Hytera, Kazakhstan Temir Zholy, BT Signal ร่วมกันพัฒนาระบบสื่อสารทางรถไฟ

Logo

ASTANA, Kazakhstan–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022

Hytera Communications (SZSE: 002583) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ลงนามข้อตกลงกับ Temir Zholy (KTZ) ซึ่งเป็นบริษัทรถไฟแห่งชาติของคาซัคสถาน และ BT Signal LLP (BT Signal) ในการจัดตั้งศูนย์เชี่ยวชาญเพื่อร่วมพัฒนาระบบสื่อสารทางรถไฟความเร็วสูงไปสู่ ​​5G และอื่น ๆ

Left to right: Ivan Wang, Country Manager of Hytera Kazakhstan; Batyr Kotyrev, Chief Engineer of KTZ; Bayzakov B.M., Director of BT Signal (Photo: Business Wire)

Left to right: Ivan Wang, Country Manager of Hytera Kazakhstan; Batyr Kotyrev, Chief Engineer of KTZ; Bayzakov B.M., Director of BT Signal (Photo: Business Wire)

วัตถุประสงค์ของศูนย์เชี่ยวชาญคือการเร่งการพัฒนาของระบบสื่อสารทางรถไฟที่รองรับการใช้งานในอนาคตสำหรับ KTZ ศูนย์เชี่ยวชาญจะเป็นเวทีสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารทางรถไฟจาก Hytera, KTZ และ BT Signal เพื่อแลกเปลี่ยนความชำนาญและประสบการณ์ด้านเทคนิค อนุมัติแผนงานสำหรับการดำเนินโครงการ พัฒนาเอกสารด้านกฎระเบียบและทางเทคนิคที่จำเป็น และนำโปรแกรมโมดูลาร์ใหม่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์

ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการลงนามระหว่างการสัมมนาออนไลน์ Future Railway Telecommunication in the Asia-Pacific Region (โทรคมนาคมทางรถไฟในอนาคตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) ร่วมจัดโดยสหภาพรถไฟระหว่างประเทศ (UIC) และ KTZ งานสัมมนานี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟกว่า 200 คนจาก 23 ประเทศ

Batyr Kotyrev หัวหน้าวิศวกรของ KTZ กล่าวในงานสัมมนาว่า KTZ วางแผนที่จะเริ่มโครงการวิจัย Prospects for Introduction New Standards of Railway Radio Communication for Railways of the Asia-Pacific region (โอกาสในการแนะนำมาตรฐานใหม่ของวิทยุสื่อสารทางรถไฟสำหรับรถไฟในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) ในปี 2023

Song Xiaolei ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชันในต่างประเทศของ Hytera ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์ของบริษัทเกี่ยวกับวิวัฒนาการบริการ FRMCS ในอนาคตของการรถไฟคาซัคสถาน ซึ่งเครือข่าย 4G/5G ของผู้ให้บริการเครือข่ายและระบบ TETRA ที่มีอยู่ของ KTZ จะถูกสร้างขึ้นภายใต้กรอบการทำงานใหม่ของข้อตกลงที่ลงนาม โซลูชันแบบบรรจบกันคือการให้บริการส่งข่าวและการสื่อสารทางรถไฟที่เป็นเอกภาพและรองรับการใช้งานในอนาคต การสำรองที่ปลอดภัย การส่งสัญญาณและควบคุมข้อมูล ตลอดจนสำรวจ และเป็นผู้นำวิวัฒนาการการสื่อสารทางรถไฟรุ่นต่อไป

Ivan Wang ผู้จัดการประจำประเทศคาซัคสถานของ Hytera แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือนี้ว่า "ศูนย์เชี่ยวชาญจะทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเร่งการแปลง KTZ ให้เป็นดิจิทัล และเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้"

เกี่ยวกับ Hytera

Hytera Communications Corporation Limited (SZSE: 002583) เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ด้วยความสามารถด้านเสียง วิดีโอ และข้อมูล เรามอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ปลอดภัย และหลากหลายมากขึ้นสำหรับธุรกิจและผู้ใช้ที่มีความสำคัญต่อภารกิจ ช่วยทำให้โลกมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยเอื้อให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จมากขึ้นทั้งในด้านการปฏิบัติงานประจำวันและการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.hytera.com/en/home.html

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52970667/en

ข้อมูลติดต่อ

Jia Liu
Hytera Communications Corporation Limited
jia.liu@hytera.com

แหล่งที่มา: Hytera Communications Corporation Limited

Innophos เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เตรียมเจาะตลาดอาหารและเครื่องดื่มในเอเชียแปซิฟิก

Logo

เว็บไซต์โฉมใหม่นี้เปรียบดั่งสถานที่จัดแสดงวัตถุดิบที่สร้างขึ้นจากสูตรเฉพาะที่พัฒนาขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ

แครนเบอรี รัฐนิวเจอร์ซีย์–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022

Innophos ผู้นำด้านสารละลายพิเศษสำหรับวัตถุดิบระดับโลกที่สร้างคุณูปการด้านต่าง ๆ แก่ตลาดอาหาร สุขภาพ และโภชนาการมาแล้วนักต่อนักได้ฤกษ์เปิดตัวเว็บไซต์ innophos.cn ที่สร้างขึ้นสำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิกโดยเฉพาะ เว็บไซต์โฉมใหม่นี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ Innophos ได้สัมผัสมาในช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ โดยตัวเว็บไซต์มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่รองรับการทำงานแบบสองภาษาเพื่อเข้าถึงลูกค้าที่พูดทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน

Announcing our new APAC website innophos.cn (Graphic: Business Wire)

ประกาศเว็บไซต์ APAC ใหม่ของเรา innophos.cn (กราฟิก: Business Wire)

“ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านสารละลายฟอสเฟตสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม การเปิดตัว innophos.cn ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Innophos” Migue DeJong ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกของ Innophos กล่าว “การดำเนินการในครั้งนี้ทำให้ผมอยากติดตามการเติบโตต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งของกลุ่มธุรกิจของเราทั้งในเอเชียและทั่วโลกอย่างใจจดใจจ่อ”

Innophos Asia Pacific ได้เปิดโรงงานผลิตในเมืองไท่ชาง มณฑลเจียงซู ประเทศจีนขึ้นเมื่อแปดปีก่อน จากนั้นมา Innophos ได้ใช้โรงงานผลิตแห่งนี้เพื่อให้บริการสารละลายแก่ลูกค้าในหลาย ๆ กลุ่มไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตอาหารข้ามชาติ ผู้ผลิตอาหารประจำภูมิภาค และผู้ผลิตอาหารในท้องถิ่นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ทั้งนี้ Innophos Asia Pacific ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟอสเฟตสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมฟอสเฟต และผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้อย่างครบครันเพื่อมอบเนื้อสัมผัส รสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และอายุการเก็บรักษาที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย

“การเติบโตทางธุรกิจของเรานั้นขับเคลื่อนจากความเข้าใจที่ครอบคลุมอย่างลึกซึ้งต่อความต้องการของลูกค้ารวมถึงกระบวนการพัฒนาของเราด้วย” Laurent Dubois ผู้จัดการทั่วไปของ Innophos Asia Pacific กล่าวเสริม “เราภูมิใจที่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภูมิภาคนี้เพื่อลูกค้าของเราด้วยห้องปฏิบัติการประยุกต์ที่มีอุปกรณ์ครบครัน สารละลายที่เราสร้างขึ้นจากสูตรเฉพาะ และความใส่ใจต่อคุณภาพและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”

เว็บไซต์ใหม่ของ Innophos นี้มุ่งเน้นการแสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทกับอาหารและเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเบเกอรี่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล นม บะหมี่ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช โดยสามารถเยี่ยมชมส่วนผสมเฉพาะสำหรับการพัฒนาคุณภาพอาหารและเครื่องดื่มด้วยสารละลายฟอสเฟตสำหรับวัตถุดิบรูปแบบใหม่ได้ที่ innophos.cn เว็บไซต์ใหม่ของ Innophos Asia Pacific

เกี่ยวกับ Innophos

Innophos คือผู้ผลิตสารละลายพิเศษสำหรับวัตถุดิบชั้นนำระดับสากลซึ่งสร้างประโยชน์ต่าง ๆ มากมายให้กับตลาดอาหาร สุขภาพ และโภชนาการ โดยเราใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการผสมและสร้างสรรค์สูตรวัตถุดิบที่มีส่วนผสมจากฟอสเฟต แร่ธาตุ เอนไซม์ และพืช เพื่อช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการในราคาประหยัดได้ ปัจจุบัน Innophos ดำเนินการผลิตอยู่ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก และจีน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52969382/en

ข้อมูลติดต่อ

Carrie Livingston
อีเมล: carrie@colinkurtis.com
หมายเลขโทรศัพท์: +1 815-519-8302

แหล่งที่มา: Innophos

Medidata เปิดตัว Rave Companion ซึ่งเป็นโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้โซลูชันแรกสำหรับการป้อนข้อมูล EHR เข้าไปยัง Rave EDC โดยอัตโนมัติ

Logo

Rave Companion มีการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ EDC ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น สามารถลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้นับพันสำหรับการทดลองทางคลินิกและระบบการจัดการข้อมูล 

  • Rave Companion จะช่วยเพิ่มคุณภาพข้อมูลและสามารถลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ โดยรับข้อมูลต้นทางจาก EHRs โดยตรงและส่งไปยัง Rave EDC โดยไม่ต้องมีการพิมพ์ ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดที่น้อยลง
  • เป็นโซลูชันระหว่างระบบ EHR ของไซต์และโซลูชันข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพอื่น ๆ กับ Rave EDC โดยนำบันทึกเวชระเบียนของผู้ป่วยเข้าสู่ Rave EDC โดยตรง

NEW YORK–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

Medidata บริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ประกาศแผนที่จะเปิดตัว Rave Companion ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนวัตกรรมสามารถปรับขนาดได้ และอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ที่จะช่วยให้การทดลองทางคลินิกสามารถประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดในการถ่ายโอนข้อมูล EHR (บันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์) ไปยังระบบ Rave EDC (การบันทึกข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์) Rave Companion จะสามารถรับมือกับความท้าทายในการป้อนข้อมูลซ้ำซ้อนสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีมาอย่างยาวนานได้ โดยมีการใช้งานข้อมูลทั้งแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างจากบันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง Rave EDC สามารถนำไปใช้ได้โดยตรงเพียงไม่กี่คลิก

“จำนวนจุดข้อมูลที่รวบรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทางคลินิกมีการเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณและสำหรับไซต์ต่าง ๆ ที่มองหาโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้ และใช้งานง่าย เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบ EHR และลดการป้อนข้อมูล” Dan Braga รองประธานฝ่ายโซลูชัน EHR และฝ่ายดูแลสุขภาพที่ Medidata กล่าว “Rave Companion เป็นโซลูชันที่สามารถช่วยในการใช้งานข้อมูลที่มีอยู่จากระบบ EHR ใด ๆ แทนที่จะเป็นการป้อนข้อมูลซ้ำ เพื่อวัตถุประสงค์ในการทดลองทางคลินิก”

Medidata ดำเนินการทดลองมากกว่า 29,000 ครั้ง โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาศาสตร์กว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก โดยใช้แพลตฟอร์มชั้นนำของอุตสาหกรรม Rave Companion ได้รับการออกแบบมาสำหรับฟังก์ชันการทำงานแบบนอกกรอบสำหรับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง รวมถึงความสามารถในการผสานรวมระบบ EHR แบบขั้นสูงสำหรับไซต์ที่มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของไซต์สำหรับการวิจัยของ Medidata และสามารถขยายได้อย่างรวดเร็ว Rave Companion ทำงานโดยการจำลองแผนผังของ Rave eCRF ในเครื่องมือ “companion” ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ และติดตามผู้ใช้ของไซต์เมื่อมีการเข้าใช้งานผ่านระบบการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในฐานข้อมูลด้านการวิจัย

สำหรับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง หรือสำหรับไซต์ที่ยังไม่มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของ Medidata Rave Companion จะช่วยให้สามารถหยุดการดำเนินการ “ทำงานพร้อมกันในทั้งสองระบบ” และช่วยให้ Rave EDC สามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้เข้าใช้งานระบบ EHR หรือระบบทางคลินิกอื่น ๆ ในการค้นหาข้อมูลผู้ป่วยที่เหมาะสม เพียงผู้ใช้คลิกที่ค่า ระบบก็จะกรอกข้อมูลเข้า eCRF ให้ แทนที่จะต้องพิมพ์ข้อมูลอีกครั้ง

ในปีหน้า Rave Companion จะมีการรวมการนำเสนอข้อมูล EHR ภายในโซลูชันโดยตรง หมายความว่าผู้ใช้จะไม่ต้องออกจากระบบ Rave EDC เพื่อกรอกข้อมูล eCRF ให้ครบถ้วน เนื่องจากสามารถดำเนินการได้ภายในระบบเดียว

Medidata จะมีการเปิดตัว Rave Companion ในงานชีววิทยาศาสตร์ชั้นนำ NEXT New York ในวันที่ 15-16 เดือนพฤศจิกายน โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการที่ Medidata จัดการความท้าทายในการป้อนข้อมูลซ้ำในหัวข้อ “การแก้ไขปัญหาความท้ายทายของการถ่ายโอนข้อมูลจาก EHR ไปยัง EDC: มุมมอง แนวทาง และเทคโนโลยีใหม่” โดยมี Gene Vinson ผู้อำนวยการบริหารของฝ่ายบริหารจัดการ Clinical Vendor Management ที่ Syneos Health และ Dan Braga และ Samir Jain ผู้อำนวยการอาวุโสของ EHR Solutions ของ Medidata เข้าร่วม

Medidata เป็นบริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ที่มีแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE เป็นบริษัทชั้นนำในระบบการเปลี่ยนแปลงชีววิทยาศาสตร์ระบบดิจิทัลในยุคของการแพทย์เฉพาะบุคคลที่มีแพลตฟอร์มทางวิทยาศาสตร์และธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่การวิจัยจนถึงเชิงพาณิชย์ระบบแรก

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata เป็นผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลสำหรับชีววิทยาศาสตร์ การสร้างความหวังให้กับผู้ป่วยหลายล้านคน Medidata จะช่วยสร้างหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยบริษัทด้านเภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการวินิจฉัย รวมถึงนักวิจัยด้านวิชาการเพื่อเพิ่มมูลค่า ลูกค้าและพันธมิตรกว่า 2,000 รายสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกสำหรับการพัฒนาทางคลินิก ช้อมูลเชิงพาณิชย์ และข้อมูลจริงได้ Medidata ซึ่งเป็นบริษัท Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กซิตี้ และมีสำนักงานทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes บริษัทในเครือของบริษัท 3DEXPERIENCE เป็นฝ่ายพัฒนาความก้าวหน้าของมนุษย์ โดยเราได้จัดเตรียมสภาพแวดล้อมเหมือนจริงสำหรับธุรกิจและผู้คนเพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน ด้วยประสบการณ์เสมือนจริงในโลกแห่งความเป็นจริงในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันของ 3DEXPERIENCE ลูกค้าของเราสามารถขยายขอบเขตการสร้างนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิต เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับผู้ป่วย พลเมือง และผู้บริโภค Dassault Systèmes สร้างมูลค่าให้กับลูกค้ากว่า 300,000 รายในทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม ในกว่า 140 ประเทศ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอนเข็มทิศ, โลโก้ 3DS, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ซึ่งเป็น “société européenne” ในฝรั่งเศส (ทะเบียนพาณิชย์แวร์ซายส์ # B 322 306 440) หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Tom Paolella
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจการ
+1-848-203-7596
thomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+1-917-522-4692
paul.oestreicher@3ds.com

แหล่งที่มา: Medidata

Contentstack ระดมทุน Series C มูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ นำโดย Georgian และ Insight Partners เพื่อเร่งเส้นทางสู่การรวบรวมความสามารถจากโครงสร้างข้อมูลสำหรับองค์กร

Logo

ระบบการจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียจะใช้เงินทุนเพื่อช่วยให้แบรนด์ระดับโลกตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคสำหรับประสบการณ์เชื่อมโยงกับร้านค้าทุกช่องทางและประสบการณ์ส่วนบุคคล และเพื่อสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั่วอินเดีย

เทศบาลวิราร เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

Contentstack ผู้นำประเภท Content Experience Platform (CXP) และผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรมเชิงประกอบ ได้ประกาศในวันนี้ว่าการระดมทุน Series C มีมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ Georgian และ Insight Partners ร่วมเป็นผู้นำในรอบนี้โดยมีส่วนร่วมจาก Illuminate Ventures ทั้งสามบริษัทยังคงเพิ่มการลงทุนด้วย Contentstack ซึ่งมีส่วนช่วยให้ระดมทุนได้ทั้งหมด 169 ล้านดอลลาร์จนถึงตอนนี้ บริษัทจะใช้เงินทุนเพื่อสนับสนุนบริษัทองค์กรต่าง ๆ ต่อไปในเส้นทางของพวกเขาเพื่อรวบรวมความสามารถจากโครงสร้างข้อมูล โดยเสริมศักยภาพให้พวกเขาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคสำหรับประสบการณ์เชื่อมโยงกับร้านค้าทุกช่องทางและประสบการณ์ส่วนบุคคล

Emily Walsh หัวหน้านักลงทุนของ Georgian จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ Contentstack พร้อมกับ David Overmyer ผู้อำนวยการสายการเงิน (CFO) ของ Contentstack

“เรามองหาบริษัทที่มีการเติบโตสูงพร้อมความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและวัฒนธรรมการทำงานที่แข็งแกร่ง เราชอบที่จะช่วยให้ผู้ที่มองเห็นโอกาสและใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงได้ทำในสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด” กล่าวโดย Walsh “ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ เราจึงเลือกที่จะเพิ่มการลงทุนของเราเป็นสองเท่า ความสามารถของ Contentstack ในการรับรองว่าลูกค้าจะประสบความสำเร็จในขณะเดียวกันก็สร้างนวัตกรรมด้วยความเร็วที่บันทึกนั้น ทำให้พวกเขาเป็นผู้นำในตลาด CMS เราภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำร่วมกันในรอบนี้และให้การสนับสนุนบริษัทที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำที่แท้จริง”

Contentstack เป็น CMS ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียซึ่งเป็นตัวแทนของแบรนด์ระดับโลก เช่น Chase, Holiday Inn, Levi’s, Mattel, McDonald's, Mitsubishi และ Shell นอกจากนี้ บริษัทยังใช้เงินทุนเพื่อเติบโตและสรรหาบุคลากรอย่างต่อเนื่องในไฮเดอราบัด เบงกาลูรู ปูเน และวิราร-มุมไบ

"เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในบริษัท SaaS ที่เติบโตเร็วที่สุดในอินเดีย" กล่าวโดย Nishant Patel ผู้ร่วมก่อตั้งและ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Contentstack "Contentstack ได้รับการบ่มเพาะใน Raw Engineering ในอินเดียก่อนที่จะแยกตัวออกไปสู่ระดับโลกมากขึ้นในปี 2018 ภารกิจของเราคือการช่วยสนับสนุนและผลักดันการเติบโตในระบบนิเวศของธุรกิจสตาร์ทอัพในอินเดีย เมื่อเร็วๆ นี้ การสนับสนุนการประชุมผลิตภัณฑ์ NASSCOM ช่วยกระตุ้นภารกิจดังกล่าว ซึ่งคุณสามารถคาดหวังได้ว่าจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้”

ในฐานะที่เป็น CMS แบบไม่มีส่วนหัวเพียงตัวเดียวที่นำเสนอโซลูชัน "การผสานรวม" กับ Automation Hub Contentstack จึงมอบเส้นทางสู่การรวบรวมความสามารถจากโครงสร้างข้อมูลสำหรับองค์กรต่าง ๆ ด้วยการทำให้กิจกรรมหลายร้อยรายการในเทคโนโลยีและผู้ขายเป็นไปอย่างอัตโนมัติและคล่องตัวแบบเรียลไทม์ องค์กรต่างๆ จึงสามารถเลิกใช้งานระบบจัดการเนื้อหา (CMS) แบบเดิมที่มีราคาแพงได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้พวกเขาสามารถปลดล็อกนวัตกรรมประสบการณ์ดิจิทัลในวงกว้างมากขึ้นและตระหนักถึงผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โปรแกรม Care Without CompromiseTM ที่เป็นเรือธงของบริษัทช่วยให้มั่นใจได้ถึงการสนับสนุนข้ามผู้จัดจำหน่ายในสภาพแวดล้อมที่ผสมผสานกัน ด้วย Automation Hub และ Care Without Compromise ทำให้ Contentstack กลับมาอยู่ในระดับแนวหน้าของการเคลื่อนไหวที่ผสมผสานกันได้อีกครั้ง ซึ่งมุ่งมั่นที่จะสร้างลูกค้าให้พร้อมสำหรับความสำเร็จในแนวธุรกิจและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

ตั้งแต่ Series B ของ Contentstack ในเดือนมิถุนายน ปี 2021 ความเชี่ยวชาญของ Contentstack ได้นำไปสู่การเติบโตของขนาดและอัตราของกรณีการใช้งาน เนื่องจากมีองค์กรจำนวนมากขึ้นได้นำสถาปัตยกรรมเชิงประกอบมาใช้เป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ดิจิทัลมากขึ้น บริษัทจึง

  • เติบโตจนมีพนักงานมากกว่า 400 คน และเข้าถึงผู้ใช้กว่า 50,000 รายในตลาดโลกกว่า 70 แห่ง
  • เพิ่มจำนวนลูกค้าที่ให้บริการและเพิ่ม ARR เกือบสามเท่า ขณะที่รักษาอัตราการรักษาลูกค้าไว้ 97%
  • ปรับขนาดด้วยแบรนด์ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด โดย 42% มีรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และ 35% มีการซื้อขายต่อสาธารณะ
  • นำเสนอโซลูชันที่ไม่อิงกับคลาวด์ที่รองรับทั้ง AWS และ Microsoft Azure ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

นอกจากนี้ Contentstack ยังได้รับการรับรองเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมในอินเดีย (กันยายน 2021-2023) โดยได้รับรางวัลสถานที่ทำงานยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 ถึง 6 รางวัลและได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ทำงานที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 Austin Business Journal เสนอชื่อ Neha Sampat ผู้บริหารสูงสุด (CEO) ให้เป็นหนึ่งใน CEO ที่ดีที่สุดของ Austin ในปี 2022

เกี่ยวกับ Contentstack

Contentstack™ เป็นผู้นำประเภท Content Experience Platform (CXP) ที่ช่วยให้นักการตลาดและนักพัฒนานำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่รวบรวมได้ด้วยความรวดเร็วดั่งจินตนาการ บริษัทต่าง ๆ เช่น ASICS, Chase, Express, Holiday Inn, Icelandair, Mattel, McDonald's, Mitsubishi, Riot Games และ Shell ไว้วางใจให้ Contentstack ขับเคลื่อนประสบการณ์เนื้อหาที่สำคัญที่สุดด้วยขนาดที่มั่นคงและความน่าเชื่อถือ Contentstack มีชื่อเสียงในด้าน Care without Compromise™ ซึ่งได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้าในอุตสาหกรรม Contentstack ยังเป็นผู้ก่อตั้ง MACH Alliance ที่กำหนดวาระอุตสาหกรรมสำหรับเทคโนโลยีแบบเปิดและปรับแต่งได้ที่ใช้ Microservices, API-first, Cloud-native SaaS และ Headless เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.contentstack.com

ข้อมูลติดต่อ

Manish Sharma
manish.sharma@contentstack.com
+91 98200 43185

แหล่งที่มา: Contentstack

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้ผลิตสมาร์ทดิสเพลย์ ที่ดีที่สุดของไต้หวัน เฉิดฉายในงาน SDIA Award 2022

Logo

กรุงไทเป ไต้หวัน –(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

เพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ผลิตสมาร์ทดิสเพลย์ของไต้หวันให้ก้าวทันเทคโนโลยีแสดงผลชั้นนำ Smart Display Industry Alliance หรือ SDIA จึงได้จัดงาน SDIA Award ปี 2022 ขึ้นมา โดยจะมอบรางวัลระดับ Gold, Silver, Bronze รวมถึง Prize of Excellence ให้แก่ผู้ชนะที่เข้าเกณฑ์การประเมินรางวัล เกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วยความสามารถทางการตลาด, ความเป็นนวัตกรรม, เทคโนโลยี, งานวิจัย, ขีดความสามารถในการพัฒนา และศักยภาพตัวต้นแบบ เป้าหมายคือการยกย่องผู้ผลิตที่มีส่วนร่วม ซึ่งพวกเขาได้ลงทุนขยายเทคโนโลยีการแสดงผลชั้นนำ และยกระดับการแข่งขันด้านภาพกับการตลาดในอุตสาหกรรมการแสดงผลของไต้หวัน

Taiwan’s top smart display companies selected for 2022 SDIA Award (Photo: Business Wire)

Taiwan’s top smart display companies selected for 2022 SDIA Award (Photo: Business Wire)

คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมของกระทรวงเศรษฐการเป็นผู้ก่อตั้ง SDIA ในปี 2021 องค์กรนี้ทำหน้าที่สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิชาการของมหาวิทยาลัยรัฐภาคอุตสาหกรรม รวมถึงกลไกการบูรณาการการดำเนินงาน, เสริมความเข้มแข็งข้ามภาคการผลิต, หน่วยงานสากล, การผนวกรวมหลากหลายสาขาวิชา และขีดความสามารถในการเพิ่มการแข่งขันระดับสากลของไต้หวันในเทคโนโลยีสมาร์ทดิสเพลย์ รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมเพื่อเปลี่ยนอุตสาหกรรมแสดงผลจากห่วงโซ่อุตสาหกรรมเดี่ยว เป็นระบบนิเวศอุตสาหกรรม

ในปีนี้ มีการมอบรางวัลให้บริษัทที่ดำเนินโครงการอันยอดเยี่ยมที่เน้นเทคโนโลยีการแสดงผลชั้นนำ ผู้ได้รับรางวัลระดับ Gold ได้แก่ AUO Corporation, Innolux Corporation, และ PlayNitride Display Co., Ltd สำหรับรางวัลระดับ Silver มอบให้กับ E Ink Holdings Inc., Lextar Electronics Corporation, และ Darwin Precisions Corporation ส่วนผู้ได้รับรางวัลระดับ Bronze คือ PanelSemi Corporation, WiseChip Semiconductor Inc., และ InnoCare Optoelectronics Corp. และรางวัล Prize of Excellence มอบให้กับ Taiwan Nanocrystals Inc., General Interface Solution Limited และ GIO Optoelectronics Corp.

AUO Corporation เป็นผู้สร้างหน้าจอแสดงผล Micro LED แบบม้วนได้ขนาด 14.6 นิ้ว ครั้งแรกของโลก ด้วยความคมชัดระดับสูงสุด มีการใช้เทคโนโลยีถ่ายโอนความเร็วระดับสูงให้ได้ความหนาแน่นของพิกเซลสูงระดับอัลตราที่ 202 ppi ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้มีความโดดเด่นทั้งในแง่ขนาดและความคมชัด กระบวนการผลิตยังมีการดำเนินการด้วยพลังงานสะอาดนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยประหยัดและลดการบริโภคพลังงาน จอแสดงผลแบบม้วนได้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับพื้นที่ภายในยานพาหนะด้วย

Innolux Corporation นำเสนอโซลูชันภาพทางการแพทย์อัจฉริยะ 3 มิติ แบบมองเห็นด้วยตาเปล่า ผสานกับสิทธิบัตรพิเศษเฉพาะของ Innolux – เทคโนโลยีการแสดงผลไลท์ฟีลด์ภาพแบบ Volume N3D และอัลกอริทึม ทำให้ระบบสามารถอ่านข้อมูลภาพรังสีส่วนตัดได้โดยตรง ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตีความข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

PlayNitride Display Co., Ltd อาศัยการใช้เมตาเวิร์สอันเป็นที่สนใจทั่วทั้งอุตสาหกรรม ในการเปิดตัวจอแสดงผล
ไมโครแบบมีสีเต็มรูปแบบ ขนาด 0.49 นิ้ว/4,536 ppi เมตาเวิร์ส ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดในอุตสาหกรรมปัจจุบัน และสามารถใช้กับแว่นตา AR ได้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแสดงผลช่วยยกระดับประสบการณ์เมตาเวิร์ส

บริษัทเทคโนโลยีแสดงผลมีความเข้มแข็งในตัวเอง SDIA จะช่วยผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมการแสดงผล ให้เปลี่ยนแปลงและอัปเกรดพร้อมเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าที่สูงขึ้น หรือระบบ และบริการบูรณาการแอปพลิเคชัน สิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาแอปพลิเคชันและโซลูชันในหลากหลายสาขา เพื่อนำทฤษฎีไปปฏิบัติจริงให้เกิดการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการแสดงผลอัจฉริยะในภาพรวม และการอัปเกรดให้ไปถึงเป้าหมายในการสร้างพอร์ตอุตสาหกรรม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52966218/en

ข้อมูลติดต่อ

Smart Display Industrial Alliance, SDIA
อีเมล: IDB.SDIA@itri.org.tw
โทรศัพท์: +886-2-27001910

แหล่งที่มา: Smart Display Industrial Alliance

Kirin Holdings และ Kao เริ่มทำการวิจัยร่วมกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องและภูมิคุ้มกันวิทยา

Logo

Tokyo–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

ตั้งแต่เดือนนี้ Kirin Holdings Company, Limited (Kirin Holdings) และ Kao Corporation (Kao) จะเข้าร่วมในการศึกษาตามรุ่นของ "วิจัยส่งเสริมสุขภาพวาคายามะ"*1 ซึ่งนำโดย Wakayama Medical University และเรียบเรียงโดยศูนย์วิจัยส่งเสริมสุขภาพ (HPRC) ที่เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Kirin Holdings และ Kao จะร่วมกันทำการวิจัยเพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องกับการทำงานของเซลล์เดนไดรต์ในพลาสมาไซทอยด์*2 (pDCs) ซึ่งเป็นตัวนำสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันและอื่น ๆ

*1 วิธีการวิจัยเชิงสังเกตวิธีหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยของโรคและการเกิดโรค โดยจัดกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยโรคเฉพาะและกลุ่มคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยโรคเฉพาะ และสามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยและการเกิดโรคได้โดยการคำนวณอุบัติการณ์ของโรคเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม

*2 เซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวนำหลักเมื่อแบคทีเรียหรือไวรัสเข้าสู่ร่างกาย การทำงานของ pDC จะกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันต่าง ๆ เช่น เซลล์ NK เซลล์ T และเซลล์ B เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส

โครงร่างการวิจัย

  1. หัวข้อการวิจัย
  2. โครงสร้างการวิจัย
    Kirin Central Research Institute, Kirin Holdings Company, Limited
    R&D-Health & Wellness Products Research, R&D-Biological Science Research , Kao Corporation
    Wakayama Medical University
  3. เป้าหมาย
    ชายและหญิงที่เป็นผู้ใหญ่ 300 คนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดวาคายามะ (ตามแผน)

ความเป็นมา

โรคอ้วนได้รับการกำหนดโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็น "การสะสมไขมันผิดปกติหรือมากเกินไปซึ่งอาจนำไปสู่สุขภาพที่ไม่ดี" ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้น ทั่วโลกกำลังศึกษาผลกระทบของโรคอ้วนต่อสุขภาพ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความเชื่อมโยงระหว่างโรคอ้วนกับภูมิคุ้มกันกำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากโรคอ้วนมีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสที่รุนแรงมากขึ้น*3

วัตถุประสงค์

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องกับกิจกรรมของ pDC โดยผสมผสานความสามารถในด้านการวิจัยมากกว่า 35 ปีของ Kirin Holdings ที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันวิทยาเข้ากับความสามารถในด้านการวิจัยของ Kao ที่เกี่ยวกับการลดการสะสมไขมันในช่องท้อง ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต งานวิจัยนี้จะดำเนินการเป็นการศึกษาเพิ่มเติมสำหรับ "วิจัยส่งเสริมสุขภาพวาคายามะ" ซึ่งได้ดำเนินการกับผู้อยู่อาศัยในจังหวัดวาคายามะมาตั้งแต่ปี 2011

ในเดือนนี้ จะมีการตรวจสุขภาพเฉพาะในจังหวัดวาคายามะสำหรับผู้อยู่อาศัยที่มีอายุ 40-55 ปี Kao จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและปริมาณไขมันในช่องท้อง ในขณะที่ Kirin Holdings จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของเซลล์เดนไดรต์ รวมถึง pDCs ในเลือด โดยทั้งคู่จะแบ่งปันข้อมูลเหล่านี้ร่วมกัน และจะมีการศึกษาและวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องและกิจกรรมของ pDC

*3 Int J Epidemiol. 2019;48(6):1783-1794. https://doi.org/10.1093/ije/dyz129
Obes Rev. 2020;21(11):e13128. https://doi.org/10.1111/obr.13128

วิจัยส่งเสริมสุขภาพวาคายามะคืออะไร

นี่เป็นการศึกษาตามรุ่นที่นำโดย Wakayama Medical University ตั้งแต่ปี 2011 และขณะนี้ได้ดำเนินการร่วมกับ HPRC โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการเกิดของโรคต่าง ๆ ในหมู่คนท้องถิ่นในจังหวัดวาคายามะ

จนถึงปัจจุบัน มีการวิจัยเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและมวลกล้ามเนื้อ และได้มีการตีพิมพ์เอกสารต้นฉบับเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อกับการเริ่มมีภาวะหลอดเลือดแข็ง ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประวัติการล้มและปริมาณการออกกำลังกายที่เจตนา

Kirin และ Kao จะส่งเสริมความคิดริเริ่มที่มุ่งลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภคในอนาคต โดยการชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างมวลไขมันในอวัยวะภายในและกิจกรรม pDC ผ่านวิจัย HPRC

เกี่ยวกับ Kirin Holdings

Kirin Holdings Company, Limited เป็นบริษัทระหว่างประเทศที่ดำเนินการในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม) ส่วนของยา (ธุรกิจยา) และในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ) ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก

Kirin Holdings สืบทอดมาจาก Japan Brewery ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1885 โดย Japan Brewery ได้กลายเป็น Kirin Brewery ในปี 1907 ตั้งแต่นั้นมา บริษัทก็ได้ขยายธุรกิจด้วยการหมักและเทคโนโลยีชีวภาพเป็นเทคโนโลยีหลัก และเข้าสู่ธุรกิจเภสัชกรรมในปี 1980 ซึ่งทั้งหมดยังคงเป็นศูนย์กลางการเติบโตระดับโลก ในปี 2007 Kirin Holdings ก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทโฮลดิ้งอย่างแท้จริง และปัจจุบันนี้กำลังมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ภายใต้วิสัยทัศน์ Kirin Group Vision 2027 (KV 2027) ซึ่งเป็นแผนการจัดการระยะยาวที่เปิดตัวในปี 2019 ทำให้ Kirin Group มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในด้าน CSV* ซึ่งสร้างมูลค่าให้กับโลกของอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงยา ในอนาคต Kirin Group จะยังคงใช้จุดแข็งต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่าทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจผ่านธุรกิจของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนในค่านิยมขององค์กร

* การสร้างคุณค่าร่วมกัน: รวมมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้บริโภคและสังคมโดยรวม

เกี่ยวกับ Kao Corporation

Kao สร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงซึ่งให้การดูแลและเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของทุกคนและโลกใบนี้ ด้วยผลงานของแบรนด์ชั้นนำกว่า 20 แบรนด์ เช่น Attack, Bioré, Goldwell, Jergens, John Frieda, Kanebo, Laurier, Merries และ Molton Brown โดย Kao เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนในเอเชีย โอเชียเนีย อเมริกาเหนือ และยุโรป Kao สร้างยอดขายต่อปีได้ประมาณ 1,420 พันล้านเยน เมื่อรวมกับธุรกิจเคมีภัณฑ์ซึ่งมีส่วนช่วยในหลากหลายอุตสาหกรรม Kao มีพนักงานประมาณ 33,500 คนทั่วโลกและมีประวัติยาวนานถึง 135 ปีในด้านนวัตกรรม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ Kao Group สำหรับข้อมูลล่าสุด https://www.kao.com/global/en/

Kao Group ได้กำหนดกลยุทธ์ ESG ของ Kirei Lifestyle Plan ในเดือนเมษายน ปี 2019 และในปี 2021 Kao ได้เปิดตัวแผนระยะกลางปี ​​2025 (K25) ซึ่งประกาศว่า "การปกป้องชีวิตในอนาคต" และการส่งเสริมให้ "ความยั่งยืนเป็นหนทางเดียว" เป็นวิสัยทัศน์ของบริษัท Kao Group จะยังคงรวมกลยุทธ์ ESG เข้ากับแนวทางการจัดการ นอกจากนี้ยังจะพัฒนาธุรกิจ จัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นสำหรับผู้บริโภคและสังคม และทำงานตามวัตถุประสงค์ "เพื่อให้เกิดโลก Kirei ที่ทุกชีวิตอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนสมานฉันท์"

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Press Contact
Corporate Communication Department Kirin Holdings Company, Limited
Nakano Central Park South, 4-10-2 Nakano, Nakano-ku, Tokyo
https://www.kirinholdings.com/en/
kirin-cc@kirin.co.jp

Corporate PR, Corporate Strategy, Kao Corporation
1-14-10, Nihonbashi Kayabacho, Chuo-ku, Tokyo
https://www.kao.com/global/en/
corporate_pr@kao.com

แหล่งข้อมูล: Kirin Holdings Company, Limited

เป้าหมายการลดคาร์บอนของ CEMEX ตรวจสอบโดย SBTi เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะโลกร้อน 1.5ºC

Logo

  • CEMEX เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ทั่วโลกที่ตรวจสอบเป้าหมายการลดคาร์บอนในปี 2030 ผ่าน SBTi เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะโลกร้อน 1.5ºC
  • เป้าหมายของ CEMEX เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ทะเยอทะยานที่สุดในอุตสาหกรรม

มอนเตร์เรย์, เม็กซิโก–(BUSINESS WIRE)–10 พฤศจิกายน 2022

CEMEX, S.A.B. de C.V. (“CEMEX”) ประกาศวันนี้ว่า ตนเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ทั่วโลกที่ตรวจสอบเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนในปี 2030 ผ่านโครงการ Science Based Targets (SBTi) เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะโลกร้อน 1.5ºC ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีความทะเยอทะยานที่สุดที่กำหนดไว้สำหรับอุตสาหกรรมนี้ การตรวจสอบนี้ประกอบด้วยเป้าหมายขอบเขต 1, 2 และ 3

CEMEX ผู้ผลิตคอนกรีตรายใหญ่ที่สุดของโลกตะวันตกและเป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิตปูนซีเมนต์ เร่งความพยายามในการกำจัดคาร์บอนผ่านโครงการ Future in Action ในปี 2021 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและมีการหมุนเวียนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักในการเป็นบริษัทที่มี CO2  สุทธิเท่ากับศูนย์ ตั้งแต่นั้นมา บริษัทก็ประสบความสำเร็จในการลด CO2  ซึ่งเป็นการทำลายสถิติ และผลการดำเนินงานจนถึงปัจจุบันทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่เร็วขึ้นสำหรับปี 2030

Fernando A. González ซีอีโอของ CEMEX กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคเรา และอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างต้องเป็นคนแรกๆ ที่เริ่มกำจัดคาร์บอนให้กับสิ่งแวดล้อมที่สร้างขึ้น" “เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำบนเส้นทางสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์โดยอาศัยนวัตกรรมที่พัฒนาอยู่ตลอดและเป้าหมายเชิงรุกที่ได้รับการสนับสนุนจากความก้าวหน้าที่มีความหมายและวัดผลได้ การตรวจสอบความถูกต้องของ SBTi เป็นหลักฐานที่ชัดเจนในเรื่องนี้ เรากำลังลดการปล่อยคาร์บอนในทุกส่วนของห่วงโซ่คุณค่าของเราโดยอาศัยโครงการ Future in Action และจัดหาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นส่วนหนึ่งของวิธีแก้ปัญหานี้”

Luiz Amaral ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโครงการ Science Based Targets กล่าวว่า "วิทยาศาสตร์ภูมิอากาศบอกว่าเราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็วและมหาศาล หากเราต้องการบรรลุเป้าหมายที่โลกการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์" “ปัจจุบันหลายบริษัทเริ่มลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าตามหลักวิทยาศาสตร์ และกำลังมีส่วนร่วมในการจำกัดไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 °C และ CEMEX ก็เป็นหนึ่งในนั้น”

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายของ CEMEX ที่ www.cemex.com/sustainability/future-in-action

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SBTi ที่www.sciencebasedtargets.org

CEMEX (NYSE: CX) เป็นบริษัทวัสดุก่อสร้างระดับโลกที่กำลังสร้างอนาคตที่ดีกว่าผ่านผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ยั่งยืน CEMEX มุ่งมั่นที่จะทำให้บริษัทบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่านนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง รวมถึงการวิจัยและการพัฒนาระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม CEMEX เป็นแนวหน้าของเศรษฐกิจหมุนเวียนในห่วงโซ่มูลค่าการก่อสร้าง และเป็นผู้บุกเบิกวิธีเพิ่มการใช้ของเสียและกากของเสียเป็นวัตถุดิบ และเชื้อเพลิงทางเลือกในดำเนินกิจการด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ CEMEX มีโซลูชั่นด้านปูนซีเมนต์ คอนกรีตผสมเสร็จ วัสดุผสม และการสร้างเมืองในประเทศที่กำลังเติบโตทั่วโลก ขับเคลื่อนโดยแรงงานข้ามชาติที่มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแก่ลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่: cemex.com

CEMEX ไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าตามความหมายของกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา CEMEX ตั้งใจให้ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อยู่ภายใต้บทบัญญัติด้านความปลอดภัยสำหรับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้สะท้อนถึงความคาดหวังและการคาดการณ์ในปัจจุบันของ CEMEX เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคตโดยอิงจากความรู้ของ CEMEX เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและสถานการณ์ในปัจจุบัน และสมมติฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต ตลอดจนแผนปัจจุบันของ CEMEX ตามข้อเท็จจริงและสถานการณ์ดังกล่าว ข้อความเหล่านี้จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมากจากที่ CEMEX คาดหวัง เนื้อหาของข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรตีความข้อมูลดังกล่าวหรือเนื้อหาอื่นใด เช่น คำแนะนำทางกฎหมาย ภาษี การลงทุน การเงิน หรือคำแนะนำอื่นๆ CEMEX จะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาของเว็บไซต์หรือหน้าเว็บของบุคคลที่ 3 ที่อ้างอิงหรือเข้าถึงได้ผ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

สื่อประชาสัมพันธ์
Jorge Pérez
+52 (81) 8259-6666
jorgeluis.perez@cemex.com

นักวิเคราะห์และนักลงทุนสัมพันธ์
Alfredo Garza / Fabián Orta
+1 (212) 317-6011
+52 (81) 8888-4327
ir@cemex.com

แหล่งข้อมูล: CEMEX, S.A.B. de C.V.

เปิดตัวรถบรรทุกรุ่นใหม่จาก Dongfeng KL, KR ในประเทศเวียดนาม สู่การเดินทางครั้งใหม่ในต่างแดน

Logo

ดานัง เวียดนาม –(BUSINESS WIRE)–9 พฤศจิกายน 2022

วันที่ 4 พฤศจิกายน ปี 2022 Dongfeng จัดงานประชุมเปิดตัว DONGFENG KL และ DONGFENG KR อย่างยิ่งใหญ่ในเมืองดานัง ประเทศเวียดนามซึ่งเป็นสถานที่เปิดตัวรถบรรทุกทั้งสองรุ่น

Dongfeng New Trucks KL, KR Unveiled in Vietnam

รถบรรทุกรุ่นใหม่ของ Dongfeng รุ่น KL, KR เปิดตัวในประเทศเวียดนาม

เวียดนามเป็นพันธมิตรสำคัญของ "ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" และเป็นตลาดต่างประเทศที่สำคัญต่อ Dongfeng อย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาถึงลักษณะของตลาดเวียดนามและความต้องการของลูกค้าอย่างถี่ถ้วน จึงทำให้ Dongfeng ได้อัปเกรดเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ การตลาด และการบริการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดตัว DONGFENG KL กับ DONGFENG KR ที่ปรับโฉมใหม่หมดเพื่อให้มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ ราคาประหยัด มีประสิทธิภาพ ชาญฉลาด และสะดวกสบายเหมาะสมกับตลาดเวียดนาม

หลังพิธีเปิดตัว ตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าได้ทดลองขับและสัมผัสประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ของรถบรรทุกจาก Dongfeng อย่างใกล้ชิด ทุกคนต่างชื่นชมงานออกแบบที่ยึดผู้ใช้งานเป็นสำคัญ ความสะดวกในการใช้งาน และความสบายในการขับขี่รถโดยผ่านประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว

หลังจากทดลองขับจริงแล้วผู้จัดการตัวแทนจำหน่ายของภูมิภาคกลางและภาคเหนือในประเทศเวียดนามกล่าวว่ารถบรรทุกจาก Dongfeng แพลตฟอร์มใหม่นี้ไม่เพียงแต่ทำให้ทุกคนได้สัมผัสรูปโฉมที่สดใหม่เท่านั้น แต่ยังยกระดับความสะดวกในการใช้งานและความสบายในการขับขี่ของแพลตฟอร์มควบคุมส่วนกลางของห้องผู้ขับ โดยเครื่องยนต์กำลังสูงที่ติดตั้งมากับตัวรถนั้นตอบโจทย์ความต้องการด้านโลจิสติกส์ของรถบรรทุกและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ในประเทศเวียดนามได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ตัวแทนจำหน่ายมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณในการขายรถบรรทุกจาก Dongfeng ในอนาคต

นอกจากนี้ Dongfeng ยังคงเสริมความแข็งเกร่งให้กับกลยุทธ์ “ซอฟต์พาวเวอร์” ของแบรนด์และวางแผนชุดการส่งเสริมแบรนด์ฉบับแปลเป็นภาษาต่างๆ และกิจกรรมประชาสัมพันธ์ต่างๆ ต่อไป ซึ่งรวมถึงการโฆษณาทางโทรทัศน์ การโฆษณาบนป้ายโฆษณาบนท้องถนน รวมถึงโลโก้ VI แบบผสมผสานอีกด้วย

ในอนาคตทาง Dongfeng จะเจาะลึกลงในตลาดเวียดนามต่อไป พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพของยานพาหนะให้สอดคล้องกับการผันผวนของตลาดอย่างสม่ำเสมอ และบรรลุถึงความก้าวหน้าในกลุ่มตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ขั้นสูงรวมทั้งให้บริการในระดับมืออาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าจึงเล็งเห็นถึงความยอดเยี่ยมในผลิตภัณฑ์แพลตฟอร์มใหม่ของ Dongfeng ทั้งในด้านรูปลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ และราคาที่จับต้องได้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ช่องทางการติดต่อ

China Dongfeng Motor Industry Imp. & Exp. Co. Ltd
Fan Shaoyang
อีเมล: gjb-fansy@dfmc.com.cn
เว็บไซต์: http://www.dongfeng-global.com/
ประเทศ: China

แหล่งที่มา: China Dongfeng Motor Industry Imp. & Exp. Co. Ltd

Gradiant ได้รับสัญญามูลค่ามากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายนเพื่อให้บริการแก่อุตสาหกรรมที่สำคัญทั่วโลก

Logo

ลูกค้าอุตสาหกรรมโลกทั่วโลกกำลังใช้ชุดเทคโนโลยีเต็มรูปแบบของ Gradiant เพื่อนำความยั่งยืนมาสู่ห่วงโซ่อุปทานของพวกเขา

บอสตัน–(บิสิเนส ไวร์)–11 พฤศจิกายน. 2565

Gradiant ผู้ให้บริการโซลูชั่นน้ำระดับโลก ประกาศสัญญามูลค่ารวมกว่า 30 ล้านดอลลาร์ เงินทุนนี้มาจากสัญญากับลูกค้าเจ็ดรายที่ได้รับในเดือนกันยายน ประกอบด้วยบริษัทข้ามชาติด้านในเซมิคอนดักเตอร์ (สำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์) บริษัทอุปกรณ์ป้องกันทางอุตสาหกรรม (ออสเตรเลีย) อาหารและเครื่องดื่ม (เบลเยียมและสหรัฐอเมริกา) เภสัชกรรม (อินเดีย) และโครงสร้างพื้นฐาน (ออสเตรเลีย)  Gradiant จะปรับใช้โซลูชันด้านการบริหารน้ำขั้นสูงและการบำบัดน้ำเสียเพื่อให้ลูกค้าอุตสาหกรรมเหล่านี้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ลดต้นทุนการดำเนินงาน และรับรองความต่อเนื่องทางธุรกิจ

Gradiant จะออกแบบ-สร้างโรงบำบัดน้ำเสียสำหรับโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์แห่งใหม่ในสิงคโปร์ โดยจะจัดส่งตามกำหนดการเร่งรัดเพื่อให้การผลิตชิปสามารถเริ่มต้นได้ในต้นปี 2566 โปรเจ็กต์นี้รวม RO Infinity สำหรับน้ำบริสุทธิ์พิเศษและการสกัดสารปนเปื้อน Selective Contaminant เพื่อบำบัดและแยกของเสียที่ซับซ้อนเพื่อให้ได้การกู้คืนมากกว่า 80% ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมสำหรับโรงงานผลิตแผ่นเวเฟอร์ของสิงคโปร์มีอัตราการรีไซเคิลที่ 43%

โครงการที่สองมีไว้สำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์ป้องกันอุตสาหกรรมชั้นนำ โครงการนี้ตั้งอยู่ที่พื้นที่สีเขียวในอินเดีย ซึ่ง Gradiant จะส่งระบบบำบัดน้ำเสียและกำจัดของเสียเป็นศูนย์ (ZLD)  โรงงานดังกล่าวจะมีคุณลักษณะ Carrier Gas Extraction (CGE) ของ Gradiant สำหรับ ZLD และ SmartOps สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของสินทรัพย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพแบบเมมเบรน (membrane biological reactor – MBR) สำหรับการบำบัดน้ำเสียขั้นสูง  นอกเหนือจากวิศวกรรมและการจัดหาระบบแล้ว Gradiant จะจัดให้มีการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานอย่างครอบคลุมให้แก่พนักงานลูกค้าก่อนที่โรงงานเริ่มดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปี 2566

"เราภูมิใจที่ลูกค้าจำนวนมากขึ้นทั่วโลกกำลังนำโซลูชันของ Gradiant มาใช้เพื่อปรับปรุง ประสิทธิภาพการดำเนินงานและต้นทุนของสิ่งอำนวยความสะดวก และการลดการปล่อยคาร์บอนและน้ำ” Prakash Govindan ซีโอโอของ Gradiant กล่าว “รางวัลโครงการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่น่าสนใจของเทคโนโลยีเต็มรูปแบบของ Gradiant เรายังคงเติบโตต่อไปด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่สมบูรณ์สำหรับแอพพลิเคชั่นอุตสาหกรรมที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง”

Gradiant ยังได้รับสัญญาสำหรับ:

  • การบำบัดน้ำที่โรงเบียร์ในแอฟริกาสำหรับลูกค้าด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ติดอันดับ Fortune 500
  • การบำบัดน้ำที่โรงงานผลิตยาในมาเลเซียสำหรับลูกค้าที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
  • การบำบัดน้ำเสียและการกำจัดสารอินทรีย์ในอัตราสูงที่โรงงานผลิตส่วนผสมอาหารในประเทศมาเลเซียสำหรับลูกค้าที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
  • โครงการบำบัดน้ำเสียสองโครงการสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่โดยหน่วยงานรัฐบาลของรัฐนิวเซาท์เวลส์ (ออสเตรเลีย)

“ด้วยการร่วมมือกับ Gradiant ลูกค้าอุตสาหกรรมทั่วโลกสามารถนำความยั่งยืนมาสู่การดำเนินงานและห่วงโซ่อุปทานของพวกเขา” Govind Alagappan ประธานฝ่ายปฏิบัติการระดับโลกของ Gradiant กล่าว “เรามุ่งเน้นที่การบำบัด เพิ่มประสิทธิภาพ และการจัดการน้ำทุกอย่าง Gradiant จะพยายามช่วยเหลืออุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกเพื่อทำให้ชีวิตของผู้คนปลอดภัยขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น และดีขึ้น”

เกี่ยวกับ Gradiant

Gradiant เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นระดับโลกสำหรับการบำบัดน้ำเสียขั้นสูง ด้วยชุดโซลูชั่นแบบ end-to-end ที่แตกต่างและเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Gradiant ที่ขับเคลื่อนโดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ  Gradiant ให้บริการแก่ลูกค้าในการดำเนินงานที่สำคัญต่อภารกิจในอุตสาหกรรมที่สำคัญของโลก  Gradiant ก่อตั้งขึ้นที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ซ้ำใครในการจัดการกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของโลกที่เกิดจากอุตสาหกรรม การเติบโตของประชากร และความต้องการทางน้ำ  ปัจจุบัน Gradiant มีพนักงานมากกว่า 450 คน ดำเนินงานจากสำนักงานใหญ่ระดับโลกในบอสตัน มีสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค และห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีระดับโลกในสิงคโปร์ และสำนักงานใน 12 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยม www.gradiant.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220927005112/en/

ติดต่อองค์กร:
Felix Wang
รองประธานฝ่ายการตลาด Gradiant
fwang@gradiant.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

upGrad เปิดตัว 10 วิทยาเขตทั่วโลก ตั้งเป้าจ้างดุษฎีบัณฑิต 1,000 คน

Logo

บริษัทตั้งเป้าที่จะพิชิต Indian Edtech Global โดยการสร้างสถาบันเทคโนโลยีอุบัติใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ATLANTA–(BUSINESS WIRE)–7 พฤศจิกายน 2022

Edtech major และบริษัทการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย upGrad ได้ประกาศย่างก้าวที่ยิ่งใหญ่ในการศึกษาระดับอุดมศึกษาแบบออฟไลน์ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ UGDX” ซึ่งย่อมาจาก upGrad ที่ผลักดันเทคโนโลยีดิจิทัลอุบัติใหม่อย่างมหาศาล ปัจจัย "X" ของ UGDX ได้รับการเพิ่มเข้ามาโดย Data Science ที่เพิ่งได้รับมา, AI, สถาบันออฟไลน์ที่เน้น ML – INSOFE

ด้วยการลงทุน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ UGDX จะเปิดสถาบัน 10 แห่งในปีหน้า โดยมี 3 แห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสถาบันในซานฟรานซิสโกจะเปิดให้บริการในเดือนมกราคม ปี 2023 และ 5 แห่งในอินเดียทั่วเดลีและเจนไนเพื่อเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่ในมุมไบ ไฮเดอราบัด และบังกาลอร์ ส่วนในสิงคโปร์และตะวันออกกลางจะมีที่ละ 1 สถาบัน

UGDX มีกำหนดจะถึงจุดคุ้มทุนในการดำเนินงานใน 5 (ห้า) ไตรมาสจากการเปิดตัว แผนดังกล่าวยังมีการรับสมัครคณาจารย์ในพื้นที่ต่าง ๆ และจะต้องใช้เทคโนโลยีเพื่อรวมวิทยาเขต คณาจารย์ และองค์กรเข้าด้วยกันอย่างราบรื่นภายในระบบนิเวศเดียว UGDX เชี่ยวชาญในด้าน AI, Machine Learning, Cybersecurity, Blockchain, Connected Devices, IOT, Quantum Computing, Digital Management, Leadership courses และ The Cloud และจะนำเสนอหลักสูตรประกาศนียบัตร ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกในสาขาเหล่านี้

“ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายของเราที่จะกลายเป็นบริษัท Higher Edtech แบบบูรณาการเต็มรูปแบบแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งครอบคลุมผู้เรียนในวิทยาลัยและผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงานตั้งแต่อายุ 18 ถึง 60 ปีขึ้นไป นี่เป็นการขยับขยายตามธรรมชาติเมื่อเราเปลี่ยนไปใช้ระบบออฟไลน์และออนไลน์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวภายใต้แบรนด์ upGrad ของเราเอง” กล่าวโดย Ronnie Screwvala ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน upGrad

“โปรแกรม Work-Integrated Education ของ UGDX มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและแตกต่างจากมหาวิทยาลัยทั่วไป DNA ของเราจะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรม และเรากำลังสร้างโปรแกรมที่จะเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาช่วยพลิกโฉมองค์กรต่าง ๆ การมีส่วนร่วมที่หลากหลายกับการเชื่อมต่อในอุตสาหกรรมจะช่วยให้ผู้เรียนของเรามีประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงตั้งแต่วันแรก โปรแกรมทั้งหมดของเรามีจำนวนโครงการรวบยอดความรู้จากการปฏิบัติเข้ากับหลักฐานเชิงประจักษ์ (capstone) และงานโครงการอย่างน้อยสองเท่าเมื่อเทียบกับโปรแกรมดั้งเดิม” กล่าวโดย ดร. Dakshinamurthy Kolluru ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ upGrad INSOFE ผู้ที่จะเป็นผู้นำของ UGDX ทั้งนี้ เขากล่าวเพิ่มเติมว่า "UGDX ทุกแห่งจะมีหน่วยบ่มเพาะเพื่อลงทุนในทรัพย์สินทางปัญญาและส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่เพื่อกำหนดแนวคิดและสร้างสิทธิบัตรซึ่งจะได้รับการพัฒนาและเลี้ยงดูภายในสถาบันเอง"

ดร. Sridhar Pappu ประธาน UGDX กล่าวว่า "ในฐานะสถาบันชั้นนำ ผลกระทบต่อผู้เรียนและสังคมโดยรวมนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเรา ดังนั้น คณาจารย์ที่ UGDX จะทำงานร่วมกับวิทยาลัยหลายแห่งในพื้นที่ใกล้เคียง และออกแบบโปรแกรมพัฒนาคณาจารย์ โปรแกรมอบรมเพื่อจุดประสงค์เฉพาะ (bootcamp) และโรงเรียนภาคฤดูร้อนฟรีสำหรับนักศึกษาที่ด้อยโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในทุกระดับ”

เกี่ยวกับ upGrad

upGrad เริ่มต้นในปี 2015 เป็นผู้บุกเบิกการปฏิวัติการศึกษาออนไลน์ โดยมุ่งเน้นที่การขับเคลื่อนความสำเร็จในอาชีพให้กับคนทำงานทั่วโลกกว่า 1.3 พันล้านคน เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) แบบบูรณาการไม่กี่แห่งในโลก ซึ่งครอบคลุมผู้เรียนในระดับวิทยาลัยไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงานตั้งแต่กลุ่มอายุ 18-50 ปีและข้ามหลักสูตรระดับปริญญาตรี, หลักสูตร Campus & Job Linked, การศึกษาต่อต่างประเทศ, หลักสูตรระยะสั้นสำหรับหลักสูตรผู้บริหาร ไปจนถึงระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ด้วยฐานผู้เรียนมากกว่า 3 ล้านคนในกว่า 100 ประเทศและพันธมิตรมหาวิทยาลัยมากกว่า 300 รายและธุรกิจองค์กรที่แข็งแกร่งพร้อมฐานลูกค้ากว่า 1,000 บริษัททั่วโลก

Global Learning Engine ของ upGrad ตั้งอยู่บนสี่เสาหลักดังนี้ (ก) พื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ของเนื้อหาต้นฉบับที่เป็นเจ้าของและ IP, (ข) แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน, (ค) บริการจัดส่งแบบไฮทัชที่นำโดยคน ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยโค้ชและพี่เลี้ยง และ (ง) สถิติความสำเร็จของหลักสูตร 85% โดยได้รับการสนับสนุนจากผลงานอีก 80% ที่รับประกันประสิทธิภาพ

เรียกได้ว่าเป็นผู้นำด้าน EdTech ระดับสูงของเอเชียแล้ว โดยมีสำนักงานในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง อินเดีย สิงคโปร์ และเวียดนาม และมีสำนักงานอยู่ในอีกหลายประเทศ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Pragya Jha, upGrad, pragya.jha@upgrad.com

แหล่งข้อมูล: upGrad

The Bangkok Reporter