Watts Partners และมูลนิธิ Planet Water มอบน้ำสะอาดให้ประเทศไทย

Logo

พนักงานและลูกค้าของ Watts ได้สร้างอาคาร “AquaTowers” ณ โรงเรียนสองแห่งในจังหวัดสระแก้ว

นอร์ธอันโดเวอร์, แมสซาชูเซตส์–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2562

เมื่อไม่นานมานี้ Watts Water Technologies, Inc. (NYSE: WTS) ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชันระบบท่อ ระบบทำความร้อนและคุณภาพน้ำ ได้มอบเงินทุนสนับสนุนและช่วยติดตั้งระบบกรองน้ำสองแห่งเพื่อผลิตน้ำดื่มสะอาดให้กับเด็กและครอบครัวในจังหวัดสระแก้ว ประเทศไทย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหาในรูปแบบมัลติมีเดีย ดูเนื้อหาแบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190916005027/en/

Watts employees, customers and Planet Water recently built two “AquaTowers” at two schools in Sa Kaeo that collectively provide 2,000 people with 20,000 liters of clean water daily. (Photo: Business Wire)

เมื่อเร็ว ๆ นี้ พนักงานและลูกค้าของ Watts และ Planet Water ได้สร้างอาคาร “AquaTowers” ณ โรงเรียนสองแห่งในจังหวัดสระแก้ว เพื่อผลิตน้ำดื่มสะอาด 20,000 ลิตรต่อวันให้กับประชาชนราว 2,000 คน (รูปภาพ: Business Wire)

ด้วยความร่วมมือกับ มูลนิธิ Planet Water ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรจากสหรัฐอเมริกาและทำงานเพื่อส่งมอบน้ำสะอาดให้กับชุมชนที่ขาดแคลนทั่วโลก พนักงานของ Watts ได้ร่วมกับลูกค้าทั้งหมดห้าราย สร้างอาคาร “AquaTowers” ณ โรงเรียนสองแห่งในจังหวัดสระแก้ว โดยอาคารดังกล่าวจะกรองอนุภาคที่เป็นอันตราย แบคทีเรีย และไวรัสต่าง ๆ ออกจากน้ำ และผลิตน้ำสะอาดที่ปริมาณ 10,000 ลิตรต่อวันให้กับประชาชนราว 1,000 คน

“เราภูมิใจอย่างมากที่ได้สนับสนุนบุคลากรที่มีความสามารถและทรัพยากรที่อยู่เบื้องหลังความพยายามของ Planet Water ในการยุติปัญหาการขาดแคลนน้ำทั่วโลกให้แต่ละชุมชน” Robert J. Pagano, Jr. ซีอีโอและประธานของ Watts กล่าว

พนักงานของ Watts จากสำนักงานในนอร์ธอันโดเวอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา กรุงเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และกรุงโซล ประเทศเกาหลี ได้ร่วมกับอาสาสมัครจากบริษัท ITP Power ในประเทศไทย สร้างอาคารกรองน้ำสองแห่ง ณ โรงเรียนบ้านสองแก และโรงเรียนบ้านวังแดง

Watts ผนึกกำลังกับ Planet Water ครั้งแรกในปี 2559 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา องค์กรทั้งสองได้มอบน้ำสะอาดให้กับประชาชนราว 15,000 คนในประเทศกัมพูชา จีน โคลอมเบีย อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเปอร์โตริโก

เรียนรู้เกี่ยวกับโครงการด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ของ Watts เพิ่มเติมได้ที่ รายงานความยั่งยืน และ เว็บไซต์ ของบริษัท

เกี่ยวกับ Watts Water Technologies

Watts Water Technologies, Inc. เป็นผู้ผลิตระดับโลกที่ประกอบด้วยเครือข่ายบริษัทต่าง ๆ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา และเป็นเจ้าของไลน์ผลิตภัณฑ์สินค้าระบบท่อ ระบบทำความร้อน และระบบคุณภาพน้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก บริษัทและแบรนด์ในเครือ Watts Water เป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้านระบบท่อ ระบบทำความร้อน และระบบคุณภาพน้ำที่ทันสมัยเพื่อการใช้งานในที่พักอาศัย การพาณิชย์และอุตสาหกรรม บริษัทมีพนักงาน 4,800 คน ใน 24 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.watts.com

เกี่ยวกับ Planet Water Foundation

Planet Water Foundation เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มุ่งมั่นในการมอบน้ำสะอาดให้กับชุมชนที่ขาดแคลนทั่วโลก ด้วยการติดตั้งระบบกรองน้ำประจำชุมชน (AquaTowers) และเผยแพร่โครงการศึกษาด้านสุขลักษณะ โครงการภายใต้มูลนิธิ Planet Water ให้ความสำคัญกับเด็ก โรงเรียน และชุมชนห่างไกลและชุมชนชานเมืองทั่วเอเชียและลาตินอเมริกา ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา Planet Water ได้จัดตั้งโครงกว่าเกือบ 1,300 โครงการที่ได้มอบน้ำสะอาดกับผู้คนกว่าหนึ่งล้านคนใน 14 ประเทศ ผ่านองค์กรต่าง ๆ ที่ได้ร่วมมือกันเชิงยุทธศาสตร์ เช่น Xylem, Coca-Cola, Columbia Sportswear, Expedia, Starbucks, Watts Water Technologies และอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.planet-water.org

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190916005027/en/

ติดต่อ:

Andy Ravens
Watts Water Technologies
978-689-6136
andrew.ravens@wattswater.com


แถลงการณ์จาก The We Company

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)—17 ก.ย. 2562

The We Company (“บริษัท”) ได้ออกแถลงการณ์ดังต่อไปนี้:

“The We Company ตั้งตารอการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเราคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เราขอขอบคุณพนักงาน สมาชิก และพันธมิตรของเราสำหรับความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของพวกเขา”

การสื่อสารนี้ไม่ได้เป็นการเสนอขายหรือการเชิญชวนให้เสนอซื้อหลักทรัพย์ใด ๆ โดยข้อเสนอหรือการชักชวนที่จะให้ซื้อ หรือการขายหลักทรัพย์ใด ๆ จะถูกปฏิบัติตามข้อกำหนดการจดทะเบียนของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ปี 2476 แถลงการณ์การลงทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เหล่านี้ได้ถูกยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แต่ยังไม่มีผลบังคับ หลักทรัพย์เหล่านี้อาจไม่ถูกขายและไม่สามารถถูกเสนอให้ซื้อได้ก่อนเวลาที่การแถลงการณ์จดทะเบียนจะมีผลบังคับใช้ ท่านสามารถหาสำเนาหนังสือชี้ชวนเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขาย เมื่อมีการตีพิมพ์แล้วได้ที่ บริษัทของเรา ที่เลขที่ 115 ถนน 18 เวสต์ นิวยอร์ก, นิวยอร์ก 10011

ดูเวอร์ชันที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190916005948/en/

ติดต่อ:

Jimmy Asci / Gwendolyn Rocco

Press@we.co

เอ็กซอนโมบิลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Mobil EV™ สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

Logo

มาพร้อมคุณสมบัติที่จะยกระดับประสิทธิภาพของยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่

  • ผลิตภัณฑ์ Mobil EV™ ช่วยให้ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่เดินทางได้ไกลขึ้นหลังจากการชาร์จไฟ ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และมีระบบการทำงานที่ปลอภัยมากขึ้น
  • การเปิดตัวนี้เป็นการตอกย้ำความร่วมมือระหว่างเอ็กซอนโมบิลกับผู้รับจ้างผลิตในความมุ่งมั่นพัฒนายานยนต์ตามความต้องการของผู้บริโภค

แฟรงก์เฟิร์ต, เยอรมนี–(BUSINESS WIRE)–12 กันยายน 2562

วันนี้ เอ็กซอนโมบิลได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Mobil EV™ ครั้งแรกของโลกในงาน 2019 IAA ซึ่งประกอบด้วยชุดน้ำมันหล่อลื่นและจาระบีที่พัฒนาเพื่อตามมาตรฐานของระบบส่งกำลังสำหรับแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจำนวนของยานยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริดรวมกับยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่และยานยนต์ระบบพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงจะสูงเกิน 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนรถยนต์ขนาดเล็กทั่วโลกในปี 25831

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190912005285/en/

ExxonMobil announced the global launch of its Mobil EV™ offering, which features a full suite of fluids and greases designed to meet the evolving drivetrain requirements of battery electric vehicles. *Please refer to commercial product package for actual label, product data and specifications. (Photo: Business Wire)

เอ็กซอนโมบิลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชุด Mobil EV™ เป็นครั้งแรกของโลก มาพร้อมชุดน้ำมันหล่อลื่นและจาระบีที่พัฒนาให้ตรงกับความต้องการของระบบส่งกำลังที่ใช่ในยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ *โปรดดูป้ายสินค้าจริง ข้อมูลสินค้า และข้อมูลจำเพาะจากบรรจุภัณฑ์ของสินค้าสำหรับจำหน่าย (รูปภาพ: Business Wire)

“รูปแบบการเดินทางในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนไป และยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้ากำลังมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้” Russ Green รองประธานฝ่ายน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปแห่งเอ็กซอนโมบิล กล่าว “ลูกค้าและผู้รับจ้างผลิตต่างกำลังมองหาวิธีปรับปรุงประเภทและประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยของยานยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาให้ดีขึ้น และเอ็กซอนโมบิลอยู่ในจุดที่สามารถส่งมอบสิ่งเหล่านั้นได้ นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของโซลูชันด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่เราเตรียมพัฒนาเพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้นของลูกค้าเท่านั้น”

ด้วยการที่ถูกพัฒนาให้รองรับความต้องการยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าของทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้รถ Mobil EV จึงประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของโมเลกุลที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถันและรวมเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่สามารถเดินทางได้ไกลขึ้นหลังจากการชาร์จไฟ ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และมีระบบการทำงานที่ปลอภัยมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ชุด Mobil EV ครอบคลุมทุกการใช้งานของยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ ซึ่งประกอบด้วย:

  • Mobil EV Therm™ ชุดผลิตภัณฑ์น้ำมันจัดการความร้อน สำหรับช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบอิเล็กทรอนิกส์กำลัง
  • Mobil EV Drive™ ชุดผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องสำหรับเกียร์ลดความเร็วรอบในยานยนต์ไฟฟ้า พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยปกป้องเกียร์และตลับลูกปืนจากการเสื่อมสภาพ และยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น
  • Mobil EV Cool Drive™ ชุดผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นสำหรับเกียร์ลดความเร็วรอบในยานยนต์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์แบบวงจรรวม คิดค้นขึ้นช่วยเพิ่มความหล่อลื่นให้กับเกียร์และตลับลูกปืน พร้อมทั้งระบบระบายความร้อนที่จำเป็นสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กำลัง
  • Mobil EV Grease™ ผลิตภัณฑ์​เพื่อ​การ​ปกป้อง​ ประสิทธิภาพ​ และความ​น่า​เชื่อ​ถือ​ของอุปกรณ์​ใน​ยานยนต์​ไฟฟ้า​ประกอบ​ด้วย​ มอเตอร์​ไฟฟ้า​ ตลับ​ลูกปืน​และหัว​เพลา​ขับสำหรับการ​ขับขี่​ใน​สภาวะ​ต่าง​ ๆ

ด้วย​ชื่อเสียง​ที่​สะสม​มา​กว่า​ 135 ปี​ เอ็กซอนโมบิล​มี​ความ​มุ่งมั่น​ที่จะ​ใช้​ความ​เชี่ยวชาญ​ด้าน​เทคโนโลยี​น้ำมัน​และการ​จัด​การ​อุปกรณ์​ต่าง​ ๆ​ เพื่อ​ช่วย​ให้​ยานยนต์​และ​ผู้​ผลิต​ชิ้นส่วน​พัฒนา​ยานยนต์​ไฟฟ้า​ที่​จะ​มอบ​ประสบการณ์​การ​ขับขี่​ที่​เหนือกว่า​ให้​กับ​ลูกค้า

การ​เปิด​ตัว​ครั้ง​นี้​เกิดขึ้น​ไม่​นาน​หลัง​จาก​บริษัท​ได้​ขยาย ความ​เป็น​พันธมิตร​กับ​ปอร์เช่ เพื่อ​รวม​การ​แข่งขัน​รถยนต์​ฟอร์มูลา​อี​ฤดูกาล​ 2019 / 2020 ไว้​ใน​ข้อ​ตกลง​ด้วย​ ซึ่ง​นับ​เป็น​ครั้ง​แรก​ของ​เอ็กซอน​โม​บิล​กับ​การ​แข่งขัน​มอเตอร์​สปอร์ต​ประเภท​รถยนต์​ไฟฟ้า​​ โดย​เอ็กซอน​โม​บิล​จะ​เป็น​ผู้​สนับสนุน​น้ำมัน​หล่อ​ลื่น​ระบบ​ส่ง​กำลัง​ประสิทธิภาพ​สูง​สำห​รับ​ยานยนต์​ไฟฟ้า​ภาย​ใต้​แบรนด์​ Mobil ให้​กับ​รถยนต์​ปอร์เช่​ ซึ่ง​ผลิตภัณฑ์​ดังกล่าว​ถูก​พัฒนา​ขึ้น​ตามความต้องการของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนำไฟฟ้า ระบบทำความเย็นและความเข้ากันได้ของวัสดุ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่: www.mobilev.com

เกี่ยวกับเอ็กซอนโมบิล

เอ็กซอนโมบิล เป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก


1 2019 Outlook for Energy: A Perspective to 2040, ExxonMobil, 2019

ดูเนื้อหาต้นบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190912005285/en/

ติดต่อ:

สื่อมวลชนสัมพันธ์
832-625-4000


San Juan Mercantile Exchange เปิดให้ใช้ได้แล้วที่ Deltix CryptoCortex

Logo

นิวยอร์ก–((BUSINESS WIRE)–12 ก.ย. 2562

Deltix, Inc. ประกาศว่าตอนนี้แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล CryptoCortex ได้เชื่อมต่อกับ San Juan Mercantile Exchange (“ SJMX”) Dark Pool แล้ว โดยจากข้อมูลของ Deltix การเชื่อมต่อนี้จะให้บริการนายหน้า / ตัวแทนจำหน่าย cryptocurrency, OTC desks,  Market Maker และนักค้ากำไร ที่มีฟังก์ชั่นการซื้อขายที่เป็นเอกลักษณ์ระดับโลกในการเชื่อมต่อเข้ากับการซับมิตและการจัดการคำสั่งซื้อ SJMX Dark Pool ของพวกเขา

Deltix ได้ให้บริการด้านการวิจัยเชิงปริมาณ การวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาการค้าแบบอัลกอริทึมสำหรับหุ้นแบบ equities, futures, options และ forex มานานกว่า 12 ปี โดยแพลตฟอร์ม CryptoCortex ของ Deltix ซึ่งเปิดตัวในปี 2561 เป็นหนึ่งในระบบที่ทันสมัยที่สุดในโลกที่อนุญาตให้สร้างและสตรีมการสั่งซื้อแบบรวม (consolidated order book) การกำหนดเส้นทางสมาร์ท (smart order routing) การดำเนินการอัลโก (algo execution) การจัดการความเสี่ยงก่อนการค้าที่มีความยืดหยุ่นและระบบ TCA หลังทำการค้า เป็นต้น

SJMX เปิดตัวสินทรัพย์ดิจิตอล OTC Dark Pool ในเดือนเมษายน 2562 เพื่อจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้เข้าร่วมตลาดเชิงสถาบันในการซื้อและขายสินทรัพย์ cryptocurrency ทั้งนี้เมื่อรวมเข้ากับโซลูชั่นด้านการธนาคาร การดูแลและการชำระเงินที่นำเสนอโดยบริษัทในเครือของ SJMX อย่าง San Juan Mercantile Bank & Trust แล้ว ผู้ค้าจะสามารถใช้งานคำสั่งการทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิตอลและการดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เรามีความยินดีที่ผู้ค้า CryptoCortex สามารถเข้าถึง SJMX Dark Pool” ได้แล้ว Ilya Gorelik ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Deltix กล่าว “ ด้วยโซลูชั่นด้านการธนาคารและการดูแลที่ SJMBT มอบให้ การเชื่อมต่อในครั้งนี้จึงทำให้ลูกค้า CryptoCortex ของเรามีโซลูชั่นการซื้อขายครบวงจรที่ทรงพลัง”

“ CryptoCortex เป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและซับซ้อนของผู้เข้าร่วมตลาด” Bo Collins ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ SJMX และ SJMBT กล่าว “ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่ากับลูกค้าจากการเชื่อมต่อระหว่าง SJMX กับ CryptoCortex”

เกี่ยวกับ Deltix, Inc.

Deltix ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 โดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และนักคณิตศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการแก้ปัญหาเชิงปริมาณ ด้วยทีมงานที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ กว่า 70 ชีวิต Deltix ให้บริการซอฟต์แวร์และบริการสำหรับการวิจัยเชิงปริมาณ การซื้อขายอัลกอริธึม และการวิเคราะห์การดำเนินการในตลาดหุ้น ฟิวเจอร์ส ออปชั่น FX รายได้คงที่ และสินทรัพย์ดิจิตอลทั้งนี้ Deltix ให้บริการโซลูชั่นแก่บริษัทต่าง ๆ ด้านการซื้อและขายหลักทรัพย์และการแลกเปลี่ยน crypto สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเข้าไปดูที่ www.deltixlab.com.

เกี่ยวกับ SJMX และ SJMBT

San Juan Mercantile Exchange, Inc. (SJMX) และ San Juan Mercantile Bank & Trust International Corp. (SJMBT) บริษัทด้านการธนาคารในเครือ กำลังพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการค้าระดับมืออาชีพและแพลตฟอร์มธนาคารครบวงจรสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอลโดย Mercantile Global Holdings, Inc. (MGH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของSJMX และ SJMBT  จะให้บริการโซลูชั่นแบบตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มตั้งแต่การจับคู่การซื้อขายไปจนถึงการเคลียร์และการดูแลสินทรัพย์ดิจิตอลและสกุลเงิน fiat ด้วยการรวมทีมงานที่มีประสบการณ์ที่มาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแลกเปลี่ยนระดับสูง นักธนาคาร นักวิชาการ และบุคลากรด้านกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เหตุนี้จึงทำให้ SJMX และ SJMBT สามารถเสนอพื้นที่สินทรัพย์ดิจิตอลที่เทรดเดอร์มืออาชีพสามารถคาดหวังได้เช่นเดียวกับจากการแลกเปลี่ยนที่มีการควบคุมและธนาคาร สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม https://sjmx.global/หรือติดต่อบริษัทที่ info@sjmx.global.

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190911005821/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Stuart Farr, Deltix Inc.

sfarr@deltixlab.com

Joe Conlan, San Juan Mercantile Bank & Trust

joe conlan@sjmx.global

Hansoh Pharma และ Atomwise เปิดตัวความร่วมมือค้นคว้าตัวยาผ่านเทคโนโลยี AI เพื่อใช้ในการรักษาต่าง ๆ

Logo

Hansoh Pharma วางแผนประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสร้างโมเลกุลขนาดเล็กที่ดีที่สุดครั้งแรก

เซี่ยงไฮ้และซานฟรานซิสโก—(BUSINESS WIRE)–12 กันยายน 2562

Hansoh Pharmaceutical Group Company Limited (“Hansoh Pharma”) บริษัทชีวเภสัชกรรมชั้นนำในประเทศจีน และ Atomwise, Inc. (“Atomwise”) ผู้นำเทคโนโลยี AI เพื่อการค้นคว้ายารักษาโรค ประกาศความร่วมมือในการออกแบบและค้นหาชนิดตัวยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับโปรตีนเป้าหมายที่ยังไม่ระบุ 11 ตัวเพื่อการรักษาโรคหลากหลายชนิด

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190911005825/en/

ทีมนักวิทยาศาสตร์จาก Atomwise และ Hansoh Pharma จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด การผสมผสานกันระหว่างความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่มีให้จะมอบประสิทธิภาพในการช่วยเร่งให้โครงการนี้สำเร็จอย่างมหาศาล และจะย่นระยะเวลาการค้นคว้าหาตัวยาและการพัฒนาทางคลินิก

นายแพทย์ Aifeng Lyu ประธาน Jiangsu Hansoh Pharmaceutical Group Co., Ltd., บริษัทในเครือของ Hansoh Pharma กล่าวว่า “Atomwise เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เหมาะสมกับ Hansoh Pharma ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI และสร้างชนิดโมเลกุลขนาดเล็กสำหรับรักษาโรคเนื้องอกและโรคอื่น ๆ เรารู้สึกประทับใจในแพลตฟอร์มและประสิทธิภาพของ AI และทีมของ Atomwise จากการทำงานร่วมกัน เราเชื่อว่าเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาการรักษาที่ดีที่สุดครั้งแรก”

Dr. Abraham Heifets ซีอีโอ Atomwise กล่าวเสริมว่า “Hansoh Pharma ให้พันธสัญญาสำคัญในการสร้างนวัตกรรมและปฏิบัติภารกิจเพื่อเปลี่ยนโลกการดูแลสุขภาพของผู้ป่วย”

แพลตฟอร์ม AI ระดับโลกของ Atomwise สำหรับการออกแบบตัวยาตามโครงสร้างจะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ เป็นตัวเลือกอันดับต้น และเป็นความพยายามในการบุกเบิก Hansoh Pharma จะมอบศักยภาพการทดสอบทางชีววิทยาและเคมีเพื่อการรักษา รวมทั้งบุกเบิกกิจกรรมการพัฒนาในระดับพรีคลินิกและคลินิกต่าง ๆ

ภายใต้ข้อกำหนดของความร่วมมือ Atomwise จะได้รับค่าธรรมเนียมการใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เปิดเผย ค่าธรรมเนียมการทดลอง ค่าลิขสิทธิ์ และรายได้จากการออกใบอนุญาตหรือการขายทรัพย์สินที่เกิดจากความร่วมมือ จากรายได้เฉลี่ยในประวัติศาสตร์สำหรับตัวยาโมเลกุลขนาดเล็ก มูลค่าทั้งหมดจากการทำสัญญากับ Atomwise ที่ประสบผลสำเร็จทั้งหมดนับเป็นผลพลอยได้ Hansoh Pharma จะได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาและดำเนินการค้าในทุกสาขาและภูมิภาค

เกี่ยวกับ Hansoh Pharma

Hansoh Pharma (3692:HK) บริษัทชีวเภสัชกรรมชั้นนำในประเทศจีนที่อุทิศตนเพื่อค้นหาและพัฒนาตัวยาที่เปลี่ยนชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้พ้นจากอาการโรคร้ายแรง ปัจจุบันมีพนักงานราว 8,900 คน Hansoh ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 มีระบบการวิจัยและพัฒนา ศักยภาพการผลิตและค้าขายแบบครอบคลุม ช่วยส่งเสริมความเป็นผู้นำการรักษาระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) โรคเนื้องอก โรคเบาหวานและยาต้านการติดเชื้อ และอื่น ๆ จากผู้เชี่ยวชาญราว 1,400 คนในแผนกการวิจัยและพัฒนา Hansoh ถูกจัดอันดับที่ 2 เป็นบริษัทนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีววิทยาและเภสัชกรรมในประเทศจีนสำหรับโมเลกุลที่ใช้ผลิตยาชนิดใหม่เพื่อการพัฒนาระดับคลินิกตั้งแต่ปี 2554 รายได้ของบริษัท Hansoh Pharma ในปี 2018 อยู่ราว 11,000 ล้านดอลล่าร์ เติบโตปีต่อปี 25% สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมที่ www.hspharm.com

เกี่ยวกับ Atomwise

Atomwise, Inc. นำเทคโนโลยี AI มาศึกษาค้นคว้าตัวยาโมเลกุลขนาดเล็กตามโครงสร้าง ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน Atomwise ร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทด้านเภสัชกรรมและเคมีเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลมากกว่าร้อยแห่งใน 19 ประเทศเพื่อจัดทำโครงการหลายร้อยโครงการต่อปี Atomwise ได้ระดมเงินกว่า 50 ล้านดอลล่าร์จากบริษัทลงทุนชั้นนำเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190911005825/en/ 

ติดต่อ:

Hansoh Pharma

ชื่อ​: Paul Lu

อีเมล​: communications@hspharm.com

Atomwise

ชื่อ: Sara Dunn

อี​เมล: SDunn@jpa.com

สถาบันสอนประกอบอาหารญี่ปุ่นเปิดตัวเว็บไซต์ japanese-cuisine.com พร้อมเนื้อหาดึงดูดและโปรแกรมอี-เลิร์นนิงสำหรับการโปรโมตอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ

Logo

เกียวโต, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–10 กันยายน 2562

สถาบันสอนการประกอบอาหารญี่ปุ่น หรือ Japanese Culinary Academy ซึ่งตั้งอยู่ในเกียวโต มีนาย Yoshihiro Murata เป็นผู้อำนวยการ และดูข้อมูลทางออนไลน์ได้ที่ https://culinary-academy.jp/english ได้ร่วมกับ Blue Magic, Inc. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในโตเกียว มีนาย Yukiko Akimoto เป็นซีอีโอ และดูข้อมูลทางออนไลน์ได้ที่ https://bluemagic.co.jp/ เพื่อรวมกันพัฒนาโปรแกรมอี-เลิร์นนิงเพื่อสอนวัฒนธรรมและเทคนิคในการประกอบอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ โดยได้เริ่มให้บริการทั่วโลกไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190910005448/en/

อาหารญี่ปุ่นกำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ขณะที่จำนวนภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบัน มีภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นมากกว่า 120,000 แห่งทั่วโลก

สถาบันสอนประกอบอาหารญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น จะส่งผู้สอนไปยังงานสัมมนาเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นที่จัดขึ้นทั่วโลก รับนักเรียนจากประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการเรียนการประกอบอาหารญี่ปุ่นในญี่ปุ่น และเผยแพร่บทความเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ

สถาบันสอนการประกอบอาหารญี่ปุ่นเป็นองค์กรที่ได้รับการรับรองตามที่ระบุไว้ในแนวทางรับรองทักษะการประกอบอาหารญี่ปุ่นนอกประเทศญี่ปุ่นโดยกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมงของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 และได้พัฒนาโปรแกรมอีเลิร์นนิงสำหรับเผยแพร่ทางเว็บไซต์ japanese-cuisine.com เพื่อสอนวัฒนธรรมและเทคนิคการประกอบอาหารญี่ปุ่นที่ถูกต้องให้ผู้สนใจสามารถเรียนรู้ได้จากทุกมุมโลกตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเนื้อหาครอบคลุมความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการรับรองระดับบรอนซ์ หรือ the Bronze Certification ตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนดขึ้น

เว็บไซต์ของโปรแกรมอยู่ที่ https://japanese-cuisine.com

สถาบันสอนการประกอบอาหารญี่ปุ่นกำหนดให้โปรแกมนี้เป็นเนื้อหาที่จะดึงดูดผู้คนทั่วโลกให้สนใจการประกอบอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น และในฐานะที่รับผิดชอบด้านยอดขาย Blue Magic, Inc. กำลังมองหาพันธมิตรที่จะช่วยเผยแพร่โปรแกรมนี้อย่างรวดเร็ว

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190910005448/en/

สอบถามข้อมูลที่:
Terumi Oyagi
office@culinary-academy.jp
สถาบันสอนประกอบอาหารญี่ปุ่น

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับพันธมิตรเพื่อเผยแพร่เนื้อหาในภาษาอื่นที่:
Ayumi Kuji
contact@japanese-cuisine.com
Blue Magic, Inc.

ซิตี้แบงก์ เปิดฟีเจอร์ใหม่ ช่วยยืนยันซื้อ – ขายหน่วยลงทุน ง่ายผ่านแอปฯ

Logo

กรุงเทพฯ 11 กันยายน 2562 – ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดฟีเจอร์ใหม่ “ออเธอไรเซชั่น คอร์เนอร์” (Authorization Corner) ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด ให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและยืนยันทุกคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง ผ่านซิตี้ โมบายล์แอปฯ โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่สาขา หรือรอเซ็นเอกสารอีกต่อไป เพียง 4 ขั้นตอน 1. เข้าแอปฯผ่านสมาร์ทโฟน 2. เลือก “เอกสารการทำธุรกรรม” 3. ตรวจสอบรายละเอียดเอกสารคำสั่งซื้อขาย 4. ยืนยันการทำรายการด้วยรหัสโอทีพี ให้ทุกการลงทุนสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย ยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลแบงก์กิ้ง ตอบโจทย์การใช้งานไลฟ์สไตล์นักลงทุนยุคใหม่

img1สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th

###

หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ

เกี่ยวกับ “ซิตี้”

ธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citigroup.com | ทวิตเตอร์: @Citi | ยูทูป: www.youtube.com/citi | บล็อก: http://new.citi.com | เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/citi | ลิงก์อิน: www.linkedin.com/company/citi

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน ติดต่อ

ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย

วันวิสาข์ โคมินทร์

+662 079 3251

wanvisa.komindr@citi.com

Milrem Robotics เปิดตัวยานยนต์ต่อสู้อเนกประสงค์รุ่นใหม่

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–10 กันยายน 2562

Milrem Robotics ผู้ผลิตยานยนต์ต่อสู้ไร้คนขับชั้นนำในยุโรปและผู้ผลิตโซลูชั่นส์หุ่นยนต์ทางทหาร ประกาศเปิดตัวยานยนต์ต่อสู้อเนกประสงค์ THeMIS UGV ที่งาน DSEI 2019 ณ กรุงลอนดอน โดยออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือทหารในการสู้รบและยกระดับศักยภาพภาพการต่อสู้

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190909005403/en/

Two THeMIS UGVs delivered to the Royal Netherlands Army were used in a live firing exercise in Austria recently. One was equipped with the deFNder RWS from FN Herstal and the other was used as a transportation platform (Photo: Business Wire)

ยานยนต์ต่อสู้อเนกประสงค์ THeMIS UGV จำนวน 2 คันที่ส่งมอบไปยังกองทัพบกเนเธอร์แลนด์ถูกใช้ในการซ้อมรบในประเทศออสเตรียเมื่อเร็ว ๆ นี้ หนึ่งคันเสริมด้วย deFNder RWS จาก FN Herstal และอีกหนึ่งคันถูกนำไปใช้ในแพลตฟอร์มการขนส่ง (ภาพ: Business Wire)

Kuldar Väärsi ซีอีโอแห่ง Milrem Robotics กล่าวว่า “เราได้จัดแสดงยานยนต์รุ่น THeMIS ครั้งแรกในงาน DSEI ณ กรุงลอนดอนในปี 2015 ผ่านมาทั้งสิ้น 4 ปี ปัจจุบันหลังจากการทดสอบประสิทธิภาพกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมและกองกำลัง NATO ในสภาวะการสู้รบที่แตกต่างกันแล้ว ทางเรารู้สึกภูมิใจที่ได้กลับมานำเสนอผลงานที่แข็งแรงและพร้อมใช้งาน ซึ่งจะช่วยยกระดับแสนยานุภาพการสู้รบได้เป็นอย่างดี

ยานยนต์ต่อสู้ THeMIS รุ่นที่ 5 ประดิษฐ์จากการลองผิดลองถูกจากการทดสอบในสหรัฐฯ ยุโรป ตะวันออกกลาง และล่าสุดถูกนำไปใช้โดยทหารฝรั่งเศสในปฏิบัติการ Operation Barkhane ในชายแดนประเทศมาลี ยานยนต์ต่อสู้ THeMIS รุ่นที่ 5 นี้ผ่านมาตรฐาน NATO STANAG ในด้านโครงสร้าง ความปลอดภัย ความสามารถการขับขี่ทางอากาศ พละกำลังในการเคลื่อนทัพ รวมทั้งด้านอื่น ๆ

Väärsi กล่าวเพิ่มเติมว่า “วิศวกรของเราได้พิจารณาข้อเสนอแนะจากกองทัพอาวุธครบมือต่าง ๆ และนำมาสร้างสรรค์ออกแบบอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งและแม่นยำในการสนับสนุนกองกำลังทางทหาร”

THeMIS เป็นยานยนต์ต่อสู้ไร้คนขับอเนกประสงค์ที่สามารถนำไปเติมแต่งกับเทคโนโลยีการสู้รบ เช่น ระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ โดรนบังคับด้วยเชือก อุปกรณ์ตรวจจับ IED และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งได้กลายเป็นยนยนต์ต่อสู้ไร้คนขับอเนกประสงค์ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ใช้งานได้หลายแบบ

จากการร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Kongsberg, FN Herstal, MBDA, ST Engineering และอื่น ๆ ระบบราวกว่าสิบระบบได้ถูกรวมเป็นหนึ่ง มีการจัดการทดสอบบนสนามจริงด้วยระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ที่แตกต่าง 5 ชนิด รวมทั้งจรวดทำลายรถถัง

นอกจากนี้ Milrem Robotics ยังได้พัฒนายานยนต์ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นใช้งานอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทางจุดต่อจุด การตรวจจับสิ่งกีดขวาง และการหลบหนี การพัฒนาฟังก์ชั่นอัตโนมัติโดูจากการเคลื่อนที่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ดูจากการเตรียมพร้อมอาวุธต่อสู้

THeMIS ถูกส่งมอบไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์และนอร์เวย์สำหรับใช้งานด้านโลจิสติกส์เพื่อขนส่งอุปกรณ์เครื่องมือและกำลัง พร้อมการรวมอุปกรณ์การต่อสู้เพิ่มเติม

THeMIS รุ่นที่ 5 จัดแสดงที่ Estonian Pavilion N3-320 และ Kongsberg’s stand S6-145 ในงาน DSEI 2019

กรุณารับชม THeMIS ในสนามจริงได้ที่ https://youtu.be/RLU0w8DNo7M.

ดูเนื้อหาต้นฉบับที businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190909005403/en/

ติดต่อ:

Gert Hankewitz
ผู้อำนวยการการส่งออก
gert.hankewitz@milrem.com

 

 

 

โครงการแลกเปลี่ยนกีฬารักบี้: การพบกันของประเทศอาเซียนและติมอร์-เลสเต ภายใต้โครงการสานความสัมพันธ์ของญี่ปุ่น “JENESYS 2019”

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2562

ภายใต้โครงการสานความสัมพันธ์ของญี่ปุ่น “JENESYS 2019” สนับสนุนโดยกระทรวงการต่างประเทศ นักเรียนชายและหญิงที่มีความสนใจกีฬารักบี้จำนวน 165 คนและพนักงานราชการจากสมาคมรักบี้ในประเทศอาเซียน (บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม) และติมอร์-เลสเตทจะเดินทางมาเยี่ยมเยือนประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 13-21 กันยายนนี้

ทางคณะจะเดินทางไปยังจังหวัดชิซูโอกะเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนระดับมัธยมและนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในจังหวัดชิซูโอกะผ่านกีฬารักบี้ นอกจากนี้ โครงการมีกิจกรรมปาฐกถาในหัวข้อ (ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและประเทศอาเซียนผ่านกิจกรรม Tag Rugby, Rugby World Cup 2019 และกิจกรรมเกี่ยวกับรักบี้ อื่น ๆ ในจังหวัดชิสึโอกะ) โครงการนี้ตั้งเป้าแลกเปลี่ยนกิจกรรมทั่วประเทศผ่านการฝึกซ้อมและการแข่งขันกระชับมิตรของรายการ Tag Rugby

ในวันที่ 17 กันยายน ทางคณะจะเข้าเยี่ยมกระทรวงการต่างประเทศ และในวันที่ 20 จะไปดูเกมเปิดการแข่งขัน Rugby World Cup 2019

โครงการนี้มีเป้าหมายสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศอาเซียน รวมถึงติมอร์-เลสเตให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้เผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

[อ้างอิง] โครงการสานความสัมพันธ์กับประเทศญี่ปุ่น “JENESYS2019”

โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้คนในประเทศญี่ปุ่นกับประเทศในเอเชียแปซิฟิก อเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา และประเทศในหมู่เกาะแคริบเบียน รวมทั้งเพิ่มความเข้าใจในด้านเศรษฐกิจ สังคม ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่แตกต่าง การเมือง และความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างผู้เข้าร่วม

กำหนดการเดินทาง

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน

[กำหนดการเดินทางถึง] เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น ณ สนามบินนาริตะ/ฮาเนดะ

[เคลื่อนย้าย] เคลื่อนย้ายไปยังจังหวัดชิซูโอกะ

[ปฐมนิเทศน์]

วันเสาร์ที่ 14 กันยายน

[ปาฐกถาหัวข้อ] ปาฐกถาแลกเปลี่ยนระดับนานาชาติผ่านหัวข้อรักบี้

[กิจกรรมกีฬาแลกเปลี่ยน] อธิบายกฏิกาของ Tag Rugby การฝึกฝนร่วมกัน (ทีมผสม)

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน

[กิจกรรมกีฬาแลกเปลี่ยน] การฝึกฝนร่วมกัน (ทีมผสม)

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน

[แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม] กิจกรรมแลกเปลี่ยนกลอง Taiko (กลองญี่ปุ่น) กับโรงเรียนมัธยม Hiryu

[กิจกรรมกีฬาแลกเปลี่ยน] การแข่งขันกระชับมิตร (ทีมผสม)

[การประชุมแลกเปลี่ยน] สำนักงานจังหวัดชิซูโอกะ/สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งชิซูโอกะ/สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศญี่ปุ่น/โรงเรียนมัธยม Shoyo มหาวิทยาลัย Tokai/โรงเรียนอาชีวะ Numazu

วันอังคารที่ 17 กันยายน

[เข้าเยี่ยมคารวะ] ปาฐกถาโดยสำนักงานราชการส่วนท้องถิ่นจังหวัดชิซูโอกะ

[ปาฐกถาหัวข้อ] ปาฐกถาหัวข้อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศอาเซียนโดยกระทรวงการต่างประเทศ

[เข้าเยี่ยมคารวะกระทรวงการต่างประเทศ]

วันพุธที่ 18 กันยายน

[การแลกเปลี่ยนระหว่างโรงเรียน] มหาวิทยาลัยชิซูโอกะ

[การแลกเปลี่ยนระหว่างโรงเรียน] โรงเรียน Fujieda Junshin/โรงเรียนอาชีวะ Numazu จังหวัดชิซูโอกะ/โรงเรียนมัธยมปลาย Shizuoka Salesio/ โรงเรียนมัธยม Shizuoka Seiko Gakuin

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน

[เยี่ยมชมหัวข้อใกล้เคียง: ความเข้าใจเป้าหมายระดับนานาชาติ (SDGs)] Mt. Fuji Eco Park

[เยี่ยมชมอาคารประวัติศาสตร์] ศาลเจ้ามิชิมะ

[เวิร์คชอป]

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน

[การประชุมรายงาน]

[รับชม Rugby World Cup 2019 รอบเปิดเกม]

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน

[กำหนดเดินทางกลับ] ออกจากสนามบินนาริตะ/ฮาเนดะ

รายละเอียดการติดต่อสำหรับสอบถาม

หน่วยงานดำเนินการโครงการ JENESYS2019 AMS และ ติมอร์-เลสเต

JTB Corp. สาขา Kasumigaseki

บุคคลที่รับผิดชอบ: นาย Junji Mise และ นาย Yutaka Shintani

[โทร] +81-3-6737-9447 วันจันทร์-ศุกร์ 9:30-17:45

[อีเมล] jenesys2019asean@jtb.com

Aptorum Group ศึกษาวิจัยตัวยาชนิดใหม่ในโมเลกุลสายพันธุ์เล็ก ALS-4 เพื่อรักษาการติดเชื้ออันเกิดจากแบคทีเรีย Staphylococcus Aureus และ MRSA

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2562

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) (“Aptorum Group”) บริษัทผลิตชีวเภสัชภัณฑ์ที่เน้นการพัฒนายารักษาโรคชนิดใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ประกาศว่าบริษัทได้เริ่มวิจัยและพัฒนายาชนิดใหม่ (IND) เพื่อศึกษาในชื่อ ALS-4 ซึ่งเป็นตัวยาโมเลกุลขนาดเล็กสำหรับใช้รักษาโรคติดต่อที่เกิดจากแบคทีเรียสแตฟีโลคอกคัส ออเรียส หรือ Staphylococcus aureus (S. aureus) รวมถึงสแตฟิโลคอกคัส ออเรียสที่ดื้อยา (หรือ MRSA หนึ่งในเชื้อโรคที่รู้จักกันดีในชื่อเชื้อแบคทีเรียดื้อยา) บนพื้นฐานการทดลองต่อต้านเชื้อโรคชนิดใหม่

ตัวยา ALS-4 ได้พัฒนามาเป็นอย่างดีและการศึกษาเกี่ยวกับพิษวิทยาผ่านระบบคุณภาพที่ช่วยจัดการห้องปฏิบัติการให้มีมาตรฐาน (GLP) ได้ประสบความสำเร็จโดยสถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในอเมริกาเหนือ โดยทั่วไปแล้ว ตัวยา ALS-4 จะไม่แสดงการเปลี่ยนพันธุกรรมในการทดสอบฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ การพัฒนา ALS-4 อยู่ระหว่างการดำเนินงานและบริษัทวางแผนเสนอการวิจัยและพัฒนายาชนิดใหม่นี้ในครึ่งปีแรก 2563 ส่วนการทดสอบกึ่งคลินิกเฟส 1 ได้ถูกวางแผนในอเมริกาเหนือจากทั้งอาสาสมัครสุขภาพดีและผู้ป่วยที่ได้รับผลของประสิทธิภาพขั้นแรกเริ่ม

S. aureus คือแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อทางกระแสเลือด ปอด ผิวหนัง กระดูก และอุปกรณ์ รวมทั้งโรคที่เกิดจากสารพิษ1 มีการประเมินว่าผู้ป่วยที่เกิดจากแบคทีเรีย S. aureus มีอัตราการเสียชีวิต 30%2 และสูงกว่าอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อเอดส์ วัณโรค และไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง3 MRSA, vancomycin-intermediate และ S. aureus ที่ดื้อยาทั้งหมดได้ถูกระดับเป็นโรคสำคัญสำหรับจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ต้องวิจัยและพัฒนา4

เกี่ยวกับ ALS-4

ALS-4 คือตัวยาที่มีโมเลกุลขนาดเล็กที่เชื่อว่าสามารถยับยั้ง dehydrosqualene desaturase  ของ S. aureus (รวมถึง MRSA) ซึ่งเกี่ยวข้องกับ staphyloxanthin หรือเม็ดสีทองหุ้มแบคทีเรียที่เห็นได้ชัด หรือช่วยแบคทีเรียต่อต้านอนุพันธ์ออกซิเจนที่ว่องไว (ROS) ที่ส่งจากเซลล์ฟาโกไซต์และเม็ดเชือดขาวนิวโตรฟิล5 ในกรณีนี้ ALS-4 ไม่ใช่การฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และการยับยั้งกระบวนการผลิต staphyloxanthin และ S. aureus จะว่องไวต่อระบบภูมิคุ้มกันของผู้ทดลอง ALS-4 ใช้วิธีจับใหม่ ๆ ในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งต่างจากวิธีกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่มักพบในยาปฏิชีวนะที่ส่งเสริมการดื้อยา

เกี่ยวกับ Aptorum Group Limited

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) คือบริษัทเวชภัณฑ์ที่อุทิศตนในการพัฒนาและทำธุรกิจการรักษาโรคแบบใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์และไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก Aptorum Group ยังเดินหน้าคิดค้นโปรแกรมการรักษาโรคต่าง ๆ เช่นโรคประสาท โรคติดเชื้อ โรคเกี่ยวกับทางเกินอาหาร โรคเนื้องอก และโรคอื่น ๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aptorum Group โปรดดูที่ www.aptorumgroup.com

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบและข้อความที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Aptorum Group Limited และความคาดหวังในอนาคต แผน และโอกาสในอนาคตซึ่งเป็น “แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า” ภายใต้ความหมายของพระราชบัญญัติปฏิรูปกฎหมายฟ้องร้องหลักทรัพย์เอกชนปี พ.ศ. 2538 ข้อความที่มีอยู่ในเอกสารฉบับนี้ซึ่งไม่ใช่แถลงการณ์ของข้อเท็จจริงในอดีตอาจถือเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ในบางกรณีคุณสามารถระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าโดยใช้คำเช่น“ อาจ” “ควร” “คาดว่า” “มีแผนจะ” “คาดการณ์” “อาจจะทำได้” “ตั้งใจว่า” “มีเป้าหมายว่า” “มีโครงการว่า" "พิจารณาจะ" "เชื่อว่า" "ประเมินว่า" "พยากรณ์" "มีศักยภาพจะ" หรือ "จะดำเนินการต่อ"  หรือคำตรงข้ามของคำเหล่านี้หรือสำนวนอื่น ๆ ที่คล้ายกัน กลุ่ม Aptorum ได้ใช้แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้โดยส่วนใหญ่มาจากความคาดหวังและการคาดการณ์ในปัจจุบันเกี่ยวกับเหตุการณ์และแนวโน้มในอนาคตซึ่งบริษัท เชื่อว่าอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้พูดเฉพาะวันที่ของเอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้และอยู่ภายใต้ความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และข้อสันนิษฐาน รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ประกาศไว้และการเปลี่ยนแปลงองค์กร การให้บริการอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการขยายการจัดประเภทผลิตภัณฑ์โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มเติม กลยุทธ์การเติบโตของบริษัทที่คาดการณ์ไว้ แนวโน้มและความท้าทายที่คาดการณ์ไว้ในธุรกิจของบริษัท และความคาดหวังเกี่ยวกับเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและความเสี่ยงอย่างเต็มที่อธิบายไว้ในแบบฟอร์ม 20-F ของกลุ่ม Aptorum และเอกสารอื่น ๆ ที่กลุ่ม Aptorum อาจทำกับ กลต. ในอนาคต กลุ่ม Aptorum ไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่มีอยู่ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้อันเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

Clin Microbiol Rev. 2015 Jul;28(3):603-61.

2 Clin Microbiol Rev. 2012 Apr;25(2):362-86

3 Van Hal et al. Clin Microbiol Rev 2012

4 https://www.who.int/news-room/detail/27-02-2017-who-publishes-list-of-bacteria-for-which-new-antibiotics-are-urgently-needed

5 mBio 2017 8(5): e01224-17

ติดต่อ:

นักลงทุน: 
โทร: +852 2117 6611 
อีเมล: investor.relations@aptorumgroup.com

สื่อ: 
โทร: + 852 2117 6611 
อีเมล: info@aptorumgroup.com

The Bangkok Reporter