถึง 28 กันยายนนี้

ในการเริ่มต้นเข้าสู่ซีซั่นใหม่ “บึงโอสถทิพย์” เราได้มีการอัปเดตกิจกรรมล็อกอินประจำซีซั่น ของรางวัลในร้านพรนำโชคและวงล้อลุ้นโชค โดยเมื่อล็อกอินเข้าเกมผู้เล่นจะได้รับ 1,000 คิวบิก ทองคำ 24 ชั่วโมง และน้ำอมฤต 24 ชั่วโมง พร้อมรางวัลต่างๆอีกเพียบ ตามจำนวนวันที่ล็อกอิน เช่น คริสตัล อีโมตแพะหมอผี และหากล็อกอินครบ 7 วัน ผู้เล่นจะได้รับการ์ดแพะหมอผีระดับหายาก หรือสามารถแลกการ์ดหมอผีได้จากร้านค้ากิจกรรม อย่างร้านพรนำโชคและวงล้อลุ้นโชค

นอกจากยูนิตและโหมดใหม่เหล่านี้แล้ว ยังมีการอัปเดตอื่นๆ ได้แก่

  • เพิ่ม “โบนัสเผ่าไม่ซ้ำ” ในโหมดเดอร์บี้
  • การปรับสมดุลระหว่างเผ่า
  • ปรับทรัพยากรที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนเด็ค
  • เปลี่ยนของรางวัลเควสประจำสัปดาห์ตากคิวบิกเป็นเพชร
  • ปรับการตั้งค่าเกรดและเลเวลเพื่อปรับสมดุลของผู้เล่นในโหมดสร้างห้องเล่นกับเพื่อน

ดูการอัปเดต Defense Derby ล่าสุดได้ที่ https://www.facebook.com/DefenseDerby.THAILAND และติดตามเราบนโซเชียลมีเดีย (YouTube | Discord)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53547141/en

ข้อมูลติดต่อ

KRAFTON
Jihyun Park
jihyun.park@krafton.com

ที่มา: KRAFTON

Hytera ลงนามกรอบข้อตกลงประจำปีกับ Sinopec Group

Logo

เซินเจิ้น จีน–(BUSINESS WIRE )–1 กันยายน 2023

Hytera Communications (SZSE: 002583) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ชนะการประมูลจัดซื้ออุปกรณ์วิทยุสองทางด้านอุตสาหกรรมของ Sinopec Group ปี 2023-2024 ในเดือนสิงหาคม 2023 Hytera เป็นผู้ชนะการประมูลแต่เพียงผู้เดียวและขอบเขตการจัดซื้อครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของ TETRA, PDT และ PoC ตลอดจนวิทยุความปลอดภัยสองทางในตัวและกล้องที่สวมใส่ติดตัว (BWC)

ในฐานะโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกและบริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่อันดับสอง Sinopec Group ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) อย่างต่อเนื่อง การประมูลครั้งนี้นำไปสู่การซื้อเฟรมเวิร์กรวมศูนย์สำหรับอุปกรณ์และระบบวิทยุสองทางของ Sinopec Group เป็นครั้งแรก ความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การดำเนินงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพทั่วทั้งโรงงานของ Sinopec

"Hytera ให้บริการลูกค้าปิโตรเคมีจำนวนมากทั่วโลกอย่างภาคภูมิใจ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในสถานที่ทำงานเหนือสิ่งอื่นใด ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์อีกประการหนึ่งถึงการยอมรับในอุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์และความสามารถของ Hytera" Mu Qiao ผู้จัดการทั่วไปของ Hytera China กล่าว "ในอนาคตข้างหน้า เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่อไปและเพิ่มขีดความสามารถให้กับการดำเนินงานที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมีในวงกว้างยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นนี้ผลักดันให้เราก้าวข้ามขอบเขตของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าของเรา"

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันน้ำมันและก๊าซของ Hytera ได้ที่ https://www.hytera.com/en/industries/oil-and-gas.html

เกี่ยวกับ Hytera

Hytera Communications Corporation Limited (SZSE: 002583) คือผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ด้วยความสามารถด้านเสียง วิดีโอ และข้อมูล เรามอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ปลอดภัยยิ่งขึ้น และหลากหลายยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจและภารกิจที่สำคัญ เราทำให้โลกมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จมากขึ้นทั้งในด้านการปฏิบัติงานประจำวันและการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

lele.yao@hytera.com

ที่มา: Hytera Communications

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของประเทศไทยเลือก Charles River เพื่อจัดการการดำเนินงานสำนักงานส่วนหน้า

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE )–4 กันยายน 2023

Charles River® Development บริษัทในเครือ State Street ประกาศว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของประเทศไทย (กบข.) ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 1.2 ล้านคน ได้เลือก Charles River Investment Management Solution (Charles River IMS) เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานสำนักงานส่วนหน้าให้ทันสมัย และจัดการตราสารทุน ตราสารหนี้ และพอร์ตการลงทุนหลายสินทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ

กบข.จะใช้ Charles River IMS เพื่อส่งมอบขั้นตอนการทำงานอัตโนมัติพร้อมการประมวลผลโดยตรงทั่วทั้งสำนักงานส่วนหน้าและส่วนกลางสำหรับการสร้างพอร์ตโฟลิโอ การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน การจัดการคำสั่งซื้อ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดก่อนและหลังการซื้อขาย แพลตฟอร์มจะจัดหาข้อมูลเงินสด สถานะ และหลักประกันที่มีอยู่ในแบบเรียลไทม์ และส่งมอบข้อมูลตัวชี้วัดเพื่อช่วยให้การดำเนินงานมีความมีประสิทธิภาพสูงสุด

"เนื่องจากแผนการลงทุนเปลี่ยนไป สินทรัพย์มีความหลากหลายและกลยุทธ์การลงทุนมีความซับซ้อนมากขึ้น จึงมีความต้องการระบบที่สามารถรองรับการตัดสินใจลงทุนที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นเรื่อยๆ " ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการ กบข. กล่าว "การเลือก Charles River IMS เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรในการจัดการกระบวนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ จะช่วยให้เกิดระบบอัตโนมัติที่ดียิ่งขึ้น ขับเคลื่อนประสิทธิภาพ และสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างทีม ช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตและให้บริการสมาชิกของเราได้ดียิ่งขึ้น"

"Charles River มีประวัติอันยาวนานในการทำงานร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญและเจ้าของทรัพย์สินอื่นๆ ทั่วภูมิภาค APAC และเราเข้าใจและสนับสนุนความต้องการทางธุรกิจเฉพาะของพวกเขา" Dennis Baillon ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ APAC ของ Charles River Development กล่าว "แพลตฟอร์มของเราช่วยให้บริษัทต่างๆ เช่น กบข.รวมรูปแบบการดำเนินงานของตนเข้ากับความยืดหยุ่นในการรวมเทคโนโลยีและบริการของเราเพื่อรองรับการเติบโต ไม่ว่าจะผ่านทางการกระจายความเสี่ยงไปสู่กลยุทธ์ใหม่ ประเภทสินทรัพย์ หรือภูมิศาสตร์"

State Street ให้บริการนักลงทุนสถาบันในประเทศไทยมานานกว่า 25 ปี โดยก่อตั้งสำนักงานตัวแทนในปี 2014 เมื่อเวลาผ่านไป ข้อเสนอของบริษัทได้เติบโตขึ้นจากการดูแล บริการการจัดการการลงทุน และการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ไปจนถึงการเงินด้านหลักทรัพย์ ประสิทธิภาพ ความเสี่ยง และการวิเคราะห์ ESG ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีสำนักงานส่วนหน้าในตลาดภาครัฐและเอกชนผ่านทาง Charles River

"เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่กบข.ไว้วางใจให้ State Street ช่วยจัดการพอร์ตการลงทุนที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ " Kevin Hardy หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ State Street กล่าว "ในฐานะที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยจึงเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่น่าตื่นเต้นสำหรับ State Street โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแพลตฟอร์มการให้บริการสินทรัพย์แบบส่วนหน้าจนถึงส่วนเบื้องหลังที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของเรา State Street Alpha® เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถและมอบบริการที่เป็นเลิศแก่นักลงทุนสถาบันในประเทศไทย"

เกี่ยวกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 ในปี 1996 และจัดให้มีการจ่ายเงินบำเหน็จและบำเหน็จบำนาญแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐเมื่อเสร็จสิ้นการรับราชการ กองทุนได้เติบโตขึ้นจนเป็นหนึ่งในกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยบริหารจัดการมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดประมาณ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับสมาชิก 1.2 ล้านคน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.gpf.or.th/

เกี่ยวกับ Charles River บริษัทในเครือ State Street Company

ผู้จัดการด้านการลงทุน ความมั่งคั่ง และทางเลือก เจ้าของสินทรัพย์ และบริษัทประกันในกว่า 30 ประเทศพึ่งพา Charles River IMS ในการจัดการสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 58 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วมกับบริการสำนักงานส่วนกลางและส่วนเบื้องหลังของ State Street เทคโนโลยีสำนักงานส่วนหน้าที่ทำงานบนคลาวด์ของ Charles River ก่อให้เกิดรากฐานของ State Street Alpha® Charles River ช่วยทำให้กระบวนการลงทุนในประเภทสินทรัพย์ต่างๆ เป็นอัตโนมัติและลดความซับซ้อน ตั้งแต่การจัดการพอร์ตการลงทุนและการวิเคราะห์ความเสี่ยงไปจนถึงการซื้อขายและการชำระบัญชีหลังการซื้อขาย โดยมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบแบบบูรณาการและข้อมูลที่ได้รับการจัดการตลอดทั้งระบบ ระบบนิเวศของพันธมิตรของ Charles River ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูล การวิเคราะห์ แอปพลิเคชัน และผู้ให้บริการสภาพคล่องที่สนับสนุนการผสมผสานผลิตภัณฑ์และสินทรัพย์ของตน เราให้บริการลูกค้าทั่วโลกด้วยพนักงานมากกว่า 1,250 คนในสำนักงานภูมิภาค 11 แห่ง (สถิติ ณ ไตรมาส 2 ปี 2023)

เกี่ยวกับ State Street Corporation

State Street Corporation (NYSE: STT) คือหนึ่งในผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำของโลกแก่นักลงทุนสถาบัน รวมถึงบริการด้านการลงทุน การจัดการการลงทุน ตลอดจนการวิจัยและการซื้อขายการลงทุน ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การดูแลและ/หรือการบริหารมูลค่า 39.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ* ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2023 State Street ดำเนินงานทั่วโลกในตลาดทางภูมิศาสตร์มากกว่า 100 แห่ง และมีพนักงานประมาณ 43,000 คนทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของ State Street ที่ www.statestreet.com

*สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร วันที่ 30 มิถุนายน 2023 ประกอบด้วยสินทรัพย์ประมาณ 63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ SPDR® ซึ่ง State Street Global Advisors Funds Distributors, LLC (SSGA FD) ทำหน้าที่เป็นตัวแทนการตลาดแต่เพียงผู้เดียว SSGA FD และ State Street Global Advisors อยู่ในเครือเดียวกัน

© 2023 State Street Corporation – สงวนลิขสิทธิ์
State Street Corporation, One Lincoln St, Boston MA 02111

การจำแนกประเภทข้อมูล: ทั่วไป

5907051.1.1.APAC.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
Kellie Smith
kelliesmith@crd.com
+61 3 8628 0100 ต่อ: 1171

Kate Cheung
kate.cheung@statestreet.com
+852 3556 1103

ที่มา: Charles River Development

The Bangkok Reporter