เอ็กซอนโมบิลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Mobil EV™ สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

Logo

มาพร้อมคุณสมบัติที่จะยกระดับประสิทธิภาพของยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่

  • ผลิตภัณฑ์ Mobil EV™ ช่วยให้ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่เดินทางได้ไกลขึ้นหลังจากการชาร์จไฟ ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และมีระบบการทำงานที่ปลอภัยมากขึ้น
  • การเปิดตัวนี้เป็นการตอกย้ำความร่วมมือระหว่างเอ็กซอนโมบิลกับผู้รับจ้างผลิตในความมุ่งมั่นพัฒนายานยนต์ตามความต้องการของผู้บริโภค

แฟรงก์เฟิร์ต, เยอรมนี–(BUSINESS WIRE)–12 กันยายน 2562

วันนี้ เอ็กซอนโมบิลได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Mobil EV™ ครั้งแรกของโลกในงาน 2019 IAA ซึ่งประกอบด้วยชุดน้ำมันหล่อลื่นและจาระบีที่พัฒนาเพื่อตามมาตรฐานของระบบส่งกำลังสำหรับแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจำนวนของยานยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริดรวมกับยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่และยานยนต์ระบบพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงจะสูงเกิน 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนรถยนต์ขนาดเล็กทั่วโลกในปี 25831

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190912005285/en/

ExxonMobil announced the global launch of its Mobil EV™ offering, which features a full suite of fluids and greases designed to meet the evolving drivetrain requirements of battery electric vehicles. *Please refer to commercial product package for actual label, product data and specifications. (Photo: Business Wire)

เอ็กซอนโมบิลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชุด Mobil EV™ เป็นครั้งแรกของโลก มาพร้อมชุดน้ำมันหล่อลื่นและจาระบีที่พัฒนาให้ตรงกับความต้องการของระบบส่งกำลังที่ใช่ในยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ *โปรดดูป้ายสินค้าจริง ข้อมูลสินค้า และข้อมูลจำเพาะจากบรรจุภัณฑ์ของสินค้าสำหรับจำหน่าย (รูปภาพ: Business Wire)

“รูปแบบการเดินทางในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนไป และยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้ากำลังมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้” Russ Green รองประธานฝ่ายน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปแห่งเอ็กซอนโมบิล กล่าว “ลูกค้าและผู้รับจ้างผลิตต่างกำลังมองหาวิธีปรับปรุงประเภทและประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยของยานยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาให้ดีขึ้น และเอ็กซอนโมบิลอยู่ในจุดที่สามารถส่งมอบสิ่งเหล่านั้นได้ นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของโซลูชันด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่เราเตรียมพัฒนาเพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้นของลูกค้าเท่านั้น”

ด้วยการที่ถูกพัฒนาให้รองรับความต้องการยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าของทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้รถ Mobil EV จึงประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของโมเลกุลที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถันและรวมเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่สามารถเดินทางได้ไกลขึ้นหลังจากการชาร์จไฟ ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และมีระบบการทำงานที่ปลอภัยมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ชุด Mobil EV ครอบคลุมทุกการใช้งานของยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ ซึ่งประกอบด้วย:

  • Mobil EV Therm™ ชุดผลิตภัณฑ์น้ำมันจัดการความร้อน สำหรับช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบอิเล็กทรอนิกส์กำลัง
  • Mobil EV Drive™ ชุดผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องสำหรับเกียร์ลดความเร็วรอบในยานยนต์ไฟฟ้า พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยปกป้องเกียร์และตลับลูกปืนจากการเสื่อมสภาพ และยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น
  • Mobil EV Cool Drive™ ชุดผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นสำหรับเกียร์ลดความเร็วรอบในยานยนต์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์แบบวงจรรวม คิดค้นขึ้นช่วยเพิ่มความหล่อลื่นให้กับเกียร์และตลับลูกปืน พร้อมทั้งระบบระบายความร้อนที่จำเป็นสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กำลัง
  • Mobil EV Grease™ ผลิตภัณฑ์​เพื่อ​การ​ปกป้อง​ ประสิทธิภาพ​ และความ​น่า​เชื่อ​ถือ​ของอุปกรณ์​ใน​ยานยนต์​ไฟฟ้า​ประกอบ​ด้วย​ มอเตอร์​ไฟฟ้า​ ตลับ​ลูกปืน​และหัว​เพลา​ขับสำหรับการ​ขับขี่​ใน​สภาวะ​ต่าง​ ๆ

ด้วย​ชื่อเสียง​ที่​สะสม​มา​กว่า​ 135 ปี​ เอ็กซอนโมบิล​มี​ความ​มุ่งมั่น​ที่จะ​ใช้​ความ​เชี่ยวชาญ​ด้าน​เทคโนโลยี​น้ำมัน​และการ​จัด​การ​อุปกรณ์​ต่าง​ ๆ​ เพื่อ​ช่วย​ให้​ยานยนต์​และ​ผู้​ผลิต​ชิ้นส่วน​พัฒนา​ยานยนต์​ไฟฟ้า​ที่​จะ​มอบ​ประสบการณ์​การ​ขับขี่​ที่​เหนือกว่า​ให้​กับ​ลูกค้า

การ​เปิด​ตัว​ครั้ง​นี้​เกิดขึ้น​ไม่​นาน​หลัง​จาก​บริษัท​ได้​ขยาย ความ​เป็น​พันธมิตร​กับ​ปอร์เช่ เพื่อ​รวม​การ​แข่งขัน​รถยนต์​ฟอร์มูลา​อี​ฤดูกาล​ 2019 / 2020 ไว้​ใน​ข้อ​ตกลง​ด้วย​ ซึ่ง​นับ​เป็น​ครั้ง​แรก​ของ​เอ็กซอน​โม​บิล​กับ​การ​แข่งขัน​มอเตอร์​สปอร์ต​ประเภท​รถยนต์​ไฟฟ้า​​ โดย​เอ็กซอน​โม​บิล​จะ​เป็น​ผู้​สนับสนุน​น้ำมัน​หล่อ​ลื่น​ระบบ​ส่ง​กำลัง​ประสิทธิภาพ​สูง​สำห​รับ​ยานยนต์​ไฟฟ้า​ภาย​ใต้​แบรนด์​ Mobil ให้​กับ​รถยนต์​ปอร์เช่​ ซึ่ง​ผลิตภัณฑ์​ดังกล่าว​ถูก​พัฒนา​ขึ้น​ตามความต้องการของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนำไฟฟ้า ระบบทำความเย็นและความเข้ากันได้ของวัสดุ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่: www.mobilev.com

เกี่ยวกับเอ็กซอนโมบิล

เอ็กซอนโมบิล เป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก


1 2019 Outlook for Energy: A Perspective to 2040, ExxonMobil, 2019

ดูเนื้อหาต้นบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190912005285/en/

ติดต่อ:

สื่อมวลชนสัมพันธ์
832-625-4000


San Juan Mercantile Exchange เปิดให้ใช้ได้แล้วที่ Deltix CryptoCortex

Logo

นิวยอร์ก–((BUSINESS WIRE)–12 ก.ย. 2562

Deltix, Inc. ประกาศว่าตอนนี้แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล CryptoCortex ได้เชื่อมต่อกับ San Juan Mercantile Exchange (“ SJMX”) Dark Pool แล้ว โดยจากข้อมูลของ Deltix การเชื่อมต่อนี้จะให้บริการนายหน้า / ตัวแทนจำหน่าย cryptocurrency, OTC desks,  Market Maker และนักค้ากำไร ที่มีฟังก์ชั่นการซื้อขายที่เป็นเอกลักษณ์ระดับโลกในการเชื่อมต่อเข้ากับการซับมิตและการจัดการคำสั่งซื้อ SJMX Dark Pool ของพวกเขา

Deltix ได้ให้บริการด้านการวิจัยเชิงปริมาณ การวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาการค้าแบบอัลกอริทึมสำหรับหุ้นแบบ equities, futures, options และ forex มานานกว่า 12 ปี โดยแพลตฟอร์ม CryptoCortex ของ Deltix ซึ่งเปิดตัวในปี 2561 เป็นหนึ่งในระบบที่ทันสมัยที่สุดในโลกที่อนุญาตให้สร้างและสตรีมการสั่งซื้อแบบรวม (consolidated order book) การกำหนดเส้นทางสมาร์ท (smart order routing) การดำเนินการอัลโก (algo execution) การจัดการความเสี่ยงก่อนการค้าที่มีความยืดหยุ่นและระบบ TCA หลังทำการค้า เป็นต้น

SJMX เปิดตัวสินทรัพย์ดิจิตอล OTC Dark Pool ในเดือนเมษายน 2562 เพื่อจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้เข้าร่วมตลาดเชิงสถาบันในการซื้อและขายสินทรัพย์ cryptocurrency ทั้งนี้เมื่อรวมเข้ากับโซลูชั่นด้านการธนาคาร การดูแลและการชำระเงินที่นำเสนอโดยบริษัทในเครือของ SJMX อย่าง San Juan Mercantile Bank & Trust แล้ว ผู้ค้าจะสามารถใช้งานคำสั่งการทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิตอลและการดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เรามีความยินดีที่ผู้ค้า CryptoCortex สามารถเข้าถึง SJMX Dark Pool” ได้แล้ว Ilya Gorelik ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Deltix กล่าว “ ด้วยโซลูชั่นด้านการธนาคารและการดูแลที่ SJMBT มอบให้ การเชื่อมต่อในครั้งนี้จึงทำให้ลูกค้า CryptoCortex ของเรามีโซลูชั่นการซื้อขายครบวงจรที่ทรงพลัง”

“ CryptoCortex เป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและซับซ้อนของผู้เข้าร่วมตลาด” Bo Collins ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ SJMX และ SJMBT กล่าว “ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่ากับลูกค้าจากการเชื่อมต่อระหว่าง SJMX กับ CryptoCortex”

เกี่ยวกับ Deltix, Inc.

Deltix ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 โดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และนักคณิตศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการแก้ปัญหาเชิงปริมาณ ด้วยทีมงานที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ กว่า 70 ชีวิต Deltix ให้บริการซอฟต์แวร์และบริการสำหรับการวิจัยเชิงปริมาณ การซื้อขายอัลกอริธึม และการวิเคราะห์การดำเนินการในตลาดหุ้น ฟิวเจอร์ส ออปชั่น FX รายได้คงที่ และสินทรัพย์ดิจิตอลทั้งนี้ Deltix ให้บริการโซลูชั่นแก่บริษัทต่าง ๆ ด้านการซื้อและขายหลักทรัพย์และการแลกเปลี่ยน crypto สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเข้าไปดูที่ www.deltixlab.com.

เกี่ยวกับ SJMX และ SJMBT

San Juan Mercantile Exchange, Inc. (SJMX) และ San Juan Mercantile Bank & Trust International Corp. (SJMBT) บริษัทด้านการธนาคารในเครือ กำลังพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการค้าระดับมืออาชีพและแพลตฟอร์มธนาคารครบวงจรสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอลโดย Mercantile Global Holdings, Inc. (MGH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของSJMX และ SJMBT  จะให้บริการโซลูชั่นแบบตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มตั้งแต่การจับคู่การซื้อขายไปจนถึงการเคลียร์และการดูแลสินทรัพย์ดิจิตอลและสกุลเงิน fiat ด้วยการรวมทีมงานที่มีประสบการณ์ที่มาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแลกเปลี่ยนระดับสูง นักธนาคาร นักวิชาการ และบุคลากรด้านกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เหตุนี้จึงทำให้ SJMX และ SJMBT สามารถเสนอพื้นที่สินทรัพย์ดิจิตอลที่เทรดเดอร์มืออาชีพสามารถคาดหวังได้เช่นเดียวกับจากการแลกเปลี่ยนที่มีการควบคุมและธนาคาร สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม https://sjmx.global/หรือติดต่อบริษัทที่ info@sjmx.global.

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190911005821/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Stuart Farr, Deltix Inc.

sfarr@deltixlab.com

Joe Conlan, San Juan Mercantile Bank & Trust

joe conlan@sjmx.global

Hansoh Pharma และ Atomwise เปิดตัวความร่วมมือค้นคว้าตัวยาผ่านเทคโนโลยี AI เพื่อใช้ในการรักษาต่าง ๆ

Logo

Hansoh Pharma วางแผนประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสร้างโมเลกุลขนาดเล็กที่ดีที่สุดครั้งแรก

เซี่ยงไฮ้และซานฟรานซิสโก—(BUSINESS WIRE)–12 กันยายน 2562

Hansoh Pharmaceutical Group Company Limited (“Hansoh Pharma”) บริษัทชีวเภสัชกรรมชั้นนำในประเทศจีน และ Atomwise, Inc. (“Atomwise”) ผู้นำเทคโนโลยี AI เพื่อการค้นคว้ายารักษาโรค ประกาศความร่วมมือในการออกแบบและค้นหาชนิดตัวยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับโปรตีนเป้าหมายที่ยังไม่ระบุ 11 ตัวเพื่อการรักษาโรคหลากหลายชนิด

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190911005825/en/

ทีมนักวิทยาศาสตร์จาก Atomwise และ Hansoh Pharma จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด การผสมผสานกันระหว่างความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่มีให้จะมอบประสิทธิภาพในการช่วยเร่งให้โครงการนี้สำเร็จอย่างมหาศาล และจะย่นระยะเวลาการค้นคว้าหาตัวยาและการพัฒนาทางคลินิก

นายแพทย์ Aifeng Lyu ประธาน Jiangsu Hansoh Pharmaceutical Group Co., Ltd., บริษัทในเครือของ Hansoh Pharma กล่าวว่า “Atomwise เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เหมาะสมกับ Hansoh Pharma ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI และสร้างชนิดโมเลกุลขนาดเล็กสำหรับรักษาโรคเนื้องอกและโรคอื่น ๆ เรารู้สึกประทับใจในแพลตฟอร์มและประสิทธิภาพของ AI และทีมของ Atomwise จากการทำงานร่วมกัน เราเชื่อว่าเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาการรักษาที่ดีที่สุดครั้งแรก”

Dr. Abraham Heifets ซีอีโอ Atomwise กล่าวเสริมว่า “Hansoh Pharma ให้พันธสัญญาสำคัญในการสร้างนวัตกรรมและปฏิบัติภารกิจเพื่อเปลี่ยนโลกการดูแลสุขภาพของผู้ป่วย”

แพลตฟอร์ม AI ระดับโลกของ Atomwise สำหรับการออกแบบตัวยาตามโครงสร้างจะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ เป็นตัวเลือกอันดับต้น และเป็นความพยายามในการบุกเบิก Hansoh Pharma จะมอบศักยภาพการทดสอบทางชีววิทยาและเคมีเพื่อการรักษา รวมทั้งบุกเบิกกิจกรรมการพัฒนาในระดับพรีคลินิกและคลินิกต่าง ๆ

ภายใต้ข้อกำหนดของความร่วมมือ Atomwise จะได้รับค่าธรรมเนียมการใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เปิดเผย ค่าธรรมเนียมการทดลอง ค่าลิขสิทธิ์ และรายได้จากการออกใบอนุญาตหรือการขายทรัพย์สินที่เกิดจากความร่วมมือ จากรายได้เฉลี่ยในประวัติศาสตร์สำหรับตัวยาโมเลกุลขนาดเล็ก มูลค่าทั้งหมดจากการทำสัญญากับ Atomwise ที่ประสบผลสำเร็จทั้งหมดนับเป็นผลพลอยได้ Hansoh Pharma จะได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาและดำเนินการค้าในทุกสาขาและภูมิภาค

เกี่ยวกับ Hansoh Pharma

Hansoh Pharma (3692:HK) บริษัทชีวเภสัชกรรมชั้นนำในประเทศจีนที่อุทิศตนเพื่อค้นหาและพัฒนาตัวยาที่เปลี่ยนชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้พ้นจากอาการโรคร้ายแรง ปัจจุบันมีพนักงานราว 8,900 คน Hansoh ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 มีระบบการวิจัยและพัฒนา ศักยภาพการผลิตและค้าขายแบบครอบคลุม ช่วยส่งเสริมความเป็นผู้นำการรักษาระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) โรคเนื้องอก โรคเบาหวานและยาต้านการติดเชื้อ และอื่น ๆ จากผู้เชี่ยวชาญราว 1,400 คนในแผนกการวิจัยและพัฒนา Hansoh ถูกจัดอันดับที่ 2 เป็นบริษัทนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีววิทยาและเภสัชกรรมในประเทศจีนสำหรับโมเลกุลที่ใช้ผลิตยาชนิดใหม่เพื่อการพัฒนาระดับคลินิกตั้งแต่ปี 2554 รายได้ของบริษัท Hansoh Pharma ในปี 2018 อยู่ราว 11,000 ล้านดอลล่าร์ เติบโตปีต่อปี 25% สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมที่ www.hspharm.com

เกี่ยวกับ Atomwise

Atomwise, Inc. นำเทคโนโลยี AI มาศึกษาค้นคว้าตัวยาโมเลกุลขนาดเล็กตามโครงสร้าง ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน Atomwise ร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทด้านเภสัชกรรมและเคมีเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลมากกว่าร้อยแห่งใน 19 ประเทศเพื่อจัดทำโครงการหลายร้อยโครงการต่อปี Atomwise ได้ระดมเงินกว่า 50 ล้านดอลล่าร์จากบริษัทลงทุนชั้นนำเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190911005825/en/ 

ติดต่อ:

Hansoh Pharma

ชื่อ​: Paul Lu

อีเมล​: communications@hspharm.com

Atomwise

ชื่อ: Sara Dunn

อี​เมล: SDunn@jpa.com

สถาบันสอนประกอบอาหารญี่ปุ่นเปิดตัวเว็บไซต์ japanese-cuisine.com พร้อมเนื้อหาดึงดูดและโปรแกรมอี-เลิร์นนิงสำหรับการโปรโมตอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ

Logo

เกียวโต, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–10 กันยายน 2562

สถาบันสอนการประกอบอาหารญี่ปุ่น หรือ Japanese Culinary Academy ซึ่งตั้งอยู่ในเกียวโต มีนาย Yoshihiro Murata เป็นผู้อำนวยการ และดูข้อมูลทางออนไลน์ได้ที่ https://culinary-academy.jp/english ได้ร่วมกับ Blue Magic, Inc. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในโตเกียว มีนาย Yukiko Akimoto เป็นซีอีโอ และดูข้อมูลทางออนไลน์ได้ที่ https://bluemagic.co.jp/ เพื่อรวมกันพัฒนาโปรแกรมอี-เลิร์นนิงเพื่อสอนวัฒนธรรมและเทคนิคในการประกอบอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ โดยได้เริ่มให้บริการทั่วโลกไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190910005448/en/

อาหารญี่ปุ่นกำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ขณะที่จำนวนภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบัน มีภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นมากกว่า 120,000 แห่งทั่วโลก

สถาบันสอนประกอบอาหารญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น จะส่งผู้สอนไปยังงานสัมมนาเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นที่จัดขึ้นทั่วโลก รับนักเรียนจากประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการเรียนการประกอบอาหารญี่ปุ่นในญี่ปุ่น และเผยแพร่บทความเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ

สถาบันสอนการประกอบอาหารญี่ปุ่นเป็นองค์กรที่ได้รับการรับรองตามที่ระบุไว้ในแนวทางรับรองทักษะการประกอบอาหารญี่ปุ่นนอกประเทศญี่ปุ่นโดยกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมงของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 และได้พัฒนาโปรแกรมอีเลิร์นนิงสำหรับเผยแพร่ทางเว็บไซต์ japanese-cuisine.com เพื่อสอนวัฒนธรรมและเทคนิคการประกอบอาหารญี่ปุ่นที่ถูกต้องให้ผู้สนใจสามารถเรียนรู้ได้จากทุกมุมโลกตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเนื้อหาครอบคลุมความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการรับรองระดับบรอนซ์ หรือ the Bronze Certification ตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนดขึ้น

เว็บไซต์ของโปรแกรมอยู่ที่ https://japanese-cuisine.com

สถาบันสอนการประกอบอาหารญี่ปุ่นกำหนดให้โปรแกมนี้เป็นเนื้อหาที่จะดึงดูดผู้คนทั่วโลกให้สนใจการประกอบอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น และในฐานะที่รับผิดชอบด้านยอดขาย Blue Magic, Inc. กำลังมองหาพันธมิตรที่จะช่วยเผยแพร่โปรแกรมนี้อย่างรวดเร็ว

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190910005448/en/

สอบถามข้อมูลที่:
Terumi Oyagi
office@culinary-academy.jp
สถาบันสอนประกอบอาหารญี่ปุ่น

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับพันธมิตรเพื่อเผยแพร่เนื้อหาในภาษาอื่นที่:
Ayumi Kuji
contact@japanese-cuisine.com
Blue Magic, Inc.

ซิตี้แบงก์ เปิดฟีเจอร์ใหม่ ช่วยยืนยันซื้อ – ขายหน่วยลงทุน ง่ายผ่านแอปฯ

Logo

กรุงเทพฯ 11 กันยายน 2562 – ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดฟีเจอร์ใหม่ “ออเธอไรเซชั่น คอร์เนอร์” (Authorization Corner) ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด ให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและยืนยันทุกคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง ผ่านซิตี้ โมบายล์แอปฯ โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่สาขา หรือรอเซ็นเอกสารอีกต่อไป เพียง 4 ขั้นตอน 1. เข้าแอปฯผ่านสมาร์ทโฟน 2. เลือก “เอกสารการทำธุรกรรม” 3. ตรวจสอบรายละเอียดเอกสารคำสั่งซื้อขาย 4. ยืนยันการทำรายการด้วยรหัสโอทีพี ให้ทุกการลงทุนสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย ยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลแบงก์กิ้ง ตอบโจทย์การใช้งานไลฟ์สไตล์นักลงทุนยุคใหม่

img1สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th

###

หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ

เกี่ยวกับ “ซิตี้”

ธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citigroup.com | ทวิตเตอร์: @Citi | ยูทูป: www.youtube.com/citi | บล็อก: http://new.citi.com | เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/citi | ลิงก์อิน: www.linkedin.com/company/citi

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน ติดต่อ

ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย

วันวิสาข์ โคมินทร์

+662 079 3251

wanvisa.komindr@citi.com

Milrem Robotics เปิดตัวยานยนต์ต่อสู้อเนกประสงค์รุ่นใหม่

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–10 กันยายน 2562

Milrem Robotics ผู้ผลิตยานยนต์ต่อสู้ไร้คนขับชั้นนำในยุโรปและผู้ผลิตโซลูชั่นส์หุ่นยนต์ทางทหาร ประกาศเปิดตัวยานยนต์ต่อสู้อเนกประสงค์ THeMIS UGV ที่งาน DSEI 2019 ณ กรุงลอนดอน โดยออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือทหารในการสู้รบและยกระดับศักยภาพภาพการต่อสู้

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190909005403/en/

Two THeMIS UGVs delivered to the Royal Netherlands Army were used in a live firing exercise in Austria recently. One was equipped with the deFNder RWS from FN Herstal and the other was used as a transportation platform (Photo: Business Wire)

ยานยนต์ต่อสู้อเนกประสงค์ THeMIS UGV จำนวน 2 คันที่ส่งมอบไปยังกองทัพบกเนเธอร์แลนด์ถูกใช้ในการซ้อมรบในประเทศออสเตรียเมื่อเร็ว ๆ นี้ หนึ่งคันเสริมด้วย deFNder RWS จาก FN Herstal และอีกหนึ่งคันถูกนำไปใช้ในแพลตฟอร์มการขนส่ง (ภาพ: Business Wire)

Kuldar Väärsi ซีอีโอแห่ง Milrem Robotics กล่าวว่า “เราได้จัดแสดงยานยนต์รุ่น THeMIS ครั้งแรกในงาน DSEI ณ กรุงลอนดอนในปี 2015 ผ่านมาทั้งสิ้น 4 ปี ปัจจุบันหลังจากการทดสอบประสิทธิภาพกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมและกองกำลัง NATO ในสภาวะการสู้รบที่แตกต่างกันแล้ว ทางเรารู้สึกภูมิใจที่ได้กลับมานำเสนอผลงานที่แข็งแรงและพร้อมใช้งาน ซึ่งจะช่วยยกระดับแสนยานุภาพการสู้รบได้เป็นอย่างดี

ยานยนต์ต่อสู้ THeMIS รุ่นที่ 5 ประดิษฐ์จากการลองผิดลองถูกจากการทดสอบในสหรัฐฯ ยุโรป ตะวันออกกลาง และล่าสุดถูกนำไปใช้โดยทหารฝรั่งเศสในปฏิบัติการ Operation Barkhane ในชายแดนประเทศมาลี ยานยนต์ต่อสู้ THeMIS รุ่นที่ 5 นี้ผ่านมาตรฐาน NATO STANAG ในด้านโครงสร้าง ความปลอดภัย ความสามารถการขับขี่ทางอากาศ พละกำลังในการเคลื่อนทัพ รวมทั้งด้านอื่น ๆ

Väärsi กล่าวเพิ่มเติมว่า “วิศวกรของเราได้พิจารณาข้อเสนอแนะจากกองทัพอาวุธครบมือต่าง ๆ และนำมาสร้างสรรค์ออกแบบอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งและแม่นยำในการสนับสนุนกองกำลังทางทหาร”

THeMIS เป็นยานยนต์ต่อสู้ไร้คนขับอเนกประสงค์ที่สามารถนำไปเติมแต่งกับเทคโนโลยีการสู้รบ เช่น ระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ โดรนบังคับด้วยเชือก อุปกรณ์ตรวจจับ IED และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งได้กลายเป็นยนยนต์ต่อสู้ไร้คนขับอเนกประสงค์ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ใช้งานได้หลายแบบ

จากการร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Kongsberg, FN Herstal, MBDA, ST Engineering และอื่น ๆ ระบบราวกว่าสิบระบบได้ถูกรวมเป็นหนึ่ง มีการจัดการทดสอบบนสนามจริงด้วยระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ที่แตกต่าง 5 ชนิด รวมทั้งจรวดทำลายรถถัง

นอกจากนี้ Milrem Robotics ยังได้พัฒนายานยนต์ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นใช้งานอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทางจุดต่อจุด การตรวจจับสิ่งกีดขวาง และการหลบหนี การพัฒนาฟังก์ชั่นอัตโนมัติโดูจากการเคลื่อนที่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ดูจากการเตรียมพร้อมอาวุธต่อสู้

THeMIS ถูกส่งมอบไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์และนอร์เวย์สำหรับใช้งานด้านโลจิสติกส์เพื่อขนส่งอุปกรณ์เครื่องมือและกำลัง พร้อมการรวมอุปกรณ์การต่อสู้เพิ่มเติม

THeMIS รุ่นที่ 5 จัดแสดงที่ Estonian Pavilion N3-320 และ Kongsberg’s stand S6-145 ในงาน DSEI 2019

กรุณารับชม THeMIS ในสนามจริงได้ที่ https://youtu.be/RLU0w8DNo7M.

ดูเนื้อหาต้นฉบับที businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190909005403/en/

ติดต่อ:

Gert Hankewitz
ผู้อำนวยการการส่งออก
gert.hankewitz@milrem.com

 

 

 

โครงการแลกเปลี่ยนกีฬารักบี้: การพบกันของประเทศอาเซียนและติมอร์-เลสเต ภายใต้โครงการสานความสัมพันธ์ของญี่ปุ่น “JENESYS 2019”

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2562

ภายใต้โครงการสานความสัมพันธ์ของญี่ปุ่น “JENESYS 2019” สนับสนุนโดยกระทรวงการต่างประเทศ นักเรียนชายและหญิงที่มีความสนใจกีฬารักบี้จำนวน 165 คนและพนักงานราชการจากสมาคมรักบี้ในประเทศอาเซียน (บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม) และติมอร์-เลสเตทจะเดินทางมาเยี่ยมเยือนประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 13-21 กันยายนนี้

ทางคณะจะเดินทางไปยังจังหวัดชิซูโอกะเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนระดับมัธยมและนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในจังหวัดชิซูโอกะผ่านกีฬารักบี้ นอกจากนี้ โครงการมีกิจกรรมปาฐกถาในหัวข้อ (ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและประเทศอาเซียนผ่านกิจกรรม Tag Rugby, Rugby World Cup 2019 และกิจกรรมเกี่ยวกับรักบี้ อื่น ๆ ในจังหวัดชิสึโอกะ) โครงการนี้ตั้งเป้าแลกเปลี่ยนกิจกรรมทั่วประเทศผ่านการฝึกซ้อมและการแข่งขันกระชับมิตรของรายการ Tag Rugby

ในวันที่ 17 กันยายน ทางคณะจะเข้าเยี่ยมกระทรวงการต่างประเทศ และในวันที่ 20 จะไปดูเกมเปิดการแข่งขัน Rugby World Cup 2019

โครงการนี้มีเป้าหมายสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศอาเซียน รวมถึงติมอร์-เลสเตให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้เผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

[อ้างอิง] โครงการสานความสัมพันธ์กับประเทศญี่ปุ่น “JENESYS2019”

โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้คนในประเทศญี่ปุ่นกับประเทศในเอเชียแปซิฟิก อเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา และประเทศในหมู่เกาะแคริบเบียน รวมทั้งเพิ่มความเข้าใจในด้านเศรษฐกิจ สังคม ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่แตกต่าง การเมือง และความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างผู้เข้าร่วม

กำหนดการเดินทาง

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน

[กำหนดการเดินทางถึง] เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น ณ สนามบินนาริตะ/ฮาเนดะ

[เคลื่อนย้าย] เคลื่อนย้ายไปยังจังหวัดชิซูโอกะ

[ปฐมนิเทศน์]

วันเสาร์ที่ 14 กันยายน

[ปาฐกถาหัวข้อ] ปาฐกถาแลกเปลี่ยนระดับนานาชาติผ่านหัวข้อรักบี้

[กิจกรรมกีฬาแลกเปลี่ยน] อธิบายกฏิกาของ Tag Rugby การฝึกฝนร่วมกัน (ทีมผสม)

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน

[กิจกรรมกีฬาแลกเปลี่ยน] การฝึกฝนร่วมกัน (ทีมผสม)

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน

[แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม] กิจกรรมแลกเปลี่ยนกลอง Taiko (กลองญี่ปุ่น) กับโรงเรียนมัธยม Hiryu

[กิจกรรมกีฬาแลกเปลี่ยน] การแข่งขันกระชับมิตร (ทีมผสม)

[การประชุมแลกเปลี่ยน] สำนักงานจังหวัดชิซูโอกะ/สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งชิซูโอกะ/สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศญี่ปุ่น/โรงเรียนมัธยม Shoyo มหาวิทยาลัย Tokai/โรงเรียนอาชีวะ Numazu

วันอังคารที่ 17 กันยายน

[เข้าเยี่ยมคารวะ] ปาฐกถาโดยสำนักงานราชการส่วนท้องถิ่นจังหวัดชิซูโอกะ

[ปาฐกถาหัวข้อ] ปาฐกถาหัวข้อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศอาเซียนโดยกระทรวงการต่างประเทศ

[เข้าเยี่ยมคารวะกระทรวงการต่างประเทศ]

วันพุธที่ 18 กันยายน

[การแลกเปลี่ยนระหว่างโรงเรียน] มหาวิทยาลัยชิซูโอกะ

[การแลกเปลี่ยนระหว่างโรงเรียน] โรงเรียน Fujieda Junshin/โรงเรียนอาชีวะ Numazu จังหวัดชิซูโอกะ/โรงเรียนมัธยมปลาย Shizuoka Salesio/ โรงเรียนมัธยม Shizuoka Seiko Gakuin

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน

[เยี่ยมชมหัวข้อใกล้เคียง: ความเข้าใจเป้าหมายระดับนานาชาติ (SDGs)] Mt. Fuji Eco Park

[เยี่ยมชมอาคารประวัติศาสตร์] ศาลเจ้ามิชิมะ

[เวิร์คชอป]

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน

[การประชุมรายงาน]

[รับชม Rugby World Cup 2019 รอบเปิดเกม]

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน

[กำหนดเดินทางกลับ] ออกจากสนามบินนาริตะ/ฮาเนดะ

รายละเอียดการติดต่อสำหรับสอบถาม

หน่วยงานดำเนินการโครงการ JENESYS2019 AMS และ ติมอร์-เลสเต

JTB Corp. สาขา Kasumigaseki

บุคคลที่รับผิดชอบ: นาย Junji Mise และ นาย Yutaka Shintani

[โทร] +81-3-6737-9447 วันจันทร์-ศุกร์ 9:30-17:45

[อีเมล] jenesys2019asean@jtb.com

Aptorum Group ศึกษาวิจัยตัวยาชนิดใหม่ในโมเลกุลสายพันธุ์เล็ก ALS-4 เพื่อรักษาการติดเชื้ออันเกิดจากแบคทีเรีย Staphylococcus Aureus และ MRSA

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2562

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) (“Aptorum Group”) บริษัทผลิตชีวเภสัชภัณฑ์ที่เน้นการพัฒนายารักษาโรคชนิดใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ประกาศว่าบริษัทได้เริ่มวิจัยและพัฒนายาชนิดใหม่ (IND) เพื่อศึกษาในชื่อ ALS-4 ซึ่งเป็นตัวยาโมเลกุลขนาดเล็กสำหรับใช้รักษาโรคติดต่อที่เกิดจากแบคทีเรียสแตฟีโลคอกคัส ออเรียส หรือ Staphylococcus aureus (S. aureus) รวมถึงสแตฟิโลคอกคัส ออเรียสที่ดื้อยา (หรือ MRSA หนึ่งในเชื้อโรคที่รู้จักกันดีในชื่อเชื้อแบคทีเรียดื้อยา) บนพื้นฐานการทดลองต่อต้านเชื้อโรคชนิดใหม่

ตัวยา ALS-4 ได้พัฒนามาเป็นอย่างดีและการศึกษาเกี่ยวกับพิษวิทยาผ่านระบบคุณภาพที่ช่วยจัดการห้องปฏิบัติการให้มีมาตรฐาน (GLP) ได้ประสบความสำเร็จโดยสถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในอเมริกาเหนือ โดยทั่วไปแล้ว ตัวยา ALS-4 จะไม่แสดงการเปลี่ยนพันธุกรรมในการทดสอบฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ การพัฒนา ALS-4 อยู่ระหว่างการดำเนินงานและบริษัทวางแผนเสนอการวิจัยและพัฒนายาชนิดใหม่นี้ในครึ่งปีแรก 2563 ส่วนการทดสอบกึ่งคลินิกเฟส 1 ได้ถูกวางแผนในอเมริกาเหนือจากทั้งอาสาสมัครสุขภาพดีและผู้ป่วยที่ได้รับผลของประสิทธิภาพขั้นแรกเริ่ม

S. aureus คือแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อทางกระแสเลือด ปอด ผิวหนัง กระดูก และอุปกรณ์ รวมทั้งโรคที่เกิดจากสารพิษ1 มีการประเมินว่าผู้ป่วยที่เกิดจากแบคทีเรีย S. aureus มีอัตราการเสียชีวิต 30%2 และสูงกว่าอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อเอดส์ วัณโรค และไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง3 MRSA, vancomycin-intermediate และ S. aureus ที่ดื้อยาทั้งหมดได้ถูกระดับเป็นโรคสำคัญสำหรับจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ต้องวิจัยและพัฒนา4

เกี่ยวกับ ALS-4

ALS-4 คือตัวยาที่มีโมเลกุลขนาดเล็กที่เชื่อว่าสามารถยับยั้ง dehydrosqualene desaturase  ของ S. aureus (รวมถึง MRSA) ซึ่งเกี่ยวข้องกับ staphyloxanthin หรือเม็ดสีทองหุ้มแบคทีเรียที่เห็นได้ชัด หรือช่วยแบคทีเรียต่อต้านอนุพันธ์ออกซิเจนที่ว่องไว (ROS) ที่ส่งจากเซลล์ฟาโกไซต์และเม็ดเชือดขาวนิวโตรฟิล5 ในกรณีนี้ ALS-4 ไม่ใช่การฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และการยับยั้งกระบวนการผลิต staphyloxanthin และ S. aureus จะว่องไวต่อระบบภูมิคุ้มกันของผู้ทดลอง ALS-4 ใช้วิธีจับใหม่ ๆ ในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งต่างจากวิธีกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่มักพบในยาปฏิชีวนะที่ส่งเสริมการดื้อยา

เกี่ยวกับ Aptorum Group Limited

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) คือบริษัทเวชภัณฑ์ที่อุทิศตนในการพัฒนาและทำธุรกิจการรักษาโรคแบบใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์และไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก Aptorum Group ยังเดินหน้าคิดค้นโปรแกรมการรักษาโรคต่าง ๆ เช่นโรคประสาท โรคติดเชื้อ โรคเกี่ยวกับทางเกินอาหาร โรคเนื้องอก และโรคอื่น ๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aptorum Group โปรดดูที่ www.aptorumgroup.com

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบและข้อความที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Aptorum Group Limited และความคาดหวังในอนาคต แผน และโอกาสในอนาคตซึ่งเป็น “แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า” ภายใต้ความหมายของพระราชบัญญัติปฏิรูปกฎหมายฟ้องร้องหลักทรัพย์เอกชนปี พ.ศ. 2538 ข้อความที่มีอยู่ในเอกสารฉบับนี้ซึ่งไม่ใช่แถลงการณ์ของข้อเท็จจริงในอดีตอาจถือเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ในบางกรณีคุณสามารถระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าโดยใช้คำเช่น“ อาจ” “ควร” “คาดว่า” “มีแผนจะ” “คาดการณ์” “อาจจะทำได้” “ตั้งใจว่า” “มีเป้าหมายว่า” “มีโครงการว่า" "พิจารณาจะ" "เชื่อว่า" "ประเมินว่า" "พยากรณ์" "มีศักยภาพจะ" หรือ "จะดำเนินการต่อ"  หรือคำตรงข้ามของคำเหล่านี้หรือสำนวนอื่น ๆ ที่คล้ายกัน กลุ่ม Aptorum ได้ใช้แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้โดยส่วนใหญ่มาจากความคาดหวังและการคาดการณ์ในปัจจุบันเกี่ยวกับเหตุการณ์และแนวโน้มในอนาคตซึ่งบริษัท เชื่อว่าอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้พูดเฉพาะวันที่ของเอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้และอยู่ภายใต้ความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และข้อสันนิษฐาน รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ประกาศไว้และการเปลี่ยนแปลงองค์กร การให้บริการอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการขยายการจัดประเภทผลิตภัณฑ์โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มเติม กลยุทธ์การเติบโตของบริษัทที่คาดการณ์ไว้ แนวโน้มและความท้าทายที่คาดการณ์ไว้ในธุรกิจของบริษัท และความคาดหวังเกี่ยวกับเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและความเสี่ยงอย่างเต็มที่อธิบายไว้ในแบบฟอร์ม 20-F ของกลุ่ม Aptorum และเอกสารอื่น ๆ ที่กลุ่ม Aptorum อาจทำกับ กลต. ในอนาคต กลุ่ม Aptorum ไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่มีอยู่ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้อันเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

Clin Microbiol Rev. 2015 Jul;28(3):603-61.

2 Clin Microbiol Rev. 2012 Apr;25(2):362-86

3 Van Hal et al. Clin Microbiol Rev 2012

4 https://www.who.int/news-room/detail/27-02-2017-who-publishes-list-of-bacteria-for-which-new-antibiotics-are-urgently-needed

5 mBio 2017 8(5): e01224-17

ติดต่อ:

นักลงทุน: 
โทร: +852 2117 6611 
อีเมล: investor.relations@aptorumgroup.com

สื่อ: 
โทร: + 852 2117 6611 
อีเมล: info@aptorumgroup.com

Aptorum Group ประกาศพัฒนาชนิดตัวยาไมโครไบโอมเพื่อรักษาโรคอ้วน และชนิดตัวยาที่ดัดแปลงใหม่เพื่อรักษาโรคมะเร็งเนื้อเยื่อประสาท

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2562

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) (“Aptorum Group”) บริษัทผลิตชีวเภสัชภัณฑ์ที่เน้นการพัฒนายารักษาโรคชนิดใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ประกาศการคิดค้นพัฒนาตัวยา 2 ชนิดในขั้นตอนพรีคลินิก โดยเน้นการรักษาโรคอ้วนและโรคมะเร็งเนื้อเยื่อประสาทตามลำดับ

เกี่ยวกับ CLS-1: การรักษาโรคอ้วนโดยปรับสมดุลของการสื่อสารทางเคมีที่เกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ในลำไส้

ภายใต้แพลตฟอร์มการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกายหรือไมโครไบโอต้าที่ประกาศเปิดตัวล่าสุดโดย  Claves Life Sciences Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Aptorum Group ทางบริษัทได้คิดค้นพัฒนาสายพันธุ์โมเลกุลระดับมาโครอย่าง CLS-1 ในขั้นพรีคลินิกเพื่อรักษาโรคอ้วน CLS-1 กำลังอยู่ระหว่างการปรับสภาพ และมีแผนการจะนำไปสู่ขั้นตอน IND ในปี 2563

ปัจจุบันโรคอ้วนได้แพร่ขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก และยังไม่มีวิธีการรักษาที่ได้ผลสูงสุด1 สำหรับผู้ป่วยโรคอ้วนส่วนใหญ่แล้ว วิธีการรักษาแบบพื้นบ้าน (เช่น ลดอาหาร ออกกำลังกาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม) มักจะล้มเหลวในระยะยาว2 เราเชื่อว่าเภสัชบำบัดที่คิดค้นล่าสุดนี้จะมีประสิทธิภาพที่จำกัด และเกี่ยวข้องกับประเด็นความปลอดภัยของสารเคมี ซึ่งจะมอบโอกาสทางการตลาดมหาศาลแก่ CLS-1

การสื่อสารทางเคมีของจุลินทรีย์ในลำไส้รู้จักกันในฐานะสาเหตุหลักของโรคอ้วน1 CLS-1 คือมาโครโมเลกุลที่ให้ทางปากโดยไม่มีการดูดซับ ซึ่งจะปรับสมดุลการเผาผลาญของจุลินทรีย์ในลำไส้ผ่านความจำเพาะและความสัมพันธ์ที่สูง วิธีนี้เราเชื่อว่าการดูดซึมของกระบวนการเผาผลาญที่เกี่ยวเนื่องกับโรคอ้วนจะถูกยับยั้งได้

Aptorum Group กำลังทดลองตังบ่งชี้อีก 2 ชนิดผ่านการปรับสมดุลของการสื่อสารทางเคมีของไมโครไบโอต้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางโมเลกุลขนาดใหญ่ ซึ่งทางเราเชื่อว่าจะสามารถปรับตัวใช้งานได้ดี และเราหวังว่าจะได้ประกาศให้ผู้คนทราบถึงการคิดค้นของเราในครั้งนี้ด้วย

เกี่ยวกับ SACT-1: ชนิดยาที่นำมาดัดแปลงใหม่สำหรับการรักษานิวโรบลาสโตมาหรือโรคมะเร็งของเนื้อเยื่อประสาท

ภายใต้แพลตฟอร์มการคิดค้นยาผ่านระบบคอมพิวเตอร์ของ Smart-ACTTM ซึ่งประกาศเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยบริษัทลูกของ Aptorum Group อย่าง Smart Pharma Group โดย Aptorum Group ได้สกรีนตัวยาราว 1,615 ชนิดผ่านโปรตีนเป้าหมายเพื่อการรักษา 3 ชนิดสำหรับแก้ปัญหาการคาดคะเนโรคมะเร็งของเนื้อเยื่อประสาทที่ไม่แม่นยำ เช่น ชนิดของโรคมะเร็งที่หายากในเด็กที่เกิดจากเนื้อเยื่อประสาท และที่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ กับบริเวณต่อมหมวกไต รวมทั้งกระดูกไขสันหลัง หน้าอก ช่องท้อง หรือคอ3 สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง อัตราการรอดชีวิตของโรคนี้มีประมาณ 40-50% สำรวจโดยสมาคมโรคมะเร็งแห่งอเมริกา4 Aptorum Group ได้ระบุชนิดตัวยาที่นำมาดัดแปลงใหม่ และประเมินตัวยาเหล่านี้ในระดับเซลล์และการทดลองกับสัตว์เพื่อรับรองว่าตัวยาชนิดนี้ใช้ได้กับข้อบ่งชี้ใหม่และประสิทธิภาพที่พัฒนาได้

Aptorum Group กำลังทดลองตัวบ่งชี้อีก 2 ชนิดบนแพลตฟอร์มวิจัย Smart-ACTTM เราหวังว่าจะได้ประกาศให้ผู้คนทราบถึงการคิดค้นของเราในครั้งนี้ด้วย

เกี่ยวกับ Aptorum Group Limited

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) คือบริษัทเวชภัณฑ์ที่อุทิศตนในการพัฒนาและทำธุรกิจการรักษาโรคแบบใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์และไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก Aptorum Group ยังเดินหน้าคิดค้นโปรแกรมการรักษาโรคต่าง ๆ เช่นโรคประสาท โรคติดเชื้อ โรคเกี่ยวกับทางเกินอาหาร โรคเนื้องอก และโรคอื่น ๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aptorum Group โปรดดูที่ www.aptorumgroup.com

เกี่ยวกับ Claves Life Sciences Limited

Claves Life Sciences Limited เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจยารักษาโรค โดยเป็นบริษัทในเครือของ Aptorum Group Limited ทำหน้าที่คิดค้นพัฒนาตัวยารักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร โดยตัวยาที่กำลังวิจัยและมีแนวโน้มพัฒนาต่อไปคือการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ที่มาจากการเผาผลาญอาหารเพื่อป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ Claves ยังค้นหาแพลตฟอร์มการปรับสมดุลจุลินทรีย์ที่สร้างสายพันธุ์โมเลกุลใหม่ ๆ ที่สามารถปรับตัวเข้ากับระดับของกระบวนการเผาผลาญในลำไส้ และยังสามารถใช้รักษาอาการทางการแพทย์ต่าง ๆ ได้อีกมากมาย

เกี่ยวกับ Smart Pharma Group

Smart Pharma Group ประกอบด้วย Smart Pharmaceutical Limited Partnership, SMTPH Limited และบริษัทในเครืออื่น ๆ Smart Pharma Group เป็นบริษัทในเครือของ Aptorum Group Limited เน้นการนำยารักษาโรคที่ผ่านการรับรองมาใช้ใหม่อย่างเป็นระบบเพื่อการรักษาโรคหายากต่าง ๆ Smart Pharma Group ทำการสกรีนและคิดค้นวินิจฉัยผ่านระบบคอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาตัวยาให้มีความทันสมัย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Smart Pharma Group โปรดดูที่ www.smtph.com

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบและข้อความที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Aptorum Group Limited และความคาดหวังในอนาคต แผน และโอกาสในอนาคตซึ่งเป็น “แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า” ภายใต้ความหมายของพระราชบัญญัติปฏิรูปกฎหมายฟ้องร้องหลักทรัพย์เอกชนปี พ.ศ. 2538 ข้อความที่มีอยู่ในเอกสารฉบับนี้ซึ่งไม่ใช่แถลงการณ์ของข้อเท็จจริงในอดีตอาจถือเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ในบางกรณีคุณสามารถระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าโดยใช้คำเช่น“ อาจ” “ควร” “คาดว่า” “มีแผนจะ” “คาดการณ์” “อาจจะทำได้” “ตั้งใจว่า” “มีเป้าหมายว่า” “มีโครงการว่า" "พิจารณาจะ" "เชื่อว่า" "ประเมินว่า" "พยากรณ์" "มีศักยภาพจะ" หรือ "จะดำเนินการต่อ"  หรือคำตรงข้ามของคำเหล่านี้หรือสำนวนอื่น ๆ ที่คล้ายกัน กลุ่ม Aptorum ได้ใช้แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้โดยส่วนใหญ่มาจากความคาดหวังและการคาดการณ์ในปัจจุบันเกี่ยวกับเหตุการณ์และแนวโน้มในอนาคตซึ่งบริษัท เชื่อว่าอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้พูดเฉพาะวันที่ของเอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้และอยู่ภายใต้ความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และข้อสันนิษฐาน รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ประกาศไว้และการเปลี่ยนแปลงองค์กร การให้บริการอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการขยายการจัดประเภทผลิตภัณฑ์โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มเติม กลยุทธ์การเติบโตของบริษัทที่คาดการณ์ไว้ แนวโน้มและความท้าทายที่คาดการณ์ไว้ในธุรกิจของบริษัท และความคาดหวังเกี่ยวกับเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและความเสี่ยงอย่างเต็มที่อธิบายไว้ในแบบฟอร์ม 20-F ของกลุ่ม Aptorum และเอกสารอื่น ๆ ที่กลุ่ม Aptorum อาจทำกับ กลต. ในอนาคต กลุ่ม Aptorum ไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่มีอยู่ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้อันเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

1 Protein Cell. May; 9(5): 397–403.

2 Obes Surg. 2012 Jun;22(6):956-66

3 https://www.cancer.gov/publications/dictionaries/cancer-terms?expand=N

4 ดู https://www.cancer.org/cancer/neuroblastoma/detection-diagnosis-staging/survival-rates.html.

ติดต่อ:

นักลงทุน: 
โทร: +852 2117 6611 
อีเมล: investor.relations@aptorumgroup.com

สื่อ: 
โทร: + 852 2117 6611 
อีเมล: info@aptorumgroup.com

เอ็กซอนโมบิลและปอร์เช่ขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีกีฬามอเตอร์สปอร์ตในการแข่งขันฟอร์มูลาอี

Logo

รถยนต์ปอร์เช่ที่จะลงแข่งขันรายการฟอร์มูลาอีจะใช้น้ำมันเครื่องและน้ำมันหล่อลื่นจากแบรนด์โมบิล

สปริง, เท็กซัส–(BUSINESS WIRE)–06 กันยายน 2562

เอ็กซอนโมบิลขยายความร่วมมือทางธุรกิจและเทคนิคกับปอร์เช่ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนี ในการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูลาอีฤดูกาล 2019 / 2020 ซึ่งการจับมือเป็นพันธมิตรกันครั้งใหม่นี้ เป็นการพาเอ็กซอนโมบิลลงสนามแข่งขันรถฟอร์มูลาพลังงานไฟฟ้า หรือ ‘ฟอร์มูลาอี’ เป็นครั้งแรก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูแบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190906005023/en/

ExxonMobil is expanding its global business and technical partnership with Porsche by teaming with the luxury German automaker on its Formula E series car for the 2019 / 2020 season. (Photo: Business Wire)

เอ็กซอนโมบิลขยายความร่วมมือทางธุรกิจและเทคนิคกับปอร์เช่ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนี ในการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูลาอีฤดูกาล 2019 / 2020 (รูปภาพ: Business Wire)

โดยนับตั้งแต่การแข่งขันสนามแรกในซาอุดิอาระเบียช่วงปลายปีนี้ เอ็กซอนโมบิลจะเป็นผู้สนับสนุนน้ำมันหล่อลื่นระบบส่งกำลังไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงให้กับรถยนต์ปอร์เช่ที่ใช้ในการแข่งขัน ซึ่งเป็นน้ำมันหล่อลื่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อการใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ

“การเข้าร่วมวงฟอร์มูลาอีของเรากับปอร์เช่ ไม่เพียงแสดงถึงการขยายความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างดีของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึงการขยายความเป็นพันธมิตรที่ประสบความสำเร็จในวงการแข่งรถอีกด้วย” Russ Green รองประธานฝ่ายน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปแห่งเอ็กซอนโมบิล กล่าว “ขณะที่ปอร์เช่จะลงแข่งขันและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองนั้น พร้อมกัน เอ็กซอนโมบิลก็ได้พัฒนาน้ำมันเครื่องแบรนด์โมบิลแบบครบเซ็ตขึ้นเพื่อช่วยให้ทีมฟอร์มูลาอีของปอร์เช่ต่อยอดความสำเร็จในการแข่งขันทั่วโลก การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตคือสนามทดสอบที่สุดยอดที่ช่วยให้เราเดินหน้าพัฒนาน้ำมันเครื่องและน้ำมันหล่อลื่นประสิทธิภาพสูงต่อไป”

รถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันรถฟอร์มูลาพลังงานไฟฟ้าจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีน้ำมันเครื่องประสิทธิภาพสูงตามความต้องการของแบตเตอรี่รถยนต์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนำไฟฟ้า ระบบทำความเย็น และความเข้ากันได้ของวัสดุ

“ในฐานะที่เป็นพันธมิตรทางเทคนิคเจ้าหลักมากว่า 20 ปี ไม่มีผู้ให้บริการน้ำมันเครื่องรายไหนจะเข้าใจปรัชญาประสิทธิภาพของรถยนต์ปอร์เช่ได้ดีกว่าเอ็กซอนโมบิลอีกแล้ว” Fritz Enzinger รองประธานฝ่ายมอเตอร์สปอร์ตของปอร์เช่ กล่าว “เอ็กซอนโมบิลไม่เพียงแต่เป็นพันธมิตรที่มีคุณค่าต่อธุรกิจการค้าของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมทีมที่สำคัญในการไล่ล่าชัยชนะตั้งแต่จากเซบริงไปจนถึงเลอม็อง พวกเขาคือสิ่งเติมเต็มที่ทีมฟอร์มูลาอีของเราขาดไม่ได้ ในการเข้าสู่ยุคใหม่ของการแข่งขันอันน่าตื่นเต้นของปอร์เช่”

การร่วมมือด้านเทคนิคครั้งใหม่นี้จะเพิ่มตารางกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกที่เอ็กซอนโมบิลกับปอร์เช่ร่วมมือกันให้ยาวออกไปอีก ซึ่งรายการแข่งขันที่มีอยู่ปัจจุบันประกอบด้วยรายการ World Endurance Championships, IMSA WeatherTech SportsCar Championship, Porsche Mobil 1 Supercup, Porsche Carrera Cup และกิจกรรมการแข่งขันสำหรับลูกค้าอีกหลายรายการทั่วโลก

เกี่ยวกับเอ็กซอนโมบิล

เอ็กซอนโมบิล เป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก

เกี่ยวกับเอ็กซอนโมบิลในกีฬามอเตอร์สปอร์ต

สนามแข่งขัน คือ สนามทดสอบน้ำมันเครื่องและเชื้อเพลิงภายใต้แบรนด์เอ็กซอนโมบิลที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับปรับปรุงพัฒนาเทคโนโลยีในกลุ่มน้ำมัน น้ำมันเครื่อง และเชื้อเพลิงของเรา แต่ละฤดูกาลแข่งขัน ผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยของเราจะลงไปทำหน้าที่ในการพัฒนาสมรรถนะและประสิทธิภาพของรถยนต์ ผลิตภัณฑ์ของเอ็กซอนโมบิลทำหน้าที่เป็นน้ำมันที่คอยหล่อลื่นทีมแข่งขันชั้นนำของโลกหลายทีมที่ลงแข่งในรายการมอเตอร์สปอร์ตต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้ทั้งทักษะและความพยายามอย่างสูง สิ่งที่เราได้เรียนรู้ผ่านการจับมือเป็นพันธมิตรเหล่านี้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรของเราสามารถขยายขีดจำกัดในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้กว้างไกลยิ่งขึ้น

ExxonMobil ยังภาคภูมิใจกับการเป็นพันธมิตรกับทีม Aston Martin Red Bull Racing และทีม Stewart-Haas Racing ในการแข่งขันรายการ NASCAR’s Sprint Cup Series ทีม Porsche, Bentley และ TOYOTA GAZOO Racing ในการแข่งขัน FIA World Endurance Championship ทีม Corvette Racing, Porsche North America, Lexus และ Acura/Caterpillar ในการแข่งขัน IMSA WeatherTech SportsCar Championship รวมถึงอีกหลายทีมที่ลงแข่งขันในรายการต่าง ๆ ที่จัดขั้นทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอ็กซอนโมบิลและแบรนด์ต่าง ๆ ของเรา โปรดดูที่ www.exxonmobil.com หรือติดตามเราทางทวิตเตอร์ได้ที่ www.twitter.com/exxonmobil

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190906005023/en/

ติดต่อ:

สื่อมวลชนสัมพันธ์
832-625-4000

The Bangkok Reporter