NTT DATA เข้าร่วม Global Alliance Program ของ EOI Space

Logo

ข้อตกลงนี้จะเอื้อให้ลูกค้าของ NTT DATA สามารถวางแผนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและการป้องกันประเทศด้วยความสามารถการถ่ายภาพทางดาวเทียมของ EOI Space

LOUISVILLE, Colo.–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2022

 EOI Space คือบริษัทที่ปรับใช้กลุ่มดาวเทียมซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตำแหน่งแก่ลูกค้าภาครัฐและเชิงพาณิชย์ วันนี้ได้ประกาศเกี่ยวกับข้อตกลงด้านการจัดจำหน่ายเชิงกลยุทธ์กับ NTT DATA Corporation ซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการทางไอทีระดับโลก เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีภาพถ่ายโลกที่มีความละเอียดสูงเป็นพิเศษของ EOI Space แก่ลูกค้าในตลาดประเทศญี่ปุ่น

Christopher Thein, CEO of EOI Space (left) and Hidenori Chihara, Executive Vice President of NTT DATA. (Photo: Business Wire)

Christopher Thein, CEO จาก EOI Space (ซ้าย) และ Hidenori Chihara, รองกรรมการผู้จัดการจาก NTT DATA. (ภาพ: Business Wire)

NTT DATA เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการเจ้าแรกใน Global Alliance Program ของ EOI Space ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรจำกัดระดับโลกที่มีสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหาและบริการดาวเทียมของ EOI Space ก่อนใคร ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ NTT DATA จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ล่าสุดของ EOI Space นั่นคือ ดาวเทียม Stingray ซึ่งมีวงโคจรโลกที่ต่ำมาก (Very Low Earth Orbit (VLEO)) ช่วยให้สามารถมอบข้อมูลความจุสูงที่ลูกค้าต้องการ เพื่อตรวจสอบและรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนการคุกคามความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่ง EOI Space วางแผนที่จะเปิดตัวดาวเทียมดวงแรกในไตรมาส 1 ปี 2024 โดยมีดาวเทียมอีกห้าดวงที่คาดว่าจะเปิดตัวภายใน 12 เดือน ขณะเดียวกัน NTT DATA ก็จะสร้าง Secure Access Facility ในญี่ปุ่น เพื่อเสริมความสามารถในการดาวน์ลิงก์โดยตรงจากกลุ่มดาวเทียม Stingray

“EOI Space และ NTT DATA ร่วมมือกันสร้าง Secure Access Facility สำหรับ NTT DATA แบบระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้สามารถส่งข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคย” Christopher Thein ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง EOI Space กล่าว “นี่คืออุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการถ่ายภาพคุณภาพสูงอย่างทันเวลา เราขอขอบคุณพันธมิตรที่ทุ่มเทร่วมใจให้กับภารกิจและตลาดนี้สำหรับ NTT DATA”

“โดยการใช้ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space เราจะสามารถรวบรวมภาพความละเอียดสูงจำนวนมากในศูนย์ข้อมูลของเรา เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ภายใน การใช้อัลกอริธึม AI ล่าสุดของเราจะช่วยให้เราสามารถให้บริการผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มแก่ลูกค้าของเรา โดยการแยกความแตกต่างในข้อมูลที่รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้และข้อมูลที่รวบรวมใหม่ เพื่อตรวจสอบความผิดปกติ” Hideyuki Nakamura ผู้จัดการฝ่ายบริหารจาก NTT DATA กล่าว “นอกเหนือจากนี้ เรายังสามารถขยายการใช้งานภาพของ EOI Space สำหรับระบบป้องกันภัยพิบัติต่างๆ และโครงการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะมีการพัฒนาขึ้นในอนาคต และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เสริมระดับความยืดหยุ่น”

อนาคตของดาวเทียม: ขนาดเล็ก แต่ให้ผลสูง

ดาวเทียมกลายมามีความสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวันและในด้านความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนทั่วโลก ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนพลาสมาที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท โดยทำงานในวงโคจรที่ใกล้โลกมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับดาวเทียมอื่นๆ ในตลาด ช่วยให้ดาวเทียมสามารถจับภาพความละเอียดสูงเกือบ 15 ซม. ได้แบบเรียลไทม์ ระบบขับเคลื่อนแบบไอออนไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นอิสระของ EOI Space ซึ่งอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ช่วยให้สามารถมั่นใจได้ว่า ดาวเทียมจะสามารถทำงานได้อย่างเสถียรในวงโคจรโลกต่ำ นอกจากนี้ ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space ที่มีขนาดเล็กจะช่วยให้ NTT DATA และลูกค้าสามารถเข้าถึงภาพความละเอียดสูงและความจุข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับดาวเทียมขนาดใหญ่ที่มีราคาแพงกว่าในการพัฒนาและเปิดตัว

NTT DATA คาดว่า ยอดขายข้อมูลของ EOI Space และผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม เช่น การวิเคราะห์ AI มีมูลค่าสูงกว่า 70 ล้านดอลลาร์ในปี 2028 โดยคาดการณ์ว่า ยอดขายส่วนใหญ่จะมาจากการนำไปใช้ในการป้องกัน ความปลอดภัยสาธารณะ และการจัดการภัยพิบัติ บริษัทยังได้เข้าร่วมกับนักลงทุนรายย่อยอื่นๆ ในกลุ่ม Series A ของ EOI Space พร้อมการลงทุนในตราสารทุน แสดงถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อ EOI Space และตลาดการสังเกตการณ์โลก

เกี่ยวกับ EOI Space

EOI Space ตั้งอยู่ใน Louisville, Colorado กำลังพัฒนาดาวเทียมขนาดเล็กที่สามารถบินต่ำอย่างไม่เหมือนใคร เพื่อรวบรวมภาพถ่ายความละเอียดสูงเป็นพิเศษ รองรับการใช้งานด้านสังเกตการณ์ในโลกที่หลากหลายในวงโคจรโลกที่ต่ำมาก (Very Low Earth Orbit (VLEO)) โดยใช้สิทธิบัตรเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ผ่านการรับรองและกำลังอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร การปฏิบัติการใกล้โลกมากขึ้นกว่าเดิมจะทำให้ EOI บันทึกมุมมองของโลกจากอวกาศ เพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวกรองแบบเรียลไทม์ที่มีมูลค่าสูงเชิงพาณิชย์ การติดตามทรัพย์สิน และการตรวจสอบสถานการณ์ ขณะนี้ EOI Space กำลังระดมทุนเพื่อลงทุนในการขยายกลุ่มดาวเทียม ติดตามเราได้ที่ https://eoi.space เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภารกิจและโอกาสในการลงทุนของเรา

เกี่ยวกับ NTT DATA

NTT DATA เป็นส่วนหนึ่งของ NTT Group  และเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมด้านไอทีและบริการธุรกิจระดับโลกที่เชื่อถือได้ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่โตเกียว เราให้บริการช่วยลูกค้าในการเปลี่ยนแปลงผ่านการให้คำปรึกษา โซลูชันอุตสาหกรรรม บริการกระบวนการทางธุรกิจ การปรับปรุงไอทีให้ทันสมัย และบริการบริหารจัดการ โดย NTT DATA ช่วยให้ลูกค้าและสังคมสามารถก้าวไปสู่อนาคตแห่งดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ เรามุ่งมั่นในการช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในระยะยาวและวางแผนที่จะขยายบริการไปให้ถึงทั่วโลกมากกว่า 50 ประเทศ พร้อมดูแลใส่ใจลูกค้าในท้องถิ่น ติดตามเราได้ที่ https://www.nttdata.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52979658/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ผู้ติดต่อฝ่ายสื่อ:
Paul Smith
EOI Space
+1 650.200.3360
media@eoi.space

แหล่งข้อมูล: EOI Space

FPT Software เปิดสำนักงานใหม่ในประเทศไทย ตั้งเป้าเป็นบริษัทไอที 30 อันดับแรกของประเทศ

Logo

BANGKOK–(BUSINESS WIRE)–1 ธันวาคม 2022

เมื่อเร็วๆ นี้ FPT Software ผู้ให้บริการโซลูชันไอทีชั้นนำของเวียดนาม ได้ประกาศเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย สาขานี้มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทไอทีชั้นนำ 30 อันดับแรกในประเทศไทย โดยช่วยเหลือการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ของ FPT Software เพื่อขยายการดำเนินงานไปทั่วโลก

FPT Software’s representatives and distinguished guests at the Appreciation Dinner to celebrate the office opening on November 22 (Photo: Business Wire)

ตัวแทนของ FPT Software และแขกผู้มีเกียรติในงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดสำนักงานในวันที่ 22 พฤศจิกายน (ภาพ: Business Wire)

ฯพณฯ Phan Chi Thanh เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย, วรนุช เดชะไกศยะ ประธาน KBTG, จรุง เกียรติสุภาพงศ์ รองประธาน KBTG, CHRO Nguyen Tuan Minh ของ FPT Software, Nguyen Hoang Trung รองประธานของ FPT Software, FPT Greater Bay Indochina (FPT GBI – บริษัทในเครือของ FPT Software ) CEO Levi Nguyen และแขกผู้มีเกียรติท่านอื่น ๆ ได้เข้าร่วมพิธีเปิด

ในงาน ฯพณฯ Phan Chi Thanh เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างไทยและเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เอกอัครราชทูตยังเชื่อว่าด้วยความสามารถด้านไอทีของ FPT Software บริษัทสามารถมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความสัมพันธ์นี้และเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้

โดยมีการคาดว่าสาขากรุงเทพฯ จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในประเทศไทยได้ Levi Nguyen CEO ของ FPT GBI กล่าวว่า "เราตั้งเป้าที่จะขยายกำลังแรงงานในท้องถิ่นของเราให้เป็นวิศวกรไอทีคุณภาพสูง 500 คนในอีก 3 ปีข้างหน้า และร่วมงานกับบริษัทไทยจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงการค้าปลีก, BFSI, การผลิต และอื่น ๆ อีกมากมาย"

ตามที่ CEO ของ FPT GBI กล่าวว่า สำนักงานใหม่จะช่วยให้ FPT Software ทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรชั้นนำในประเทศไทยในโครงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล “ปรัชญาของบริษัทของเราคือการอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้า ดังนั้นสำนักงานนี้จะช่วยให้เราสามารถให้บริการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” กล่าวโดย Levi

CEO ของ FPT GBI กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่แข็งแกร่งและทรัพยากรของบริษัทในแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Make ของธนาคารกสิกรไทย Alive & Vitality ของ AIA ตลอดจนเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Cloud, Data, Artificial Intelligence และ Cyber ​​Security”

วรนุช เดชะไกศยะ ประธาน KBTG กล่าวในงานว่า “ดิฉันเคยไปเยี่ยมชมวิทยาเขตของ FPT Software ในเวียดนามมาก่อน และไม่เห็นความแตกต่างจาก Silicon Valley ในสหรัฐอเมริกามากนัก ดิฉันดีใจที่ได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทไอทีชั้นนำอย่าง FPT Software พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คนที่อุทิศตัวเพื่อสนับสนุนแพลตฟอร์มดิจิทัลและระบบหลักของเรา และเราวางแผนที่จะเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2023"

เวียดนามและไทยกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยรัฐบาลทั้งสองได้แนะนำกรอบการทำงานและโครงการต่าง ๆ ในการปลดล็อกศักยภาพการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในภาคส่วนไอซีที ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศจะคิดเป็น 20% ถึง 30% ของ GDP ภายในปี 20301 ในฐานะบริษัทไอทีชั้นนำของเวียดนาม FPT Software มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือระยะยาวในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลระหว่างเวียดนามและไทย

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา FPT Software ดำรงอยู่อย่างแข็งแกร่งใน 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย และจีน (รวมถึงฮ่องกง) ทำให้สามารถให้บริการด้านไอทีแบบครบวงจรแก่ธุรกิจทุกภาคส่วน บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 50 อันดับแรกของผู้ให้บริการการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลระดับโลกภายในปี 2030

สำนักงานใหม่ของ FPT Software ตั้งอยู่ที่อาคารธนภูมิ ชั้น 10 โซน C ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

เกี่ยวกับ FPT Software

FPT Software เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและไอทีระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม โดยมีรายได้มากกว่า 632.5 ล้านดอลลาร์และพนักงาน 25,500 คนใน 28 ประเทศ ในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บริษัทได้ให้บริการระดับโลกในโรงงานอัจฉริยะ แพลตฟอร์มดิจิทัล RPA, AI, IoT, คลาวด์, AR/VR, BPO และอื่น ๆ ซึ่งให้บริการลูกค้ามากกว่า 1,000 รายทั่วโลก โดยหลายร้อยรายเป็นบริษัทที่ติดอันดับ Fortune Global 500 ในด้านยานยนต์ การธนาคารและการเงิน โลจิสติกส์และการขนส่ง สาธารณูปโภค และอื่น ๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมที่ http://www.fpt-software.com

_________________________
1 เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมีแนวโน้มคิดเป็น 30% ของ GDP ภายในปี 2030: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(https://www.nationthailand.com/blogs/in-focus/40008944)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
Mai Duong (Ms.)
FPT Software
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
อีเมล: MCP.PR@fsoft.com.vn
เว็บไซต์: https://www.fpt-software.com/newsroom/

แหล่งที่มา: FPT Software

Eco Expo Asia 2022 กลับมาอีกครั้งในเดือนธันวาคมด้วยธีม “นวัตกรรมเพื่อความเป็นกลางของระดับคาร์บอน”

Logo

แนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อฮ่องกงยุติการกักบริเวณในโรงแรม

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–28 พฤศจิกายน 2022

งาน Eco Expo Asia 2022 ซึ่งจัดร่วมกันโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงและ Messe Frankfurt (HK) Ltd และร่วมจัดโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาภาครัฐของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 17 ธันวาคม ที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง งานแสดงสินค้าจัดขึ้นภายใต้รูปแบบไฮบริด EXHIBITION+ รูปแบบใหม่ล่าสุด โดยนอกจากจะให้ผู้แสดงสินค้าและผู้ซื้อติดต่อกันแบบเจอตัวกันจริงๆ แล้ว ก็ยังมีช่องทางให้พูดคุยกันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ “Click2Match” อีกด้วย โดยงานนี้จะจัดถึงวันที่ 24 ธันวาคม โดยเปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ พบกับ “หนทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ในเชิงรุก

Eco Expo Asia 2022 returns in December (Photo: Business Wire)

Eco Expo Asia 2022 กลับมาอีกครั้งในเดือนธันวาคมนี้ (ภาพ: Business Wire)

ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน รัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงจะขอยุติการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยนโยบายใหม่ “0+3” ผู้เดินทางเข้าประเทศไม่ต้องทดสอบ PCR ก่อนบินและไม่ต้องกักตัวในโรงแรมที่กำหนดอีกต่อไป ผู้เดินทางเข้าประเทศที่มีรหัสสีเหลืองในช่วงสามวันของการเฝ้าระวังทางการแพทย์จะได้รับอนุญาตให้เข้างานแสดงที่เกี่ยวข้องทางธุรกิจได้

ธีมของ Eco Expo Asia 2022 คือ “นวัตกรรมสะอาดเพื่อความเป็นกลางของระดับคาร์บอน” โดยมุ่งเน้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สามารถช่วยลดคาร์บอนในโลก ในฐานะงานสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม งานแสดงสินค้าในปีนี้จะประกอบด้วยผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 200 รายจากเก้าประเทศและภูมิภาคโดยแบ่งออกเป็นเก้าโซนพิเศษ ซึ่งมีตั้งแต่หมวดการขนส่งจนถึงการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอีกมากมาย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้เกิดการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมต่างๆ โดยที่รักษาความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โซนพิเศษสำหรับสามประเทศและภูมิภาคจะกลับมาอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งประกอบด้วยแคนาคา ฮ่องกง และญี่ปุ่น โซนญี่ปุ่นจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาก โดยมีผู้แสดงสินค้าประมาณ 30 รายที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์ โซลูชันและเทคโนโลยีล่าสุดด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การอัปไซเคิลทรัพยากร รวมถึงการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและ ESG ซึ่งเป็นการนำเสนอนวัตกรรมของญี่ปุ่นที่ดีที่สุด

งานประชุม Eco Asia ปีนี้เป็นงานที่พลาดไม่ได้ เพราะในงานจะมีวิทยากรรุ่นใหญ่มาแบ่งปันมุมมองในหัวข้อต่างๆ เช่น รูปแบบธุรกิจหมุนเวียน” “เศรษฐกิจไฮโดรเจน” “การดัดแปลงให้อาคารใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพและการเงินที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

งานนี้จะเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมในวันสุดท้ายเพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปด้านสิ่งแวดล้อม ตลาดสีเขียว และงานสัมมนาต่างๆ ได้

นักธุรกิจ: ลงทะเบียนเลยตอนนี้เพื่อรับบัตรฟรี https://bit.ly/3OKv9Wo

คนทั่วไป: ลงทะเบียนเลยตอนนี้เพื่อสัมผัสชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม https://bit.ly/3FacHDn

เว็บไซต์ : www.ecoexpoasia.com

ดูเวอร์ชันของแหล่งข้อมูลใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221128005301/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

โปรดติดต่อฝ่ายจัดนิทรรศการของ HKTDC:
Jojo Li
โทร: (852) 22404136
อีเมล: jojo.ty.li@hktdc.org

แหล่งข้อมูล: Hong Kong Trade Development Council

การประเมิน IRAP ของออสเตรเลียยอมรับว่า Boomi มอบการควบคุมความปลอดภัยที่ครอบคลุม

Logo

  • Boomi เสร็จสิ้นการประเมินอิสระสำหรับการควบคุมความปลอดภัยบนคลาวด์ภายใต้กรอบ IRAP ของรัฐบาลออสเตรเลีย

เชสเตอร์บรูค เพนซิลเวเนีย–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2022

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ประกาศในวันนี้ว่า Boomi AtomSphere™ Platform ได้รับการประเมินอิสระสำหรับการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์เทียบกับการควบคุมที่ได้รับการป้องกันโดยคู่มือความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (ISM) ของรัฐบาลออสเตรเลีย

Australia’s IRAP Assessment Recognizes Boomi to Provide Comprehensive Security Controls (Graphic: Business Wire)

การประเมิน IRAP ของออสเตรเลียยอมรับว่า Boomi มอบการควบคุมความปลอดภัยที่ครอบคลุม (กราฟิก: Business Wire)

การประเมินนี้ดำเนินการภายใน Australian Signals Directorate (ASD) Information Security Registered Assessors Program (IRAP) ซึ่งเป็นกรอบการทำงานทั่วไปที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรัฐบาลออสเตรเลียในการประเมินท่าทางความปลอดภัยของผู้ขาย ที่เป็นการสานต่อ โมเมนตัมของ Boomi ในตลาดภาครัฐ

“การเร่งการประสานงานของภาครัฐของออสเตรเลียให้ความสำคัญกับการจัดลำดับความสำคัญของการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจและการกำหนดข้อมูลให้เป็นทรัพย์สินของชาติที่ใช้ร่วมกัน” กล่าวโดย Nathan Gower ผู้อำนวยการ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ของ Boomi “การมีมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับการปกป้องข้อมูล และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีอยู่ทั่วหน่วยงานและเขตอำนาจศาลนั้นมีความสำคัญในโลกของคลาวด์ในปัจจุบัน และการผ่านการประเมิน IRAP ของเราถือเป็นการยืนยันว่าเทคโนโลยีของเราพร้อมใช้งานสำหรับภาครัฐของออสเตรเลียและสามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัยในระดับที่ได้รับการปกป้องภายในสภาพแวดล้อมคลาวด์ของพวกเขา”

การประเมินที่ระดับ PROTECTED ถือว่า Boomi มอบการควบคุมความปลอดภัยที่ครอบคลุมในการออกแบบระบบและประสิทธิภาพการดำเนินงานทั่วทั้งแพลตฟอร์มบูรณาการแบบใช้โค้ดน้อยในฐานะบริการ (iPaaS) ซึ่งรวมถึง Master Data Hub, การจัดการ B2B/EDI, การจัดการ API และการจัดการกระแสงาน

มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Boomi ในการจัดเก็บ ประมวลผล และสื่อสารข้อมูลช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถซื้อแพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere ได้โดยไม่ต้องทำการประเมินด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังสนับสนุนการขยายงานเชิงพาณิชย์กับองค์กรหลายแห่งในออสเตรเลียที่ยอมรับ IRAP เป็นมาตรฐานสูงสุดสำหรับการประเมินความปลอดภัยของระบบคลาวด์

Boomi ฉลองรางวัลมากมายสำหรับความเป็นเลิศด้านผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรม รวมถึงรางวัล  Gold Globee® Award ในประเภท Platform as a Service (PaaS), รางวัล Stevie® ระดับนานาชาติสองรางวัลสำหรับบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ โดยเป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของนิตยสาร Inc. และรางวัล Comparably สองรางวัลสำหรับสุดยอด CEO สำหรับความหลากหลายและบริษัทที่ดีที่สุดสำหรับการเติบโตในสายอาชีพ

Boomi ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดและมีนวัตกรรมมากที่สุดในอเมริกาในรายชื่อ Deloitte Technology Fast 500™ และ Inc. 5000 ล่าสุด Boomi ได้สร้างสถิติอุตสาหกรรมสำหรับฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มบูรณาการ เพิ่มผู้นำระดับโลก และขยายขอบเขตไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

Boomi ได้รับตำแหน่งผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant™ สำหรับการบริการแพลตฟอร์มระดับองค์กร (EiPaaS) เป็นเวลาแปดปีติดต่อกัน

ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านการบริการซอฟต์แวร์ (SaaS) ระดับโลก Boomi นำเสนอชุมชนผู้ใช้ที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 ราย และเป็นหนึ่งในอาร์เรย์ของผู้รวมระบบระดับโลก (GSI) ที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่แพลตฟอร์มรวมการบริการ (iPaaS) บริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Deloitte, SAP และ Snowflake และเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการคลาวด์ไฮเปอร์สเกลเลอร์รายใหญ่ที่สุด ซึ่งรวมถึง Amazon Web Services, Google และ Microsoft เป็นต้น

แพลตฟอร์มแบบเนทีฟคลาวด์ที่ใช้ low-code ของ Boomi ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในทุกอุตสาหกรรมเชื่อมต่อแอปพลิเคชันข้อมูล ปรับปรุงกระแสงาน และมอบประสบการณ์ลูกค้าที่บูรณาการมากขึ้น

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อจำกัดความรับผิดชอบของ Gartner:

Gartner, Magic Quadrant for Enterprise Integration Platform as a Service, Eric Thoo, Keith Guttridge, Bindi Bhullar, Shameen Pillai, Abhishek Singh, 29 กันยายน 2021.

Gartner ไม่รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ที่ปรากฎในเอกสารเผยแพร่งานวิจัยของบริษัท และไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้จำหน่ายที่มีคะแนนสูงสุดหรือตำแหน่งอื่น ๆ เอกสารเผยแพร่งานวิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรได้รับการตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ปฏิเสธการรับประกันทั้งหมด ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันใด ๆ ของความสามารถในการขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ GARTNER และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และนำมาใช้ในที่นี้โดยได้รับอนุญาต ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ไปใช้ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ก่อนได้รับอนุญาต หมายเหตุ: Boomi เป็นที่รู้จักในนาม Dell Boomi ตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2019

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นด้วยการเชื่อมต่อทุกคนเข้ากับทุกสิ่งและทุกที่ Boomi เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มรวมการบริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เชิงบริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก Boomi นำเสนอฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มการผสานรวมและเครือข่ายทั่วโลกของพันธมิตรกว่า 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา บริหาร และจัดการข้อมูล ขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ http://www.boomi.com

© 2022 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ 'B', Boomiverse และ AtomSphere เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ไปใช้ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ก่อนได้รับอนุญาต ชื่อหรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20221128005027/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

สื่อ:

Jasmine Ee

หัวหน้าฝ่ายสื่อและนักวิเคราะห์สัมพันธ์ใน APJ ที่ Boomi
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งที่มา: Boomi

Toshiba เป็นผู้ชนะรางวัล World Electronics Achievement Awards ของ AspenCore

Logo

KAWASAKI, Japan–(BUSINESS WIRE)–24 พฤศจิกายน 2022

Toshiba Devices & Storage (Shanghai) Co., Ltd. บริษัทสาขาในเซี่ยงไฮ้ของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) เป็นผู้ชนะเลิศประเภท “Power Semiconductor/Driver of the Year” ในงาน World Electronics Achievement Awards (WEAA) 2022 โดย Toshiba Devices & Storage (Shanghai) Co., Ltd. ได้เข้ารับรางวัลในพิธีซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2022

Toshiba is a Winner at AspenCore World Electronics Achievement Awards (Photo: Business Wire)

Toshiba เป็นผู้ชนะรางวัล World Electronics Achievement Awards ของ AspenCore (ภาพ: Business Wire)

AspenCore ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในกลุ่มสื่อเทคโนโลยีชั้นนำของโลก และทุก ๆ ปี WEAA ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจะมีการยกย่องบริษัทและบุคคลที่มีส่วนร่วมอย่างโดดเด่นในด้านนวัตกรรมและการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในปีนี้ XPQR3004PB MOSFET ของ Toshiba ซึ่งเป็นทรานซิสเตอร์สนามไฟฟ้าของสารกึ่งตัวนำโลหะออกไซด์แรงดันต่ำเชิงกลยุทธ์ ได้รับรางวัล "Power Semiconductor/Driver of the Year"

Tsutomu Nomura ประธานบริษัท Toshiba Devices & Storage (Shanghai) Co., Ltd. กล่าวว่า "เรามีความยินดีที่ได้รับการยกย่องจาก WEAA อันทรงเกียรติ โดยเป็นปีที่ห้าติดต่อกันที่ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับรางวัล Toshiba มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการจัดหาอุตสาหกรรมยานยนต์และภาคส่วนอื่น ๆ ด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลังที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์และเพิ่มความเป็นกลางทางคาร์บอน”

XPQR3004PB ที่เปิดตัวในปีงบประมาณนี้ เป็น MOSFET แรงดันต่ำ 40V ที่มี N-channel สำหรับการใช้งานในยานยนต์ เหมาะสำหรับสวิตช์แบตเตอรี่ในรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมอเตอร์ช่วยขับขี่ในรถยนต์ไฮบริด ทั้งยังเป็นแม่พิมพ์ UMOS IX ที่ก้าวหน้าที่สุดของ Toshiba และรวมอยู่ในแพ็คเกจ L-TOGL™ ซึ่ง AspenCore รับรองว่า มีกระแสไฟฟ้าสูง ความสามารถในการกระจายความร้อนสูง และความน่าเชื่อถือสูง

จากนี้ Toshiba จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจสารกึ่งตัวนำกำลัง (power semiconductor) ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการประหยัดพลังงานสูง และนำไปสู่สังคมที่ใช้พลังงานต่ำและความเป็นกลางทางคาร์บอน

* TOGL™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขั้นสูง ระดมประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอเซมิคอนดักเตอร์แบบแยก ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัทจำนวน 23,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าร่วมกันและการเปิดตลาดใหม่ ปัจจุบัน Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ที่มียอดขายต่อปีทะลุ 8.5 แสนล้านเยน (7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมเพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกหนทุกแห่ง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52977612/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Customer Inquiries:
ติดต่อเรา

รายชื่อติดต่อหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านสื่อ:
K.Tanaka, S.Mihashi
กลุ่มงานสื่อสารองค์กรและข่าวกรองการตลาด
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-44-548-2122
อีเมล: tdsc-publicrelations@ml.toshiba.co.jp

แหล่งที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

พนักงานมีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกฉลองวันผู้ปกครอง

Logo

ฮานอย เวียดนาม–(BUSINESS WIRE)–21 พฤศจิกายน 2022

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังปลดพนักงานด้านเทคโนโลยี FPT Software ซึ่งเป็นธุรกิจไอทีชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ต้อนรับผู้ปกครองของพนักงานหลายพันคนมาที่สำนักงานเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจและมุ่งมั่นที่จะมอบสภาพการทำงานที่ดีที่สุดให้กับพนักงาน

Thousands of employees’ parents are welcomed at FPT Software’s offices across the country (Photo: Business Wire)

ผู้ปกครองของพนักงานหลายพันคนได้รับการต้อนรับที่สำนักงานของ FPT Software ทั่วประเทศ (ภาพ: Business Wire)

ตั้งแต่ปี 2006 วันที่ 19 พฤศจิกายนได้กลายเป็นวันผู้ปกครองสำหรับ FPT Software เพื่อแสดงความขอบคุณต่อผู้ปกครองของพนักงาน โดยจัดขึ้น 1 วันก่อนวันครูของเวียดนามโดยมีความคิดที่ว่าผู้ปกครองควรได้รับเกียรติก่อน ซึ่งบ่งบอกถึงวัฒนธรรมประจำชาติ

งานปีนี้ใช้ธีม “พาผู้ปกครองไปทำงาน” และจัดขึ้นในสี่เมืองใหญ่ โดยมีผู้ปกครองหลายพันคนมาเยี่ยมบริษัท FPT Software ถึงที่ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีแห่งแรกในเวียดนามที่ริเริ่มแนวคิดนี้ร่วมกับ Google หรือ LinkedIn

ผู้ปกครองของพนักงานจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ทำงานของลูก ๆ หลาน ๆ จากจุดนั้นก็จะได้สัมผัสกับงานทำงานตลอดวัน ตั้งแต่การประชุมบริษัทไปจนถึงพื้นที่รับประทานอาหารกลางวันของบริษัท สิ่งนี้ทำให้ผู้ปกครองมีโอกาสได้เห็นกับตาตัวเองว่าลูก ๆ หลาน ๆ ทำอะไรกันบ้างเมื่อมาทำงาน ซึ่งช่วยให้ครอบครัวคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น

วันผู้ปกครองเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของปี ไม่เพียงแต่พนักงานของ FPT Software เท่านั้น แต่ผู้ปกครองก็ด้วย พนักงานชาวเวียดนามหลายพันคนที่ทำงานในสาขาต่าง ๆ ทั่วโลก แม้จะไม่สามารถกลับบ้านได้ แต่ก็ได้เชิญผู้ปกครองให้มาร่วมงาน

ในเช้าวันที่อากาศแจ่มใส ทุก ๆ พื้นที่ทำงานของ FPT Software มีผู้ปกครองที่ภาคภูมิใจมากมายนับไม่ถ้วนแวะเวียนกันมา พร้อมเสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน และความสุข น้ำตาหลั่งไหลและรับฟังถ้อยคำกันอย่างจริงใจ

Ms. Chu Thi Thanh Ha ประธานบริษัท FPT Software กล่าวในงานว่า "ความสำเร็จของ FPT Software ไม่อาจเกิดขึ้นได้หากปราศจากความทุ่มเทของพนักงานทุกคนและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากผู้ปกครอง" และสนับสนุนให้พนักงานบริษัทใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น “สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีอะไรยาใจได้ดีไปกว่าการได้รับข้อความหรือได้รับโทรศัพท์จากลูก ๆ ทุกวัน”

FPT Software มุ่งมั่นที่จะจัดหาสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีที่สุดให้กับพนักงาน โดยบริษัทกำลังสร้างระบบแคมปัสตามมาตรฐานของบริษัทไอทีชั้นนำอย่าง Google หรือ Facebook นอกจากนี้ พนักงานและครอบครัวยังได้รับการสนับสนุนด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยและรถยนต์ การดูแลสุขภาพ และการศึกษาจาก FPT Group ด้วย

ความทุ่มเทนี้ทำให้ FPT Software ได้รับรางวัลจาก Great Place to Work® ในฐานะหนึ่งใน "สถานที่ทำงานที่ดีที่สุดในเอเชีย" บริษัทไอทีแห่งนี้ได้รับการยอมรับในด้านวัฒนธรรมองค์กรเชิงบวก โดยพิจารณาจากการดูแลและการสนับสนุนบุคลากรของบริษัทอย่างแท้จริง ตั้งแต่ความปลอดภัยทางร่างกายไปจนถึงสุขภาพจิตและอารมณ์ที่ดี

เนื่องในโอกาสวันผู้ปกครองนี้ บริษัทขอยืนยันคำมั่นสัญญาที่มีต่อพนักงาน และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองว่าลูก ๆ หลาน ๆ จะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพนักงานจะใช้โอกาสนี้เพื่อขอบคุณคนที่อยู่เคียงข้างมาโดยตลอด

สิบหกปีนับตั้งแต่ที่มีการจัดวันผู้ปกครอง กิจกรรมนี้ก็ยิ่งใหญ่ขึ้นตามการเติบโตของบริษัท โดยเผยแพร่ข้อความแห่งความรักของ FPT Software ให้ผู้คนได้สัมผัสกันมากขึ้น บริษัทมีความมุ่งมั่นในระยะยาวที่จะทำให้พนักงานเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ และรักษาสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัทไอทีชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป

FPT Software เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและไอทีระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม โดยมีรายได้มากกว่า 632.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และพนักงาน 25,500 คนใน 28 ประเทศ ในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บริษัทนี้ให้บริการระดับสากลแก่ลูกค้ามากกว่า 1,000 รายทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของ FPT Software มีอยู่ทั่วโลก ในธุรกิจระดับแนวหน้าของทุกพื้นที่ เช่น อีคอมเมิร์ซ ยานยนต์ การบิน หรือบริการด้านสุขภาพ เป็นต้น

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52973966/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Media contact
Mai Duong (Ms.)
FPT Software
PR Manager
อีเมล: MCP.PR@fsoft.com.vn

Dzung Duong (Ms.)
Corporate Branding Manager
อีเมล: DungDTH1@fsoft.com.vn

เว็บไซต์: https://www.fpt-software.com/newsroom/

แหล่งที่มา: FPT Software

บริษัท Wipro ประกาศตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (APMEA) ในเมืองดูไบ

Logo

เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบังกาลอร์ อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–18 พฤศจิกายน 2022

บริษัท Wipro Limited (NYSE: WIT, BSE: 507685, NSE: WIPRO) เป็นบริษัทชั้นนำผู้ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี ได้ประกาศเปิดสำนักงานใหญ่ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (APMEA) ในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Sheikh Hamdan bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum มกุฎราชกุมารแห่งเมืองดูไบและประธานสภาบริหารเมืองดูไบ และ Sheikh Maktoum bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum รองเจ้าผู้ครองนครดูไบ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่คนสำคัญของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เข้าเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ที่เพิ่งเปิดใหม่ในวันเปิดทำการวันแรก

เจ้าชาย Sheikh Hamdan bin Mohammed กล่าวว่า  “การก่อตั้งหน่วยงานแห่งใหม่ของ Wipro ในเมืองดูไบนี้ สะท้อนให้เห็นถึงสถานะการเติบโตของเอมิเรตในฐานะที่เป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของโลก วิสัยทัศน์ของการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมของ Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum ผู้ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองนครดูไบ ทำให้เมืองดูไบกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนจากผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลก ในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนอนาคตของเศรษฐกิจโลก เมืองดูไบได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศแบบพลวัตรสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมกับกรอบการกำกับดูแลที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนวัตกรรม ผู้ประกอบการ และการขยายธุรกิจ เมืองนี้ยังเป็นฐานที่ตั้งในอุดมคติสำหรับการเข้าถึงผู้มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งดึงดูดให้เมืองดูไบได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากโอกาสในการเติบโตมากมายและมาตรฐานการครองชีพที่สูง ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เมืองดูไบได้ร่วมเป็นพยานในความสำเร็จด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่สำคัญหลายอย่าง ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเมืองในฐานะจุดศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการเติบโตและองค์กรในภาคส่วนนี้”

สำนักงานใหญ่ที่เพิ่งเปิดใหม่ซึ่งตั้งอยู่ ณ ใจกลางของสถานประกอบการธุรกิจอันพลุกพล่านของ One Central ที่ Dubai World Trade Centre จะเป็นผู้นำในการขยายตัวและการลงทุนของ Wipro ทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และ APMEA โดยจะช่วยจัดการธุรกิจ เทคโนโลยี และวาระการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าในภาคส่วนสำคัญ เช่น บริการทางการเงิน การค้าปลีก โทรคมนาคม พลังงานและสาธารณูปโภค รวมไปถึงภาครัฐด้วย Wipro เริ่มดำเนินกิจการดังกล่าวในตะวันออกกลาง ณ ปี 2001 และปัจจุบันได้แพร่กระจายไปในหลายประเทศในแต่ละภูมิภาค หน่วยการตลาดเชิงกลยุทธ์ของ APMEA สร้างรายได้ประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ให้กับ Wipro และมีพนักงานมากกว่า 30,000 คน

Rishad Premji ประธานกรรมการบริหารบริษัท Wipro Limited กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้เปิดตัวสำนักงานใหญ่ APMEA ของเราในเมืองดูไบ ซึ่งถือเป็นการเปิดบทใหม่สำหรับ Wipro ในตลาดที่ขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วและเน้นการใช้เทคโนโลยีเป็นอันดับแรก เมืองดูไบเป็นประตูสู่โลก และมีรัฐบาลที่ก้าวหน้า พนักงานที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และนโยบายที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ ทำให้เมืองดูไบเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับเราในขณะที่เราขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาค APMEA”

ความร่วมมือในระบบนิเวศเป็นหนึ่งในแกนหลักของกลยุทธ์ทางธุรกิจของ Wipro สำนักงานใหญ่ APMEA จะมีพื้นที่สำหรับนวัตกรรมร่วม ซึ่งพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ อันได้แก่ AWS, Microsoft, HPE, Informatica, Palo Alto Networks, SAS และ Snowflake จะร่วมมือกับ Wipro เพื่อสร้างโซลูชันร่วมกันที่จะตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของภาคส่วนและเทคโนโลยีที่สำคัญ

ที่นี่จะเป็นที่รวมพลังของกลุ่ม Wipro สำนักงานใหญ่แห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของทีมงานที่เชี่ยวชาญในท้องถิ่นจาก Capco ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและการจัดการระดับโลกที่มุ่งเน้นบริการทางการเงิน และจาก Designit ซึ่งเป็นบริษัทด้านการออกแบบเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม เป็นการนำเสนอความสามารถที่แตกต่างที่สุดของ Wipro ในพื้นที่ นอกจากนี้ Wipro ยังได้เปิดตัว Lab45 ในภูมิภาค ซึ่งเป็นพื้นที่นวัตกรรมอันมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโซลูชันที่ล้ำสมัยเพื่อส่งเสริมและเร่งสร้างไอเดียให้กับลูกค้า

Thierry Delaporte ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการของ Wipro Limited กล่าวว่า "การก่อตั้งสำนักงานใหญ่ของเราที่นี่เปิดโอกาสในการเติบโตอย่างมากมาย และเป็นโอกาสในการทำงานร่วมกันทั่วทั้งภูมิภาค สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้าใจถึงคุณค่าเชิงกลยุทธ์ของเทคโนโลยี และพลังของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ดี Wipro เองก็ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์นั้น เราจะใช้ประโยชน์จากความสามารถระดับโลก ความเชี่ยวชาญในท้องถิ่น ตลอดจนระบบนิเวศของพันธมิตรระดับโลกเพื่อร่วมกันสร้างโซลูชันสำหรับลูกค้าในภูมิภาคนี้”

Anis Chenchah ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Wipro Limited ประจำ APMEA กล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีที่มี Wipro เป็นบริษัทระดับโลกแห่งแรกในอุตสาหกรรมของเราที่รวม 3 ทวีปอันกว้างใหญ่อย่างแอฟริกา เอเชีย และโอเชียเนียเอาไว้ภายใต้การนำที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดูไบ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของข้าพเจ้า การแลกเปลี่ยนทางธุรกิจระหว่างแอฟริกาและเอเชียนั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สร้างโอกาสยิ่งใหญ่ให้กับ Wipro ด้วยที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย และแนวคิดระดับโลก เมืองดูไบจึงเป็นสถานที่ในอุดมคติสำหรับการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในส่วนที่มีแนวโน้มที่ดีของโลกนี้”

เกี่ยวกับ Wipro Limited

Wipro Limited (NYSE: WIT, BSE: 507685, NSE: WIPRO) เป็นบริษัทชั้นนำผู้ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการสร้างโซลูชันนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอันซับซ้อนที่สุดของลูกค้า ดึงคุณประโยชน์จากความสามารถแบบองค์รวมของเราในการให้คำปรึกษา การออกแบบ วิศวกรรม และการดำเนินงาน เราช่วยให้ลูกค้าได้ตระหนักถึงความทะเยอทะยานที่กล้าหาญที่สุดของพวกเขา และสร้างธุรกิจที่พร้อมสำหรับอนาคตและมีความยั่งยืน ด้วยพนักงานและพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 250,000 คนใน 66 ประเทศ เราทำตามคำมั่นสัญญาในการช่วยเหลือลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และชุมชนของเราเพื่อให้สามารถเติบโตในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เยี่ยมชมเราได้ที่ www.wipro.com

บทความคาดการณ์ในอนาคต

บทความคาดการณ์ในอนาคตในที่นี้แสดงถึงความเชื่อของ Wipro เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้ และอยู่นอกเหนือการควบคุมของ Wipro ข้อความดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อความเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของ Wipro ผลการดำเนินงานทางการเงินในอนาคต แผน ความคาดหวัง และความตั้งใจ เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต Wipro จึงขอเตือนให้ผู้อ่านทราบว่าบทความคาดการณ์ในอนาคตนี้มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้ในข้อความดังกล่าว ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความผันผวนของรายรับ รายได้ และผลกำไรของเรา, ความสามารถของเราในการสร้างและจัดการการเติบโต, การดำเนินการขององค์กรที่เสนอโดยสมบูรณ์, การแข่งขันที่รุนแรงในบริการด้านไอที, ความสามารถของเราในการรักษาความได้เปรียบด้านต้นทุน, การเพิ่มอัตราค่าจ้างในอินเดีย, ความสามารถของเราในการดึงดูดและรักษาผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูง, เวลาและต้นทุนที่มากเกินไปสำหรับสัญญาราคาคงที่, กรอบเวลาคงที่, การกระจุกตัวของลูกค้า, ข้อจำกัดในการอพยพ, ความสามารถของเราในการจัดการการดำเนินงานระหว่างประเทศ, ความต้องการที่ลดลงสำหรับเทคโนโลยีในพื้นที่โฟกัสหลักของเรา, การหยุดชะงักของเครือข่ายโทรคมนาคม, ความสามารถของเราในการดำเนินการและบูรณาการการเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้นให้สำเร็จ, ความรับผิดต่อความเสียหายในสัญญาบริการของเรา, ความสำเร็จของบริษัทที่เราลงทุนเชิงกลยุทธ์, การถอนแรงจูงใจทางการคลัง, ความไม่แน่นอนทางการเมือง, สงคราม, ข้อจำกัดทางกฎหมายในการเพิ่มทุนหรือการซื้อบริษัทนอกอินเดีย, การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต และสภาวะเศรษฐกิจทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมของเรา

ความเสี่ยงเพิ่มเติมที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของเราได้อธิบายไว้อย่างครบถ้วนในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะรายงานประจำปีในแบบฟอร์ม 20-F เอกสารที่ยื่นเสนอเหล่านี้มีอยู่ที่ www.sec.gov ในบางกรณี เราอาจจัดทำแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่เป็นลายลักษณ์อักษรและปากเปล่าเพิ่มเติม รวมถึงข้อความที่อยู่ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และรายงานของเราต่อผู้ถือหุ้น เราไม่ดำเนินการอัปเดตบทความคาดการณ์ล่วงหน้าที่อาจจัดทำขึ้นเป็นครั้งคราวโดยเราหรือในนามของเรา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ติดต่อ Wipro Media:
Purnima Burman
purnima.burman@wipro.com

ติดต่อ H+K Strategies Media:
Mark Sutton & Ghinwa Al Ahmad
Mark-r.sutton@hkstrategies.com
Ghinwa.AlAhmad@hkstrategies.com

แหล่งที่มา: Wipro Limited

Tusk Innovation ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday

Logo

KUALA LUMPUR, Malaysia–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

Tusk Inc. Limited (www.tusklimited.com) บริษัทที่เริ่มต้นในปี 2012 ในฐานะบริษัทจัดการเงินทุนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก และปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำที่มุ่งเน้นการผลิตสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์การทำเหมือง พลังงานแสงอาทิตย์ และอะแดปเตอร์ กำลังประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday สายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับไฟฟ้า ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://tusklimited.com/products

This product is sold with a 7in 1 Solar Panel, so you don’t have to pay for the panel. (Photo: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์นี้ขายพร้อมแผงโซลาร์เซลล์ 7in 1 คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าแผง (ภาพ: Business Wire)

ในฐานะหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ Tusk ประกาศให้ส่วนลด 30% สำหรับนวัตกรรมของ Tusk ในวัน Black Friday สำหรับอุปกรณ์การทำเหมืองแบบคอมโบ ซึ่งรวมเอาแผงโซลาร์เซลล์เข้ากับเครื่องขุดบิตคอยน์ เพื่อให้การทำเหมืองเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญใดๆ เนื่องจากไฟฟ้าเป็นปัญหาหลักในอุตสาหกรรมการทำเหมือง

โดยการปรับล่าสุดจากวัสดุโพลีคริสตัลไลน์เป็นวัสดุเซลล์แสงอาทิตย์ นวัตกรรมของ Tusk มีการทดสอบประสิทธิภาพของการรวมผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์เข้ากับเครื่องขุดคริปโตเคอเรนซี และได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด นักลงทุนด้านนวัตกรรมของ Tusk สามารถทำเหมืองคอยน์ของตนได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีการหยุดชะงักแล้วในขณะนี้ ทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยลง และได้ผลกำไรสูงสุด

นี่เป็นความพยายามในการลดปริมาณไฟฟ้าที่ใช้เมื่อลูกค้าทำการขุดคริปโตเคอเรนซี และได้รับการเปิดเผยโดย John Walls ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของ Walls "รายงานต่างๆ แสดงให้เห็นว่าปริมาณไฟฟ้าที่คนงานเหมืองต้องการอาจมากเกินกว่าที่จะจัดการได้ ดังนั้น เราจึงได้ตัวเลือกที่สมเหตุสมผล"

กำไรจากการขุด

แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีและให้ผลกำไรสูงสำหรับใครหลายๆ คนในการสร้างฟาร์มเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ก็มีการคาดเดามากมายว่าพวกเขาอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการใช้ไฟฟ้า Tusk Inc ได้สร้างโซลูชันที่ใช้งานได้ยาวนานด้วยการมอบแผงโซลาร์เซลล์ที่ไม่สัมพันธ์กับค่าไฟฟ้าของคุณและอุปกรณ์การขุดบิตคอยน์ที่สามารถทำการขุดแบบคู่ได้ คุณสามารถขุดคอยน์ของคุณโดยไม่ต้องคอยกังวลกับความผันผวนของตลาด

Tusk Inc ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และสหราชอาณาจักร มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น โดยลูกค้าสามารถรับบริการพัฒนากระเป๋าเงินดิจิทัล (crypto wallet) รวมถึงหน่วยประมวลผลกราฟิกจากบริษัทที่มีสำนักงานอยู่ในสามทวีป นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาบล็อกเชน และโซลูชันการขุดบิตคอยน์ รวมถึงด้านอื่นๆ อีกมากมาย

เกี่ยวกับ Tusk

ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ และต่อมาทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีก็ได้เข้ามามีส่วนร่วม ปัจจุบัน Tusk Inc เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ พวกเขาภูมิใจในความสามารถในการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในธุรกิจการบริหารความเสี่ยงมานานกว่าทศวรรษ และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหลายประการ พวกเขาได้รวมกิจการที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าไว้ในระบบการจัดการความเสี่ยง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการขุดคริปโตเคอเรนซี โดยใช้วัสดุเซลล์แสงอาทิตย์

ข้อมูลติดต่อ

John Walls
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
john@tusklimited.com
(+60)1117000943

แหล่งที่มา: Tusk Inc. Limited

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Midea VRF เข้าสู่ระดับโลก เปิดตัวรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง

Logo

JAKARTA, Indonesia–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

การประชุมสุดยอด G20 ที่บาหลีนำเสนอผลการก่อสร้างล่าสุดของรถไฟความเร็วสูง (HSR) สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงสายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยระยะทางยาวทั้งหมด 142 กิโลเมตร และความเร็วสูงสุดตามการออกแบบอยู่ที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้อินโดนีเซียเข้าสู่ "ยุครถไฟความเร็วสูง " Midea นำเสนอโซลูชัน HVAC ระดับมืออาชีพ และการบริการที่เข้าถึงผู้ใช้มากที่สุด พร้อมนำเสนอ "Midea Coolness" สำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ด้วย 126 ODU และ 705 IDU จาก Midea VC Pro

Midea VC Pro VRFs have been used in Jakarta-Bandung High-Speed Railway (HSR), Dubai Expo and many other overseas projects. (Graphic: Business Wire)

มีการนำ Midea VC Pro VRFs มาใช้ในโครงการรถไฟความเร็วสูง (HSR) จาการ์ตา-บันดุงในงาน Dubai Expo และโครงการในต่างประเทศอีกหลายโครงการ (กราฟิก: Business Wire)

โครงการ HVAC เป็นการสนับสนุนอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง โดยรถไฟจากจาการ์ตา-บันดุงตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบป่าฝนเขตร้อนของหมู่เกาะชวา และได้รับอิทธิพลจากภูมิอากาศแถบเส้นศูนย์สูตร ผู้ปฏิบัติงานของ HSR จึงต้องการระบบเครื่องปรับอากาศส่วนกลางที่เชื่อถือได้และมีความเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถปรับให้เข้ากับอุณหภูมิที่สูงและสภาพการทำงานที่มีความชื้นสูงโดยไม่มีการหยุดทำงาน และสามารถคงระดับอุณหภูมิของพื้นที่อาคาร HSR ให้คงที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในฐานะที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม HVAC ระดับโลก Midea Building Technologies นำเสนอโซลูชันระบบเครื่องปรับอากาศมืออาชีพสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบระบายความร้อนด้วยชิปของเหลวแบบหลายตัว โดยสามารถช่วยระบายความร้อนของชิ้นส่วนควบคุมระบบไฟฟ้าให้เย็นลงได้ทันเวลา และสามารถลดอุณหภูมิของชิ้นส่วนควบคุมระบบไฟฟ้าได้ประมาณ 8 องศา ซึ่งสามารถรักษาความเย็นในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงได้เป็นอย่างดี ในกรณีของความทนทานต่อการกัดกร่อน ODU ของ VC Pro VRFs ยังคงสามารถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนของเกลืออย่างรุนแรงได้ โดยผ่านการจำลองการทดสอบเชิงทดลอง

นอกจากประสบกับปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ก่อสร้างขนาดใหญ่และการเข้าออกของประชากรจำนวนมากในสถานี HSR ไซต์ 4 ที่ Midea MBT ชนะการประมูลแล้ว ยังมีอาคารอยู่หกประเภท เช่น อาคารสถานี อาคารอพาร์ทเมนท์ เป็นต้น เป็นไซต์ที่มีความซับซ้อนมากที่สุดสำหรับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง นอกเหนือจากนั้น ที่ประเทศอินโดนีเซีย การจัดหาวัสดุการติดตั้งสำหรับโครงการก็มีข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้าน จึงต้องมีการประเมินทุกปัจจัยในกระบวนการคัดเลือก แผนการออกแบบเครื่องปรับอากาศยังมีการปรับปรุงครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุด ระบบที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ปรับจนเหมาะสมสำหรับโครงการติดตั้ง HVAC ก็บรรลุผลสำเร็จโดยมีการผสมผสานระหว่างดีไซน์หลากหลายรูปแบบและโครงร่างแบบผสมผสาน

ยังมีการใช้งาน Midea VC Pro VRFs ใน Dubai Expo และโครงการในต่างประเทศอีกหลายโครงการด้วยเช่นกัน ในปัจจุบัน Midea Building Technologies ได้ปรับเครือข่ายการขายและบริการในตลาดต่างประเทศ โดยมีการสร้างโครงร่างที่ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยีหลักและผลิตภัณฑ์ดั้งเดิม ไปจนถึงโซลูชันที่แตกต่างกันไปตามการปรับแต่งให้เหมาะสม

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52969740/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Lori Luo
+86 13512784739
luory17@midea.com

แหล่งที่มา: Midea

upGrad เซ็นสัญญาขยายพื้นที่ 335,000 ตารางฟุตใน 4 เมือง

Logo

~เพื่อจ้างสมาชิกในทีม 1,400 คนภายในเดือนมีนาคม ปี 2023~

MUMBAI, India–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022

upGrad ผู้เล่นด้าน Edtech ระดับอุดมศึกษารายใหญ่ที่สุดในเอเชียยังคงเดินหน้าแผนการเติบโตและการขยายตัวเพื่อส่งผลต่อผู้เรียนในอินเดียและทั่วโลก รวมถึงทำให้พวกเขาพร้อมรับงาน จนถึงปัจจุบัน 'One upGrad' ได้ส่งผลต่อผู้เรียน 8.2 ล้านคนในทักษะด้านอารมณ์ การเตรียมตัวสอบ โปรแกรมที่เชื่อมโยงกับวิทยาลัย โปรแกรมที่เชื่อมโยงกับข้อมูลรับรอง ตำแหน่งงาน การเปลี่ยนงาน และการพัฒนาอาชีพ

ด้วยเส้นทางการเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่อง upGrad ได้ลงนามในสัญญาเช่าใหม่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสำหรับพื้นที่ 335,000 ตารางฟุตเพื่อใช้สำหรับพื้นที่สำนักงาน วิทยาเขตแบบออฟไลน์ ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้เรียน สตูดิโอ และห้องฝึกอบรมสำหรับรายชื่ออาจารย์และคณาจารย์ที่เพิ่มขึ้น บริษัทได้เสนอจ้างสมาชิกในทีมกว่า 1,400 คนระหว่างเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ถึงมีนาคม ปี 2023 ทั่วอินเดียและสำนักงานทั่วโลก

upGrad ปิดพื้นที่ 200,000 ตารางฟุตในมุมไบสำหรับโครงการที่พักสำหรับผู้เรียน ที่ซึ่งนักศึกษายังได้ผันตัวเป็นสถาปนิกเพื่อออกแบบที่พักของพวกเขา พื้นที่ 20,000 ตารางฟุตในเบงกาลูรูสำหรับการขยาย KnowledgeHut ไปสู่ ​​Bootcamps และอีกมากมาย พื้นที่ 25,000 ตารางฟุตในปูเน่สำหรับการขยายที่ Talentedge พื้นที่อีก 40,000 ตารางฟุตใน Sector 125 ในนอยดา สำหรับแผนกศึกษาต่อต่างประเทศ – upGrad Abroad และพื้นที่ 50,000 ตารางฟุตใน Sector 58 ในนอยดา เพื่อใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการเตรียมสอบของรัฐบาลซึ่งมีสตูดิโอมากกว่า 45 ห้องพร้อมครูฝึกมากกว่า 150 คน ที่รองรับช่อง YouTube 27 ช่องที่มียอดวิวมากกว่า 25L ต่อวัน และจะฝึกอบรมผู้สมัครมากกว่า 5L ในปีนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานของรัฐบาล

upGrad มีทีมงานประจำและมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก ทั้งในสิงคโปร์ ซานฟรานซิสโก อินโดนีเซีย นิวยอร์ก ตะวันออกกลาง ลอนดอน เวียดนาม วอชิงตัน และทั่วทั้งออสเตรเลีย จากสมาชิก 1,400 คน ส่วนใหญ่จะเป็นคณาจารย์ ผู้ฝึกอบรม และผู้เชี่ยวชาญในด้านการขายและการตลาด เนื้อหา การจัดส่ง และประสบการณ์การเรียนรู้ จุดเน้นของการจ้างงานอยู่ที่พื้นที่ที่มีการเติบโตสูงซึ่งรวมถึง (ก) การศึกษาในต่างประเทศ (ข) วิทยาเขตทั่วโลก 10 แห่ง (ค) โปรแกรมที่เน้นการทำงานและพร้อมทำงานซึ่ง upGrad เปิดตัวในอินเดียและสหรัฐอเมริกาในช่วง 90 วันที่ผ่านมา และ (ง) ที่ ATLAS SkillTech University ในมุมไบ

"การขยายธุรกิจในประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา แม้ว่าโมเดลธุรกิจของเราจะได้รับผลตอบแทน 100%+ ในทุกไตรมาส แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องลงทุนใหม่เพื่อขยายผลลัพธ์ที่เราตั้งเป้าไว้ เรากำลังขยายธุรกิจเพื่อรองรับทีมที่ใหญ่ขึ้นซึ่งเรากำลังรับเข้ามา นอกจากนี้ ในขณะที่เรามุ่งเน้นที่รูปแบบการจัดส่งออนไลน์ที่แข็งแกร่ง เรายังสนับสนุนให้ผู้เรียนในปัจจุบันและในอนาคตมาพบเราแบบตัวต่อตัวในขณะที่ตัดสินใจเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมสำหรับตนเอง ดังนั้น การแสดงตนแบบเห็นหน้ากันทำให้เราใกล้ชิดกับผู้เรียนมากขึ้นในเส้นทางการเรียนรู้ตลอดชีวิต" กล่าวโดย Mayank Kumar ผู้ร่วมก่อตั้งและ MD ของ upGrad

ด้วย upGrad นี้ยังคงดำเนินงานจากสำนักงาน 30 แห่งในอินเดียใน 10 เมือง นอกเหนือจากนี้ สำนักงานทั่วโลกตั้งอยู่ทั่วซานฟรานซิสโก นิวยอร์ก วอชิงตัน ลอนดอน สิงคโปร์ ดูไบ จาการ์ตา เวียดนาม ซิดนีย์ เมลเบิร์น และไนโรบี ความสามารถในการจับจ่ายและการเข้าถึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับภารกิจของ upGrad ในการทำให้หลายล้านคนพร้อมทำงานและสร้างงานสำหรับอาชีพในอนาคต ดังนั้นการขยายตัวทางภูมิศาสตร์จะยังคงสนับสนุนการเติบโตตามแผนและตามจังหวะต่อไป

เกี่ยวกับ upGrad: upGrad เริ่มต้นในปี 2015 เป็นผู้บุกเบิกการปฏิวัติการศึกษาออนไลน์ โดยมุ่งเน้นที่การส่งเสริมความสำเร็จในอาชีพสำหรับคนทำงานทั่วโลกกว่า 1.3 พันล้านคน เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีการเรียนรู้ตลอดชีวิตแบบบูรณาการไม่กี่แห่งในโลก ที่ครอบคลุมผู้เรียนระดับวิทยาลัยไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญที่ทำงาน ตั้งแต่กลุ่มอายุ 18-50 ปี และในหลักสูตรระดับปริญญาตรี โปรแกรมที่เชื่อมโยงกับวิทยาเขตและงาน การศึกษาในต่างประเทศ หลักสูตรระยะสั้นสำหรับผู้บริหารจนถึงระดับปริญญาอย่างปริญญาโทและปริญญาเอก พร้อมกับฐานผู้เรียน 8.2 ล้านคนใน 100+ ประเทศ และพันธมิตรของมหาวิทยาลัยกว่า 300 แห่ง และธุรกิจระดับองค์กรที่แข็งแกร่งพร้อมฐานลูกค้ากว่า 1,000 บริษัททั่วโลก

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221116005522/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Media Contact: upGrad | Neha Prasad | Asst. Manager – PR | neha.prasad@upgrad.com

แหล่งที่มา: upGrad

The Bangkok Reporter